รีวิว ByBit - แพลตฟอร์มการซื้อขาย Crypto Margin หลายสกุลเงิน
- รองรับคริปโตหลากหลายเหรียญ
- ค่าธรรมเนียมต่ำ
- ไม่มีขั้นตอน KYC
ByBit คือหนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดอนุพันธ์ที่เป็นที่รู้จักอย่างมากในวงการคริปโต โดยมันเริ่มเปิดตัวให้บริการมาตั้งแต่ปี 2018 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ ด้วยจุดเด่นในด้านความปลอดภัยจากระบบวอลเล็ตแบบ Multi-signature Cold Wallet ที่ช่วยลดความเสี่ยงให้ผู้ใช้งานจากการถูกแฮก และอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และเข้าถึงได้ทั้งผ่านเว็บไซต์หรือแอปบนมือถือ ซึ่งเหมาะสำหรับทั้งนักเทรดมือใหม่และนักเทรดมืออาชีพ ทำให้มันจึงเป็นที่นิยมของนักเทรดทั่วโลกนอกจากจุดเด่นในเรื่องการใช้งานและความปลอดภัยแล้ว สิ่งที่ทำให้แพลตฟอร์มนี้มีความโดเด่นขึ้นมาจากผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเทรดรายอื่นนั่นก็คือ ระบบการจับคู่คำสั่งซื้อที่รองรับรับการทำธุรกรรมได้มากถึง 100,000 รายการต่อวินาที รวมถึงความสามารถในการปรับอัตราเลเวอเรจได้ในระหว่างการเปิดสถานะคำสั่ง โดยที่ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะภายในแพลตฟอร์มเท่านั้น อีกทั้งนอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์และเครื่องมือการซื้อขายขั้นสูงจำนวนมาก ที่จะช่วยสนับสนุนให้ผู้ใช้งานสามารถทำการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างไรก็ตามเนื่องจากปัญหาด้านกฎระเบียบ ทางแพลตฟอร์มจึงไม่อนุญาตให้นักเทรดจากสหรัฐอเมริกาใช้งานแพลตฟอร์มของตน รวมถึงไม่สามารถให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยและพลเมืองจากประเทศ ควิเบก (แคนาดา), สิงคโปร์, คิวบา, ไครเมียและเซวาสโทพอล, อิหร่าน, ซีเรีย, เกาหลีเหนือ, และ ซูดานจากการเติบโตอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ปี 2018 ทำให้มันกลายเป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่น่าสนใจของนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพจำนวนมาก ต่อไปนี้เราจะมาเจาะลึกกันถึงคุณสมบัติหลักภายในแพลตฟอร์ม และความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มนี้กัน
ข้อดี
- การซื้อขายมาร์จิ้นด้วยเลเวอเรจสูง
- การสนับสนุนหลายสกุลเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่ำ
- ไม่ต้องทำ KYC
- อินเทอร์เฟซการซื้อขายที่ทรงพลัง
ข้อเสีย
- รองรับการถอนในบางสกุลเงิน
- ข้อจำกัดในการเข้าถึงในบางประเทศ
- มีค่าธรรมเนียมในการถอน
- ไม่เป็นมิตรต่อนักเทรดมือใหม่
รีวิว Bybit: คุณสมบัติหลัก
เรียกได้ว่า Bybit เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่โดดเด่นจากการมีฟีเจอร์ที่สามารถรองรับผู้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย โดยต่อไปนี้จะเป็นการ รีวิว Bybit เกี่ยวกับฟีเจอร์หลักภายในแพลตฟอร์ม
1. บริการด้านการเทรด – ทางแพลตฟอร์มบริการด้านการเทรดหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดแบบ:
- Spot Trading: ที่ผู้ใช้งานสามารถซื้อขายคริปโตในตลาดได้โดยตรง
- Futures Trading: แพลตฟอร์มนำเสนอการเทรดแบบฟิวเจอร์ที่สามารถใช้เลเวอเรจสูงสุดถึง 100 เท่า ซึ่งทำให้นักเทรดมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงได้ในระยะสั้น
- Options Trading: เป็นบริการซื้อขายแบบออปชั่น ให้ผู้ใช้งานสามารถบริหารความเสี่ยงได้ตามความต้องการ
2. Bybit Earn –ฟีเจอร์ Bybit Earn เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างผลตอบแทนแบบ passive ได้โดยไม่จำเป็นต้องเทรด ผ่านบริการดังนี้
- Staking: ผู้ใช้งานสามารถทำการ Staking สินทรัพย์ดิจิทัลที่ตนเองถือเพื่อรับผลตอบแทน
- Liquidity Mining: ผู้ใช้งานสามารถนำเข้าร่วมพูล เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับแพลตฟอร์ม และรับผลตอบแทนในการเข้าร่วมได้
- Crypto Loans: เป็นบริการให้ยืมและกู้ยืมสกุลเงินดิจิทัล โดยผู้ใช้สามารถใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่เป็นหลักประกันสำหรับการกู้ยืมต่างๆได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ตั้งแต่ 7 วัน, 14 วัน, 30 วัน, 90 วัน ไปจนถึง 180 วัน
3. NFT Marketplace –ทางกระดานเทรดมีแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขาย NFT ของตนเอง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงตลาด NFT เพื่อทำการแลกเปลี่ยนและถือครองรับ NFT ได้ภายในการใช้งานเพียงแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งช่วยลดปัญหาการใช้งานหลายแพลตฟอร์มคริปโต4. Copy Trading –กระดานเทรดยังได้นำเสนอฟีเจอร์สำหรับการคัดลอกกลยุทธ์การเทรดของนักเทรดมืออาชีพได้ ซึ่งให้ประโยชน์ทั้งกับผู้เริ่มต้นเทรดที่ไม่อยากเสียเวลาในการวิเคราะห์ตลาดและสร้างกลยุทธ์ของตัวเอง ในขณะที่นักเทรดมืออาชีพก็สามารถได้รับผลตอบแทนจากการมีผู้ใช้กลยุทธ์การเทรดของตนเองและทำกำไรได้เช่นเดียวกัน5. Trading Bots –ฟีเจอร์ Trading Bots จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าการซื้อขายโดยอัตโนมัติตามกลยุทธ์ที่จัดเตรียมไว้ได้ โดยแพลตฟอร์มมีการนำเสนอ Trading Bots ที่หลากหลายสำหรับการเทรดในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Grid Bot, DCA Bot หรือ Futures Martingaleนอกจากนี้แพลตฟอร์มยังมีอีกหลากหลายฟีเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Launchpad และ Launchpool ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงคริปโตจากโครงการใหม่ได้ก่อนที่จะถูกเปิดตัวลงตลาด และฟีเจอร์อื่นๆอีกมากมายที่กำลังรอให้ผู้ใช้งานหน้าใหม่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมัน
ความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม
นับตั้งแต่เปิดให้บริการมา ByBit ไม่เคยมีประวัติการถูกแฮกหรือข้อมูลรั่วไหลเลยสักครั้ง โดยแพลตฟอร์มมีการใช้ระบบ Multi-signature Cold Wallet รายการเก็บรักษาสินทรัพย์ อีกทั้งยังมีระบบแยกเงินทุนระหว่าง Cold wallet กับ Hot wallet ให้กับผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ทางแพลตฟอร์มยังมีฝ่ายสนับสนุนที่รองรับรับหลากหลายภาษา และพร้อมคอยให้บริการลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางติดต่ออย่างไลฟ์แชทหรือการติดต่อผ่านอีเมล
ทั้งนี้ในปัจจุบัน มีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มนี้ในการเทรดมากกว่า 6 ล้านคนทั่วโลก ในปีที่ผ่านมาทางแพลตฟอร์มมีการใช้เงินในด้านโฆษณาไปมากกว่า 120 ล้านดอลลาร์ไปกับการโฆษณา อีกทั้งยังเป็นสปอนเซอร์ให้กับ F1 Red Bull Racing
โดยรวมแล้วมันถือเป็นกระดานซื้อขายมาร์จิ้นที่ค่อนข้างใหม่แต่มีความทะเยอทะยานสูง และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเว็บไซต์ซื้อขายเลเวอเรจคู่แข่งเช่น BitMEX หรือ PrimeXBT และนอกจากนี้มันยังถือเป็นแพลตฟอร์มที่ถูกก่อตั้งและดูแลโดย Ben Zhou ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินที่มีชื่อเสียงจากการเป็นผู้จัดการของบริษัท Forex brokers XM มานานถึง 7 ปี จึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มการเทรดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ค่าธรรมเนียมของ ByBit
หนึ่งจุดเด่นของแพลตฟอร์มคือการนำเสนอค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรมต่อผู้ใช้งาน โดยต่อไปนี้จะเป็นรีวิว Bybit โดยกล่าวถึงค่าธรรมเนียมต่างๆที่ผู้ใช้งานควรรู้ก่อนทำการเทรดบนแพลตฟอร์ม โดยจะมีตารางเปรียบเทียบอัตราค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนอื่นๆในช่วงท้าย
เมื่อคุณได้สร้างบัญชีสำเร็จและได้ล็อคอินเข้ามาใช้งานภายในแพลตฟอร์มแล้ว ขึ้นตอนต่อไปคือการยืนยันตัวตนผ่านระบบ KYC โดยการคลิกเข้าไปยังโปรไฟล์ของคุณด้านบน และเลือกเมนู บัญชีและความปลอดภัย (Account & Security)จากนั้นเลือกเมนู ยืนยันตอนนี้ ที่อยู่ด้านขวาของคอลัมน์การยืนยันตัวตน (Identity Verification)โดยในหน้าการยืนยันตัวตน จะมีระดับการยืนยันตัวตน 2 ชั้น ซึ่งการผ่านขึ้นตอนการยืนยันตัวตนแต่ละชั้นจะเพิ่มวงเงินในการฝากถอนของคุณได้ โดยในชั้นแรกจะเป็นการยืนยันตัวตนผ่านการอัปโหลดเอกสารส่วนบุคคลของคุณและสแกนใบหน้าและในชั้นที่สองคือการยืนยันตัวตนผ่านการอัพโหลดเอกสารที่สามารถยืนยันที่อยู่ของผู้ใช้งานได้ ยกตัวอย่างเช่น บิลค่าสาธารณูปโภค ใบแจ้งยอดธนาคาร และหลักฐานแสดงถิ่นที่อยู่ที่ออกโดยรัฐบาล โดยคุณสามารถอัพโหลดเอกสารดังกล่าวได้ในขึ้นตอนนี้และรอรับการยืนยันจากทางแพลตฟอร์มเพื่อรับวงเงินเพิ่ม
ขั้นตอนที่ 3: ทำการฝากและซื้อคริปโต
ขึ้นตอนนี้เป็นขึ้นตอนสำหรับผู้ที่ถือครองรับคริปโตในคริปโตวอลเล็ตของแพลตฟอร์มอื่นอยู่แล้ว โดยคุณสามารถทำการโอนคริปโตเหล่านี้เข้ามายังกระดานเทรดได้ รวมถึงสามารถซื้อเหรียญคริปโตภายในแพลตฟอร์มผ่านช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายได้ โดยสามารถทำความเข้าใจขึ้นตอนเหล่านี้ได้บนบทความในหัวข้อ การซื้อ – ถอนคริปโตจาก ByBit
ด้านล่าง
ขั้นตอนที่ 4: เริ่มต้นการใช้งานและสำรวจผลิตภัณฑ์
หลังจากที่ทำการฝากคริปโตหรือซื้อเหรียญภายในแพลตฟอร์มสำเร็จ คุณสามารถเริ่มต้นการใช้งานได้ทันที โดยคุณสามารถทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ภายในแพลตฟอร์มที่ผู้เริ่มต้นใช้งานควรรู้จักได้จากหัวข้อ คุณสมบัติหลัก ในบทความด้านบน และสามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้วิธีการใช้งานคุณสมบัติการ Copy Trading ได้ผ่านวีดีโอ “Learn How to Copy Master Crypto Traders on Bybit! (Step-by-Step Tutorial)” ในภาษาไทย (เลือก Auto-translate) ทำความเข้าใจเพิ่มเติม
การฝาก – ถอนคริปโตภายใน Bybit
ต่อไปนี้จะเป็นการแนะนำวิธีการสำหรับผู้ที่ต้องการฝาก – ถอนคริปโตจากกระดานแลกเปลี่ยน
การฝากคริปโต
Bybit มีการรองรับการฝากเงินเข้าไปยังแพลตฟอร์มอยู่ 2 วิธี ได้แก่
1. ฝากคริปโต
ใช้งานสามารถโอนเงินจากคริปโตวอลเล็ตของตนเองเข้าไปภายในแพลตฟอร์มเพื่อนำมาใช้เทรดได้ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่เครือข่ายรองรับรับ และจะต้องทำการโอนโดยตรงเท่านั้น โปรดอย่าทำการโอนสินทรัพย์ผ่าน Smart Contract และสำหรับการฝากเหรียญที่ต้องใช้แท็ก/memo ควรตรวจสอบแท็กกรอกแท็ก/memoให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการสูญเสียสินทรัพย์ โดยสามารถเข้าไปยังเมนู “สินทรัพย์” จากนั้นคลิกไปยัง “บัญชีสปอต” เพื่อเข้าสู่หน้าสินทรัพย์ จากนั้นให้คลิกไปยัง ตัวเลือก “ฝากเงิน” ในสกุลเงินที่ต้องการฝาก และแสกนหรือคัดลอก Address บนบัญชีของผู้ใช้งานเพื่อใช้ทำการย้ายสินทรัพย์บนคริปโตวอลเล็ตไปยังกระดานเทรด
2. ซื้อคริปโตโดยสกุลเงินปกติ
ในปัจจุบันผู้ใช้งานสามารถทำการซื้อสกุลคริปโตอย่าง BTC, ETH, USDT, USDC, XRP และ EOS ผ่านสกุลเงินปกติ (Fiat) บนแพลตฟอร์มได้แล้วผ่านหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต/เดบิต, ซื้อผ่านการโอนเงินจากธนาคาร, ซื้อผ่านบุคคลที่สาม, หรือซื้อขายแบบ P2P สามารถคลิกไปยังตัวเลือก “ซื้อคริปโต” และเลือกตัวช่องทางในการซื้อเหรียญตามที่ต้องการ
การถอนคริปโตออกจาก Bybit
ผู้ใช้งานในประเทศไทยสามารถทำการถอนคริปโต ได้ 2 รูปแบบดังนี้
1. ถอนในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล
ผู้ใช้งานสามารถทำการถอนหรือโอนสินทรัพย์บนกระดานเทรดของตนเองไปยังคริปโตวอลเล็ตอื่นๆที่มีได้ โดยสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือการตั้งค่าการยืนยันตัวตน 2 ชั้นตอนโดย Google หรือ Google Authenticator บนบัญชีของผู้ใช้งาน เพื่อเป็นการเข้าสู่ระดับความป้องกันพื้นฐานสำหรับการโอนสินทรัพย์ไปยัง Address บนเชนต่างๆหลังจากตั้งค่า Google Authenticator บนบัญชี ให้ผู้ใช้งานทำการโยกสินทรัพย์ที่ต้องการถอนไปยังวอลเล็ตของบัญชีสปอตก่อน หลังจากนั้นเข้าไปยังหน้าวอลเล็ตของบัญชีสปอตและคลิกไปยังตัวเลือก “Withdraw” ในคอลัมของสินทรัพย์ที่ต้องการโดยหลังจากกดเลือกเมนู “Withdraw” ทางระบบจะนำผู้ใช้งานไปยังหน้าสำหรับการโอน โดยหากคุณต้องการทำการถอนสินทรัพย์ไปยังวอลเล็ตของแพลตฟอร์มอื่นๆ คุณสามารถทำได้จากการคลิกไปยังเมนู “Add a withdrawal address” และคลิกไปยังเมนู “Add” ด้านขวาเพื่อเพิ่ม Address ที่ต้องการบันทึกได้เมื่อเข้าสู่หน้าต่างการเพิ่ม Address ให้ผู้ใช้งานป้อนข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็น Address ของวอลเล็ตปลายทาง, ประเภทของเชนปลายทาง, และแท็ก/บันทึก สำหรับกรณีที่บล็อกเชนปลายทางมีเงื่อนไขให้ระบุแท็ก/บันทึกสำหรับการโอนไปยังบัญชีที่ถูกต้อง โดยหลังจากกรอกข้อมูลสำเร็จ ให้ตรวจสอบรายละเอียดให้ถูกต้องและกด “Confirm”หลังทำการบันทึก Address ปลายทางเรียบร้อย ให้กลับเข้าสู่หน้าการถอนอีกครั้ง และเลือก Address ปลายทางที่ทำการบันทึกไว้ก่อนหน้า พร้อมเลือกประเภทของเชนที่ถูกต้อง โดยแต่ละเชนจะมีอัตราค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันเมื่อเลือกทุกอย่างเสร็จสิ้น ให้กรอกจำนวนสินทรัพย์ที่ต้องการทำการถอน หรือคลิกไปยังตัวเลือก “All” เพื่อทำการถอนสินทรัพย์ทั้งหมดในสกุลนั้น โดยมีข้อแม้ว่าในแต่ละเชนจะมีการจำกัดจำนวนสินทรัพย์ที่ต้องการโอนขั้นต่ำที่แตกต่างกันทางด้านขวามือของหน้าต่างหลังจากกรอกข้อมูลและตรวจสอบรายการอย่างแน่ใจแล้ว ให้คลิกไปยังปุ่ม “Submit” เพื่อทำการยืนยันการถอนเงิน โดยในขึ้นตอนนี้ผู้ใช้งานจะต้องทำการยืนยันตัวตนด้วยอีเมลและ Google Authenticator เพื่อปลดล็อกคำสั่งถอน (ในกรณที่วอลเล็ตยังไม่ได้รับการยืนยัน) และทำตามขึ้นตอนตรวจสอบจากรูปภาพ ในขึ้นตอนสุดท้าย
2. ถอนในรูปแบบเงินปกติ
สำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย ทางแพลตฟอร์มได้นำเสนอวิธีการถอนเงินเป็นเงินสกุลปกติอยู่หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบริการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารผ่านทาง SWIFT โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ใช้งานจะต้องมีบัญชีอยู่ในระดับ VIP3 ขึ้นไปเท่านั้น โดยได้ลงทะเบียนไว้มากกว่า 6 เดือน และไม่อยู่ในรายการต้องห้าม ทั้งนี้หากผู้ใช้งานมีบัญชีที่อยู่ในเกณฑ์ในการถอนได้ สามารถทำตามขึ้นตอนการถอนที่คล้ายกับขึ้นตอนการถอนคลิปโต เพียงแค่คลิกไปยังเมนู “Fiat Withdrawal” บนเมนูด้านบนขวาของหน้าต่างการถอนเงินเท่านั้น และทำตามขึ้นตอนโดยการกรอกเลขบัญชีธนาคารของผู้ใช้งานพร้อมกดยืนยันโดยระบบจะนำผู้ใช้งานเข้าไปยังหน้ายืนยันการถอน ซึ่งจำเป็นจะต้องทำการยืนยันตัวตนด้วยอีเมลและ Google Authenticator เพื่อปลดล็อกคำสั่งถอน และทำตามขึ้นตอนตรวจสอบจากรูปภาพ ในขึ้นตอนสุดท้ายเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะสามารถกดยืนยันการถอนได้แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนช่องทางการถอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการถอนเงินผ่านระบบ P2P ซึ่งไม่มีค่าธรรมเนียม ผ่านการเข้าไปยังหน้าการซื้อขายแบบ P2P และคลิกไปยังตัวเลือกขายเหรียญ จากเลือกร้านค้าที่ต้องการทำการแลกเปลี่ยนด้วย โดยให้ตรวจสอบร้านค้าให้ดีก่อนที่จะทำการแลกเปลี่ยน ซึ่งดูได้ผ่านคะแนนจากผู้ใช้บริการ และอัตราสำเร็จในการซื้อขาย
กระดานเทรดอื่นๆนอกจาก ByBit ที่ควรรู้จัก
ทั้งนี้นอกจาก Bybit แล้ว ยังมีกระดานเทรดคริปโตอีกหลายรายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Binance ที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในตลาด จากจำนวนเหรียญให้เลือกลงทุนที่หลากหลายกว่าแพลตฟอร์มอื่น หรือแพลตฟอร์ม Coinbase ที่มีจุดเด่นด้านความปลอดภัยและเป็นมิตรกับนักเทรดมือใหม่ รวมถึงกระดานเทรดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแถบเอเชียอย่าง Huobi Global และ KuCoinและนอกจากกระดานเทรดเหล่านี้แล้ว ยังมีกระดานเทรดอีกหลายแห่งที่นำเสนอจุดเด่นเฉพาะด้านที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นความโดเด่นด้านความเสถียรภาพ ฟีเจอร์ที่หลากหลาย หรือแม้แต่การคิดค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าแพลตฟอร์มรายอื่นๆ ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการตัวเลือกแพลตฟอร์มกระดานเทรดอื่นๆ สามารถเข้าไปศึกษาได้ในบทความ 13 กระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุด แห่งปี 2024 ได้เลย
บทสรุป
เรียกได้ว่า Bybit ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่น่าเชื่อถือสำหรับการเทรดคริปโตในรูปแบบ Spot หรือ Future โดยมีจุดแข็งคือค่าเลเวอเรจที่สูงกว่าผู้ให้บริการส่วนใหญ่ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติขั้นสูงหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น และ รวมถึงระบบภายในและอินเทอร์เฟซของแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำการแลกเปลี่ยนและซื้อขายสินทรัพย์ได้อย่างราบรื่น พร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัยที่ได้รับคุณภาพตามหลักสากล ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มันกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ต้องการเทรดในตลาดคริปโต
Other Exchanges
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ
- การสนับสนุนหลายแพลตฟอร์ม
- ซื้อขาย cryptocurrencies มากกว่า 180 รายการบน Binance
- Fiat เป็นคริปโตแบบ
- On-ramp การซื้อขายแบบมาร์จิ้น
- ตัวเลือกความปลอดภัยมากขึ้น