รวม 12 อันดับกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ดีที่สุด [แนะนำ!]

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือเหตุผลที่นักลงทุนคริปโตควรมองหากระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ดีที่สุดเพื่อรับรองได้ว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุด

เราได้ตรวจสอบกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet สำหรับการจัดเก็บคริปโตมากกว่า 40 รายการและทำการทดลองใช้จริงเพื่อค้นหาและคัดเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด พร้อมกับการเขียนรีวิวฉบับย่อเพื่อสรุปข้อมูลที่สำคัญ

12 อันดับกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ดีที่สุด


เราได้รวบรวมและเปรียบเทียบกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ดีที่สุด 12 อันดับแรกสำหรับการจัดเก็บคริปโต โดยอุปกรณ์แต่ละรายการตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและมีราคาที่ค่อนข้างเข้าถึงได้

Hardware สำหรับคริปโต ราคา คุณสมบัติเด่น เหมาะสำหรับ คะแนนจากเรา
Cypherock X1 $199 กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ใช้ Shamir Secret Sharing จำนวน 4 ใบเพื่อกระจาย Keys เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับวิธีการเก็บและการกู้คืนที่ปลอดภัย 9/10
Ellipal Titan $169 กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ระบบ Air-gapped ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุดเพราะอุปกรณ์ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้มีโอกาสที่จะถูกแฮ็กจากระยะไกลน้อยมาก 8/10
Ledger Nano X $149 กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มี Bluetooth และซอฟต์แวร์แบบ Open-source เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการกระเป๋าคริปโตอเนกประสงค์ที่สามารถจัดการคริปโตหลากหลายประเภทได้ขณะเดินทาง 9/10
Trezor Model T $129 กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบหน้าจอสัมผัสที่รองรับเหรียญจากบล็อกเชนหลากหลายเครือข่าย ผู้ที่ชื่นชอบอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและซอฟต์แวร์แบบ Open-Source เพื่อความโปร่งใสและความปลอดภัย 9/10
Tangem $54.90 กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มีชิปรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการรับรอง EAL 6+ ผู้ใช้ที่มองหากระเป๋าคริปโตแบบพกพาได้และไม่มีการตั้งค่าที่ซับซ้อน 7/10
Ledger Nano S Plus $79 กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มีชิป Secure Element ผู้ที่สนใจจัดเก็บ NFT ในขณะที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย 8/10
Trezor Model One $49 กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet มีประวัติให้บริการมาอย่างยาวนาน อุปกรณ์มีราคาย่อมเยาว์และมีความปลอดภัยสูง 8/10
Jade Plus $169 กระเป๋าคริปโตที่รองรับ Bitcoin โดยเฉพาะแบบ Open-Source ผู้ใช้ที่ลงทุนใน Bitcoin เท่านั้นและชื่นชอบคุณสมบัติ Open-Source 7/10
NGRAVE ZERO $398 กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ไม่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (Air-gapped) ที่มีการผลิตที่เป็นไปตามมาตรฐานทางการทหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูง โดยเฉพาะผู้ที่ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมาก 9/10
Safepal S1 Pro $89.99 กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มาพร้อมชิป Secure Element นักลงทุนที่ต้องการจัดเก็บสินทรัพย์จากบล็อคเชนหลากหลายเครือข่ายและฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติม 8/10
Coldcard Mk4 $167.94 กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet สำหรับการจัดเก็บ Bitcoin โดยเฉพาะที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและมาตรการความปลอดภัยขั้นสูง 8/10
SecuX V20 $139 กระเป๋าคริปโตที่รองรับแพลตฟอร์มหลายแพลตฟอร์มและมีการเชื่อมต่อ Bluetooth ผู้ใช้ที่ต้องการความสมดุลระหว่างความสะดวกในการใช้งานและการรองรับสินทรัพย์ที่หลากหลาย 7/10

รีวิวกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ดีที่สุด


จากการสำรวจของเราพบว่ากระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ดีที่สุดนั้นจะต้องมีความสมดุลระหว่างความปลอดภัย ความง่ายในการใช้งาน และราคาที่เหมาะสม นี่คือการเปรียบเทียบตัวเลือกกระเป๋าคริปโตอันดับต้น ๆ ของเรา

1. Cypherock X1 – กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบ 4 ใน 1 ที่มาพร้อมการป้องกันแบบกระจายศูนย์

Cypherock X1 เป็นกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ออกแบบมาเพื่อมอบความปลอดภัยมากขึ้นสำหรับการเก็บรักษาสกุลเงินดิจิทัลของคุณ คุณสมบัติหลักคือเทคโนโลยี Shamir’s Secret Sharing (SSS) ซึ่งแบ่ง Seed Phrase ออกเป็นบัตร X1 หลาย ๆ ใบเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดในจุดเดียว อุปกรณ์นี้รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 8,000 สกุลและใช้เฟิร์มแวร์ (Firmware) แบบ Open Source เพื่อความโปร่งใสมากขึ้น กระเป๋าคริปโตนี้ไม่มีแบตเตอรี่ภายในซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการทำงานผิดพลาดของฮาร์ดแวร์

หน้าแรกของ Cypherock X1

Cypherock X1 ยังมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงซึ่งทนทานต่อการชำรุดและการงัดแงะ รองรับการทำงานแบบ Multi-signature และมีโปรโตคอลการเข้ารหัสขั้นสูง อุปกรณ์นี้สร้างขึ้นด้วย ATECC608 Secure Element และ Micro-Controller STM32L4 ซึ่งช่วยป้องกันอุปกรณ์จากการแฮ็ก เช่น การโจมตีแบบ Side-Channel และ Brute Force

ความสามารถในการทำงานร่วมกันของระบบ อุปกรณ์ หรือซอฟต์แวร์เป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบ เนื่องจากรองรับบล็อคเชนหลายเครือข่ายและสามารถทำงานร่วมกับกระเป๋าคริปโตแบบ Software Wallet ได้อย่างบูรณาการ แม้จะมอบความปลอดภัยระดับสูงแต่ก็ยังคงความเรียบง่ายด้วยจอแสดงผล OLED ขนาดเล็กและระบบนำทางแบบจอยสติกที่ไม่ซับซ้อน

ทำไมเราถึงเลือก Cypherock X1
  • อุปกรณ์มีเทคโนโลยี Shamir’s Secret Sharing และชิป Secure Element ในการปกป้อง Private Keys
  • อุปกรณ์รองรับคริปโตเคอร์เรนซีหลายพันสกุลเงินและทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน DeFiได้
  • การนำทางที่ใช้งานง่ายและเฟิร์มแวร์แบบ Open Source ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน
  • มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และทนทานต่อการกระแทก
  • แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน การอัปเดตเฟิร์มแวร์ และความปลอดภัยระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet Cypherock X1
ราคา $199
คุณสมบัติเด่น กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบ 4 ใน 1 ที่มาพร้อม Shamir Secret Sharing เพื่อการกระจายศูนย์
เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการสำรองและการกู้คืนที่ปลอดภัย
คะแนนจากเรา 9/10

2. Ellipal Titan – กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบออฟไลน์ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่

Ellipal Titan เป็นกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่รองรับการเก็บคริปโตเคอร์เรนซีและโต้ตอบกับ dApps ไม่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต (Air-gapped) ทำให้ห่างไกลจากความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ ประมวลผลธุรกรรมผ่านรหัส QR แทนที่จะเป็น USB, Bluetooth หรือ Wifi อุปกรณ์นี้รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 10,000 สกุลเงินจากบล็อกเชน 46 เครือข่าย รวมถึงการจัดการ NFT บน Ethereum และ Polygon

หน้าแรกของ Ellipal Titan

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet นี้มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมและทำงานแบบออฟไลน์อย่างสมบูรณ์ วัสดุแข็งแรงและทนทานต่อการงัดแงะ และมีการยืนยันด้วยรหัส QR นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์ม DeFi อย่าง Uniswap และ Compound ได้อีกด้วย อินเตอร์เฟซดูคล้ายคลึงกับสมาร์ทโฟนทำให้ง่ายต่อการใช้งาน รองรับการใช้งานหลายบัญชีและการอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่าน microSD ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้โดยกำจัดกระบวนการอัปเดตที่ยุ่งยาก

โครงสร้างภายนอกเป็นโลหะทำให้ทนทานต่อการชำรุดและกันฝุ่น แม้จะมีราคาสูงกว่าตัวเลือกอื่น แต่กระเป๋าคริปโตนี้มอบคุณค่าในระยะยาวผ่านฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย การรองรับสินทรัพย์ที่หลากหลาย และอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

ทำไมเราจึงเลือก Ellipal Titan
  • มีการออกแบบแบบ Air-gapped พร้อมการยืนยันด้วยรหัส QR ซึ่งขจัดภัยคุกคามที่มาจากเครือข่าย
  • รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 10,000 สกุลเงินและทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน DeFi หลักได้
  • มีหน้าจอสัมผัสขนาด 4 นิ้วและรองรับหลายบัญชีซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
  • เคสโลหะแข็งแรง ทนทาน และกันฝุ่น

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet Ellipal Titan
ราคา $169
จุดเด่น กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบ Air-gapped พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่
เหมาะสำหรับ นักลงทุนที่ต้องการกระเป๋าคริปโตที่มีความปลอดภัยสูงและไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้ห่างไกลจากปัญหาการแฮ็กจากระยะไกลได้
คะแนนจากเรา 8/10

3. Ledger Nano X – กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่เชื่อมต่อ Bluetooth ได้พร้อมซอฟต์แวร์แบบ Open-Source

Ledger Nano X Ledger Nano X เป็นหนึ่งในกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มีฟีเจอร์มากที่สุดในรายการนี้ โดดเด่นด้วยการเชื่อมต่อ Bluetooth ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการสินทรัพย์แบบไร้สายผ่านสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ได้ ประสิทธิภาพของกระเป๋าคริปโตนี้ยอดเยี่ยมเนื่องจากรองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 5,500 สกุลเงินและสามารถรันแอปได้พร้อมกันสูงสุด 100 แอป นอกจากนี้ ยังมีชิปความปลอดภัย CC EAL5+ ที่จัดเก็บ Private Keys แบบออฟไลน์อีกด้วย

หน้าแรกของ Ledger Nano X

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet นี้มีความปลอดภัยสูงเพราะมีการจัดเก็บ Private Keys แบบออฟไลน์ การเข้ารหัสธุรกรรม Bluetooth และการเพิ่มชิปความปลอดภัยที่ช่วยให้กระเป๋าคริปโตห่างไกลจากปัญหาการถูกแฮ็กทางไซเบอร์ นอกจากจะรองรับคริปโตเคอร์เรนซีหลายพันสกุลเงินแล้วยังใช้งานร่วมกับระบบนิเวศบล็อกเชนมากมาย รวมถึงแพลตฟอร์ม DeFi และ NFT

ในแง่ของประสบการณ์ผู้ใช้ กระเป๋าคริปโตนี้เข้าถึงได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากมีจอแสดงผล HD ขนาดใหญ่ขึ้น การนำทางแบบ 2 ปุ่ม และมีวิธีการตั้งค่าที่ง่ายดายโดยใช้แอป Ledger Live นอกจากนี้ ยังสามารถพกพาได้อย่างสะดวกเนื่องจากมีขนาดกะทัดรัดและแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถจัดการสินทรัพย์ได้จากทุกที่

ทำไมเราจึงเลือก Ledger Nano X
  • ชิปความปลอดภัย CC EAL5+ และการเชื่อมต่อ Bluetooth แบบเข้ารหัสจะช่วยปกป้องกระเป๋าคริปโตให้ห่างไกลจากภัยคุกคามทางไซเบอร์
  • กระเป๋าคริปโตนี้รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 5,500 สกุลเงินและสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน DeFi หลักได้
  • หน้าจอแสดงผล HD ขนาดใหญ่ การนำทางที่เรียบง่าย และแอป Ledger Live ทำให้ใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น
  • การออกแบบที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา และมีแบตเตอรี่ในตัวสำหรับการใช้งานบนมือถือ
  • อุปกรณ์มีราคาค่อนข้างสูงแต่คุ้มค่าเพราะรองรับคริปโตเคอร์เรนซีอย่างหลากหลาย คุณสมบัติด้านความปลอดภัย และการอัปเดตเฟิร์มแวร์

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet Ledger Nano X
ราคา $149
คุณสมบัติเด่น กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มี Bluetooth พร้อมซอฟต์แวร์แบบ Open-source
เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการกระเป๋าคริปโตอเนกประสงค์ที่สามารถจัดการคริปโตเคอร์เรนซีหลากหลายประเภทได้ในขณะเดินทาง
คะแนนจากเรา 9/10

4. Trezor Model T – กระเป๋า Bitcoin แบบสัมผัสที่รองรับบล็อกเชนหลายเครือข่าย

Trezor Model T เป็นกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ระดับไฮเอนด์ที่มาพร้อมระบบจัดเก็บและจัดการคริปโตเคอร์เรนซีขั้นสูง มีหน้าจอสัมผัสสีขนาด 1.54 นิ้ว การเชื่อมต่อ USB-C และรองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 1,000 สกุลเงิน อุปกรณ์นี้ยังมี Shamir Backup การป้องกันด้วย PIN และการออกแบบที่ป้องกันการงัดแงะ นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบการ์ด SD ที่สามารถปรับใช้สำหรับจัดเก็บรหัสผ่านแบบเข้ารหัสได้

หน้าหลัก Trezor Model T

หน้าจอสัมผัสแบบสีทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ทำให้การนำทางและการยืนยันธุรกรรมมีความสะดวกสบายคล้ายกับสมาร์ทโฟน แม้ว่าราคาอาจจะสูง แต่ Model T มอบความคุ้มค่าโดยการนำเสนอความปลอดภัยระดับสูง สามารถพกพาได้อย่างสะดวกเพราะมีขนาดกระทัดรัด และผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงทำให้มีความแข็งแรงทนทาน

ทำไมเราจึงเลือก Trezor Model T
  • คุณสมบัติ Shamir Backup การป้องกันด้วย PIN และการออกแบบที่ป้องกันการงัดแงะ ให้การป้องกันที่แข็งแกร่ง
  • รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 1,000 สกุลเงินและสามารถเชื่อมต่อกับกระเป๋าคริปโตแบบซอฟต์แวร์ได้
  • มีขนาดกะทัดรัด ทนทาน และได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานในระยะยาว
  • แม้ว่าราคาเริ่มต้นจะค่อนข้างสูง แต่คุณสมบัติด้านความปลอดภัยขั้นสูงทำให้คุ้มค่าสมราคา

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet Trezor Model T
ราคา $129
คุณสมบัติเด่น กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบสัมผัสที่รองรับบล็อกเชนหลายเครือข่าย
เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและชื่นชอบซอฟต์แวร์แบบ Open-source เพื่อความโปร่งใสและความปลอดภัย
คะแนนจากเรา 9/10

5. Tangem – กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยชิป EAL6+ Certified

Tangem Wallet เป็นกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ใช้เทคโนโลยี NFC ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีขนาดเท่าบัตรเครดิตทำให้พกพาสะดวก นอกจากนี้ อุปกรณ์ยังใช้ EAL6+ Certified เป็นองค์ประกอบความปลอดภัยเพื่อเก็บรักษา Private Keys ของผู้ใช้ซึ่งแตกต่างจากกระเป๋าคริปโต Hardware แบบดั้งเดิม Tangem ทำงานโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่และไม่จำเป็นต้องมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ทำให้ไม่ต้องการการบำรุงรักษาใด ๆ กระเป๋าคริปโตนี้รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 13,000 สกุลเงินที่สามารถซื้อขายผ่านเทคโนโลยี NFC

หน้าหลัก Tangem

ในด้านความปลอดภัย Private Keys ของ Tangem Wallet ถูกสร้างและจัดเก็บภายในบัตรเอง ช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Recovery Seed Phrases แบบดั้งเดิม โครงสร้างนี้ยังช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการโจมตีแบบฟิชชิ่งและการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต แอปมือถือแบบ Open-source เพิ่มความโปร่งใสและปลอดภัยโดยอนุญาตให้ผู้ใช้ตรวจสอบโปรโตคอลความปลอดภัยของกระเป๋าคริปโตได้ด้วยตนเอง

ในด้านความสะดวกในการพกพาและประสบการณ์ผู้ใช้ การออกแบบที่กันน้ำรับประกันว่าอุปกรณ์มีความทนทานสูง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักเดินทางและผู้ใช้ที่ทำกิจกรรมเยอะ ฟังก์ชัน Tap-to-Sign ที่เรียบง่ายทำให้กระเป๋าคริปโตมีความสะดวกและใช้งานง่าย แม้ว่าจะไม่มีฟังก์ชัน Multi-Signature แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายและปลอดภัยสำหรับการซื้อขายประจำวัน

ทำไมเราจึงเลือก Tangem
  • ชิพรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการรับรอง EAL6+ รับประกันการป้องกัน Private Key แบบออฟไลน์
  • กระเป๋าคริปโตที่มีความหลากหลายเพราะรองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 13,000 สกุลเงิน
  • ธุรกรรมแบบ Tap-to-Sign ที่ใช้เทคโนโลยี NFC ช่วยลดความซับซ้อนในการตั้งค่า
  • มีขนาดกะทัดรัด รูปทรงเหมือนบัตรเครดิต และทนต่อการกระแทก
  • ไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่หรืออัปเดตเฟิร์มแวร์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาในระยะยาว

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet Tangem
ราคา $54.90
จุดเด่น กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มีชิพความปลอดภัยที่ได้รับการรับรอง EAL 6+
เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่มองหาอุปกรณ์แบบพกพาเพื่อการจัดเก็บคริปโตเคอร์เรนซีโดยไม่ต้องมีการตั้งค่าที่ซับซ้อน
คะแนนจากเรา 7/10

6. Ledger Nano S Plus – กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มาพร้อมชิพ Secure Element

Ledger Nano S Plus เป็นกระเป๋าคริปโตแบบ Hardware ที่ขนาดกะทัดรัดและราคาย่อมเยาว์ที่ผู้ใช้สามารถจัดการคริปโตเคอร์เรนซี NFT และ dApp ได้ มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบ USB-C และหน้าจอขนาดใหญ่ 128×64 พิกเซล รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 5,500 สกุลเงิน ไม่มี Bluetooth หรือแบตเตอรี่เนื่องจากให้ความสำคัญกับความปลอดภัย แต่มีการเชื่อมต่อผ่านคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ชิพ Secure Element ที่ได้รับการรับรอง CC EAL5+ รับประกันว่า Private Keys ของผู้ใช้จะยังคงถูกเก็บแบบออฟไลน์ซึ่งจะป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

หน้าแรกของ Ledger Nano S Plus

Ledger Nano S Plus มอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ยอดเยี่ยมผ่านอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย บูรณาการเข้ากับ Ledger Live และรองรับการติดตั้งแอปมากกว่า 100 แอป แม้ว่าจะไม่มีคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การเชื่อมต่อแบบไร้สาย แต่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะสามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบาย มีน้ำหนักเบา และการออกแบบแบบ USB-Stick

ทำไมเราจึงเลือก Ledger Nano S Plus
  • ชิพที่ได้รับการรับรอง CC EAL5+ รับประกันการปกป้อง Private Key และการเก็บรักษาแบบออฟไลน์
  • กระเป๋าคริปโตที่รองรับการจัดการคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 5,500 สกุลเงิน NFT และแอปพลิเคชัน DeFi
  • หน้าจอขนาดใหญ่ การนำทางที่ใช้งานง่าย และการรวมกับ Ledger Live ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
  • มีขนาดกะทัดรัดเท่า USB-Stick และมีความทนทานสูง
  • ด้วยราคา $79 จึงมอบความปลอดภัยและฟังก์ชันการทำงานที่ยอดเยี่ยมในราคาย่อมเยาว์

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet Ledger Nano S Plus
ราคา $79
จุดเด่น กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มาพร้อมชิพ Secure Element
เหมาะสำหรับ ผู้ที่สนใจจัดเก็บ NFT ในอุปกรณ์ที่มีราคาไม่สูงมาก
คะแนนจากเรา 8/10

7. Trezor Model One – กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบ Open-Source ที่เชื่อถือได้และก่อตั้งมาอย่างยาวนาน

Trezor Model One เป็นกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ขนาดเล็กและราคาย่อมเยาว์ที่มาพร้อมกับเคสที่ทำจากพลาสติก ABS ที่ทนทาน มีหน้าจอ OLED ขนาดเล็ก และปุ่มกดแบบ 2 ปุ่มสำหรับยืนยันธุรกรรมและบูรณาการกับกระเป๋าคริปโตยอดนิยมอย่าง MetaMask การเชื่อมต่อบนอุปกรณ์นี้ทำได้ผ่าน USB-A ซึ่งหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Trezor รุ่นนี้รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 1,300 สกุลเงิน เป็นความสมดุลระหว่างความคุ้มค่าและคุณสมบัติด้านความปลอดภัย

หน้าแรกของ Trezor Model One

คุณสมบัติด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์นี้ประกอบด้วยการสร้าง Seed แบบออฟไลน์ ระบบป้อนรหัส PIN แบบไม่แสดงผล และการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน ซึ่งป้องกันผู้ใช้จากการแฮ็กและการโจมตีแบบฟิชชิ่ง เฟิร์มแวร์แบบ Open-source เพิ่มความโปร่งใสโดยอนุญาตให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้ตรวจสอบอิสระ แม้ว่าจะไม่มีคุณสมบัติขั้นสูง เช่น หน้าจอสัมผัสหรือการเชื่อมต่อกับมือถือ แต่อุปกรณ์ที่น้ำหนักเบาและพกพาง่ายนี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยแต่มาในราคาที่เข้าถึงได้

ทำไมเราจึงเลือก Trezor Model One
  • มีคุณสมบัติการสร้าง Seed แบบออฟไลน์ การป้อน PIN แบบไม่แสดงผล และการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 1,300 สกุลเงินและสามารถเชื่อมต่อกับกระเป๋าคริปโตบุคคลที่สาม เช่น MetaMask
  • ด้วยการนำทางแบบปุ่ม 2 ปุ่มและหน้าจอ OLED ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้การทำธุรกรรมเป็นเรื่องง่าย
  • การออกแบบที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา และผลิตจากพลาสติก ABS Thermoplastic ที่ทนทาน
  • มาในราคาประมาณ $129 แต่มอบคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เชื่อถือได้

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet Trezor Model One
ราคา $49
จุดเด่น แบรนด์ที่เชื่อถือได้และก่อตั้งมาอย่างยาวนาน
เหมาะสำหรับ ผู้เริ่มต้นหรือผู้ใช้ที่คำนึงถึงต้นทุนแต่ยังต้องการความปลอดภัยที่เชื่อถือได้
คะแนนจากเรา 8/10

8. Blockstream Jade – กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบ Open-Source สำหรับ Bitcoin

Blockstream Jade เป็นกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาความปลอดภัยของ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัล มีการลงนามธุรกรรมแบบไม่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต (Air-gapped Transaction Signing) หน้าจอสีเต็มรูปแบบ และตัวเลือกการเชื่อมต่อหลายรูปแบบ เช่น USB-C, Bluetooth และการสแกนรหัส QR

หน้าแรกของ Blockstream Jade

ในฐานะอุปกรณ์ Open-source ความสำคัญคือความโปร่งใสและการตรวจสอบจากชุมชน ในขณะที่มีการป้องกันด้วย PIN และการออกแบบที่ป้องกันการงัดแงะเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น สำหรับผู้ถือ Bitcoin กระเป๋าคริปโตนี้สามารถใช้งานได้กับแอป Blockstream Green และกระเป๋าคริปโตอื่น ๆ

การออกแบบนั้นใช้งานง่ายมาก มีหน้าจอสีเต็มรูปแบบและการนำทาง ทำให้การทำธุรกรรมและการยืนยันรายละเอียดเป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย อุปกรณ์นี้มีน้ำหนักเบาและการออกแบบที่กะทัดรัดทำให้พกพาได้สะดวก ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีอีกหนึ่งตัวเลือก

ทำไมเราจึงเลือก Blockstream Jade
  • มีคุณสมบัติการลงนามโดย QR แบบไม่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต การป้องกันด้วย PIN และการออกแบบที่ป้องกันการงัดแงะเพื่อความปลอดภัยที่ดีขึ้น
  • จัดการ BTC, L-BTC และสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • มีหน้าจอสัมผัสแบบสีและการนำทางที่ใช้งานง่าย
  • มีการออกแบบที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา และสามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบาย
  • ซอฟต์แวร์แบบ Open-source และความปลอดภัยที่แข็งแกร่งทำให้เป็นโซลูชันที่คุ้มค่าสำหรับผู้ถือ Bitcoin

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet Blockstream Jade
ราคา $169
จุดเด่น กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบ Open-source สำหรับการจัดเก็บเหรียญ Bitcoin เท่านั้น
เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ลงทุนเฉพาะใน Bitcoin และชื่นชอบระบบแบบ Open-source
คะแนนจากเรา 7/10

9. NGRAVE ZERO – กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบ Air-Gapped พร้อมโครงสร้างมาตร
ฐานทางทหาร

NGRAVE ZERO เป็นกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดในปัจจุบัน มาพร้อมการออกแบบแบบ Air-gapped ซึ่งหมายถึงการทำงานแบบออฟไลน์ทั้งหมด หลีกเลี่ยงการโจมตีผ่านอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ อุปกรณ์ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ได้รับการรับรองระดับ EAL7 ซึ่งเป็นระดับความปลอดภัยสูงสุดที่มีอยู่ในขณะนี้ การยืนยันตัวตนด้วยระบบไบโอเมตริกซ์ และเทคโนโลยีป้องกันการงัดแงะ อุปกรณ์นี้รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 4,000 สกุลเงินรวมถึง NFTs

หน้าเว็บไซต์ NGRAVE ZERO

ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างคือวิธีการสร้าง Keys ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลไบโอเมตริกซ์ เซ็นเซอร์แสง และการสับเปลี่ยน Keys ด้วยตนเองเพื่อป้องกันความล้มเหลวของ Keys ที่ตั้งไว้ล่วงหน้า มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นโดยกำหนดให้ผู้ใช้ต้องยืนยันการทำธุรกรรมด้วยลายนิ้วมือและรหัส PIN 8 หลัก นอกจากนี้ การออกแบบป้องกันการงัดแงะจะลบข้อมูลที่ละเอียดอ่อนทั้งหมดหากตรวจพบการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ในแง่ของประสบการณ์ผู้ใช้ หน้าจอสัมผัสขนาด 4 นิ้วช่วยให้การจัดการพอร์ตโฟลิโอเป็นเรื่องง่ายสำหรับนักลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและนักสะสม NFT ระบบสำรองข้อมูล NGRAVE Graphene แบบเลือกได้และวัสดุของอุปกรณ์ที่ทำจากสแตนเลสที่ทนไฟและกันน้ำช่วยรับประกันว่าอุปกรณ์จะใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

เหตุผลที่เราเลือก NGRAVE ZERO
  • การรับรอง EAL7 การยืนยันตัวตนด้วยระบบไบโอเมตริกซ์ และเทคโนโลยีป้องกันการงัดแงะมอบการป้องกันระดับสูงสุดที่มี
  • กระเป๋าคริปโตนี้รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 4,000 สกุลเงินและรวมถึง NFT และ ERC-20
  • หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่และอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายช่วยให้การจัดการพอร์ตโฟลิโอเป็นเรื่องง่าย
  • ถูกสร้างขึ้นด้วยการออกแบบที่ป้องกันการงัดแงะและมีระบบสำรองข้อมูล Graphene เป็นตัวเลือกเพื่อความทนทานในระยะยาว

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet NGRAVE ZERO
ราคา $398
คุณสมบัติเด่น กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบ Air-gapped ที่มีโครงสร้างมาตรฐานทางทหาร
เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องความต้องการด้านความปลอดภัยสูงโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดเก็บคริปโตเคอร์เรนซีจำนวนมาก
คะแนนจากเรา 9/10

10. Safepal S1 Pro – กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบ Air-Gapped พร้อมชิพ Secure Element

SafePal S1 Pro เป็นกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มีความปลอดภัยสูงและพกพาง่ายซึ่งป้องกันคริปโตเคอร์เรนซีโดยใช้ระบบ Air-gapped หมายความว่าอุปกรณ์ไม่มีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตโดยสมบูรณ์ ด้วยการเซ็นธุรกรรมผ่านรหัส QR การรับรองความปลอดภัย EAL 5+ และกลไกการทำลายตัวเองที่รับประกันว่าข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจะถูกลบหากตรวจพบการงัดแงะซึ่งจะลดโอกาสในการเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 30,000 สกุลเงิน เช่น Bitcoin, Ethereum และ Binance Coin

หน้าเว็บไซต์ของ SafePal S1 Pro

เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความปลอดภัยขั้นสูงและวิธีการใช้งานที่ง่ายดาย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ มีแอปมือถือช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ทำให้นักลงทุนสามารถติดตามและจัดการสินทรัพย์ของตนได้ทุกที่และทุกเวลา นอกจากนี้ อุปกรณ์มีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัดทำให้พกพาได้อย่างสะดวก เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์ที่มอบความปลอดภัยและเป็นมิตรกับมือถือ

เหตุผลที่เราเลือก Safepal S1 Pro
  • การออกแบบแบบ Air-gapped การทำธุรกรรมผ่าน QR และกลไกทำลายตัวเองที่ช่วยป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต
  • รองรับกับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 30,000 รายการรวมถึงโทเค็น ERC-20 และ BEP-20
  • ปุ่ม D-pad ที่ใช้งานง่าย หน้าจอที่ชัดเจน และการรวมกับแอปมือถือจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
  • การออกแบบที่กะทัดรัด ทำจากอลูมิเนียม และเหมาะสำหรับการใช้งานระยะยาว
  • มอบความปลอดภัยระดับองค์กรในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้เหมาะกับผู้ใช้ทุกระดับ

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet Safepal S1 Pro
ราคา $89.99
จุดเด่น กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่มีชิป Secure Element
เหมาะสำหรับ นักลงทุนที่ต้องการการกระเป๋าคริปโตที่รองรับเหรียญจากบล็อกเชนหลายเครือข่ายและมีฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติม
คะแนนจากเรา 8/10

11. Coldcard Mk4 – กระเป๋า Bitcoin แบบ Hardware ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

Coldcard Mk4 เป็นกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่เน้นเฉพาะ Bitcoin โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันสูงสุด มาในรูปแบบ Air-gapped ที่ช่วยให้สามารถทำธุรกรรมได้แบบออฟไลน์ทั้งหมด อุปกรณ์นี้ถูกสร้างขึ้นด้วยชิป Secure Element แบบคู่ มีแผงปุ่มกดตัวเลข และหน้าจอ OLED นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน NFC การเชื่อมต่อ USB-C และเฟิร์มแวร์แบบ Open Source ทำให้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สามารถปรับแต่งได้มากที่สุด

หน้าแรกของ Coldcard Mk4

กระเป๋าคริปโตนี้ยังมีฝาครอบป้องกันการงัดแงะและการป้องกัน PIN แบบจำกัดอัตราที่ป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การนำทางเน้นไปที่ผู้ใช้ขั้นสูงมากกว่า มีหน่วยความจำไม่จำกัดสำหรับธุรกรรมขนาดใหญ่และรองรับการทำงานแบบ Multi-signature

ทำไมเราจึงเลือก Coldcard Mk4
  • การออกแบบแบบ Air-gapped, Secure Element แบบคู่ การจำกัดอัตราการกรอก PIN และฝาครอบที่แสดงร่องรอยการงัดแงะที่จะรับประกันความปลอดภัยสูง
  • ถูกสร้างขึ้นสำหรับผู้ใช้ Bitcoin โดยเฉพาะ รองรับคุณสมบัติขั้นสูงเช่น Multi-signature และการลงนามธุรกรรมผ่าน NFC
  • เฟิร์มแวร์แบบ Open Source ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างเปิดเผย ทำให้มั่นใจได้ในความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet Coldcard Mk4
ราคา $167.94
จุดเด่น กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ออกแบบมาเพื่อ Bitcoin โดยเฉพาะและมีความปลอดภัยสูงสุด
เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
คะแนนจากเรา 8/10

12. SecuX V20 – กระเป๋าคริปโตข้ามแพลตฟอร์มที่มี Bluetooth

กระเป๋าคริปโต Hardware SecuX V20 มีคุณสมบัติที่หลากหลายซึ่งทำให้นักลงทุนจัดการคริปโตเคอร์เรนซีและ NFT ได้อย่างง่ายดาย มีการรับรองความปลอดภัยระดับทหาร CC EAL5+ หน้าจอสัมผัสสี 2.8 นิ้ว มี Bluetooth และตัวเลือกการเชื่อมต่อ USB-C รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 10,000 รายการซึ่งรวมถึง Bitcoin, Ethereum และโทเค็น ERC-20 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ใช้ขั้นสูง

หน้าแรกของ SecuX V20

SecuX V20 มีการออกแบบที่ป้องกันการงัดแงะซึ่งจะลบข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในกรณีที่มีการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อเพิ่มความปลอดภัย นอกจากนี้ ชิปนิรภัยยังช่วยให้มั่นใจว่า Private Keys ได้รับการป้องกันจากภัยคุกคามภายนอก หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานโดยการทำให้การตรวจสอบธุรกรรมง่ายขึ้น ในขณะที่ฟังก์ชัน Bluetooth ช่วยเพิ่มความสะดวกต่อการเชื่อมต่อและการพกพา และอุปกรณ์ถูกปกป้องด้วยเคสที่ทำจากอลูมิเนียมซึ่งจะทนทานต่อการกระแทก

ทำไมเราถึงเลือก SecuX V20
  • องค์ประกอบนิรภัยระดับ CC EAL5+ ที่มีมาตรฐานระดับการทหารและการป้องกันการงัดแงะช่วยรักษา Private Keys ให้ปลอดภัย
  • อุปกรณ์นี้รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 10,000 รายการ รวมถึง NFTs และโทเค็น DeFi
  • การเชื่อมต่อ Bluetooth และเคสอลูมิเนียมที่ทนทานทำให้พกพาได้อย่างสะดวกและมีความทนทาน
  • แม้จะมีราคาแพงกว่าตัวเลือกอื่น แต่ก็นำเสนอฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างกว้างขวาง และอายุการใช้งานที่ยาวนาน

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet SecuX V20
ราคา $139
ฟีเจอร์เด่น กระเป๋าคริปโตที่รองรับแพลตฟอร์มหลายแพลตฟอร์มและมีการเชื่อมต่อ Bluetooth
เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่มองหาความสมดุลระหว่างความง่ายในการใช้งานและการรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างหลากหลาย
คะแนนจากเรา 7/10

เราใช้หลักเกณฑ์ใดในการจัดอันดับกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ดีที่สุด


ด้วยวัตถุประสงค์ในการค้นหาและคัดเลือกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ดีที่สุด ทีมของเราได้ทำการพิจารณาโดยวิเคราะห์จากฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ความเข้ากันได้กับสินทรัพย์ ประสบการณ์ผู้ใช้ ความทนทาน และราคาของกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ต่าง ๆ หลายร้อยรายการ เราได้ประเมินข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค ประสิทธิภาพในการใช้งานจริง และสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อเฟ้นหาตัวเลือกที่ดีที่สุด ต่อไปนี้คือหลักเกณฑ์ที่เราใช้ในการพิจารณา:

ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ (30%)

เราตรวจสอบมาตรฐานการเข้ารหัสและโปรโตคอลความปลอดภัยที่ใช้ เพื่อให้แน่ใจว่ากระเป๋าคริปโตมีการป้องกันที่ดีที่สุดและปลอดภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์ เราวิเคราะห์ว่ากระเป๋าคริปโตรองรับฟังก์ชัน Multi-signatures หรือไม่ มีตัวเลือกการกู้คืนที่ปลอดภัย และมีการป้องกันการงัดแงะที่ติดตั้งมาในตัว เราสำรวจประวัติความปลอดภัยของอุปกรณ์แต่ละรายการ ตรวจสอบประวัติช่องโหว่หรือการโจมตีในอดีตที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

สินทรัพย์ที่รองรับและความเข้ากันได้ (20%)

เราตรวจสอบจำนวนคริปโตเคอร์เรนซีที่กระเป๋าคริปโตรองรับ โดยให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่มีความเข้ากันได้กับบล็อกเชนหลายเครือข่ายอย่างกว้างขวาง การบูรณาการกับแอปพลิเคชัน DeFi การจัดเก็บ NFT และความสามารถในการ Stake ก็ถูกนำมาพิจารณาเช่นกัน รวมถึงการทำงานร่วมกันกับกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet และ Software ยอดนิยมเพื่อการจัดการสินทรัพย์ที่ดีขึ้น

ประสบการณ์ผู้ใช้ (20%)

ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีมีความสำคัญมาก เราจึงวิเคราะห์ว่าการเริ่มต้นและการตั้งค่าการใช้งานของกระเป๋าคริปโตแต่ละรายการนั้นมีความยุ่งยากมากน้อยเพียงใด อินเทอร์เฟซดูใช้งานง่ายหรือไม่ และมีคู่มือและคำแนะนำหรือไม่ เรายังพิจารณาตัวเลือกภาษา ฟีเจอร์การเข้าถึง และประสบการณ์การใช้งานโดยรวมว่าเป็นมิตรกับผู้เริ่มต้นสำหรับผู้ใช้และนักลงทุนใหม่หรือไม่

ความสามารถในการพกพาและคุณภาพ (15%)

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ต้องมีความทนทานและง่ายต่อการพกพา เราจึงตรวจสอบว่าตัวเลือกแต่ละตัวเลือกมีคุณภาพ มีการออกแบบที่ดี และมีความทนทานต่อสิ่งกระทบภายนอก เช่น ฝุ่น การกระแทก และอุณหภูมิสูงหรือต่ำมาก เราให้คะแนนอุปกรณ์ที่มีการรักษาความปลอดภัยที่มาพร้อมกับการออกแบบที่กระทัดรัด น้ำหนักเบา และพกพาสะดวกมากกว่า

ราคา (15%)

เราเปรียบเทียบต้นทุนของกระเป๋าคริปโตกับฟีเจอร์ที่มีเพื่อให้มั่นใจว่ารุ่นที่มีราคาสูงกว่ามอบความคุ้มค่ามากกว่า เรายังพิจารณาอายุการใช้งานและฟีเจอร์ เช่น การอัปเดตเฟิร์มแวร์ฟรีและการสนับสนุนของนักพัฒนาในระยะยาว

ด้วยการใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้ในทุกขั้นตอนของการพิจารณา ทีมของเราสามารถคัดเลือกกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ดีที่สุดจากความปลอดภัย ความง่ายในการใช้งาน และคุณค่าโดยรวม วิธีการของเราช่วยรับประกันว่านักลงทุนสามารถพิจารณาและตัดสินใจเลือกกระเป๋าคริปโตสำหรับการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัยได้อย่างรวดเร็วจากข้อมูลที่ถูกรวบรวมและสรุปย่อ

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet คืออะไร?


กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet คืออุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณแบบออฟไลน์ ช่วยปกป้องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น การแฮ็ก ซึ่งแตกต่างจากกระเป๋าคริปโตแบบ Software Wallet ที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet จะจัดเก็บ Private Keys ของผู้ใช้ไว้แบบออฟไลน์อย่างปลอดภัย

เมื่อต้องการทำธุรกรรม คุณเชื่อมต่อกระเป๋าคริปโตเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ ตรวจสอบรายละเอียด และอนุมัติการโอนโดยใช้ปุ่ม อีกทั้งคุณยังคงสามารถควบคุมสินทรัพย์ของคุณได้ในขณะที่ลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ทำงานอย่างไร?


กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet จะจัดเก็บ Private Keys ของคุณแบบออฟไลน์ เมื่อคุณต้องการส่งหรือรับคริปโต เช่น การใช้ Ethereum Wallet เพียงแค่คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์หรือมือถือผ่าน USB หรือ Bluetooth ธุรกรรมจะถูกลงนามภายในกระเป๋าคริปโตเอง ทำให้มั่นใจว่า Private Keys ของคุณจะไม่ถูกเปิดเผย คุณต้องยืนยันทุกธุรกรรมด้วยตนเองบนหน้าจอหรือปุ่มของอุปกรณ์ กระเป๋าคริปโตบางรุ่นรองรับระบบการยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัยหรือ Two-Factor Authentication (2FA) สำหรับการป้องกันเพิ่มเติมอีกด้วย

กระเป๋าคริปโตเหล่านี้รองรับคริปโตเคอร์เรนซีจำนวนมากซึ่งรวมถึง Bitcoin และ Ethereum คุณจึงสามารถกระจายสินทรัพย์ที่ต้องการจัดการอย่างปลอดภัยเนื่องจากทุกอย่างไม่มีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต เป็นหนึ่งในวิธีการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัยที่สุด

การเชื่อมต่อแบบมีสายหรือไร้สาย

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet หลายรุ่นใช้การเชื่อมต่อ USB กับคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อให้คุณยอมรับหรือปฏิเสธธุรกรรม กระเป๋าคริปโตรุ่นใหม่อาจใช้ Bluetooth ซึ่งรองรับการใช้งานบนมือถือหรือแม้กระทั่งชิพ NFC ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือที่รองรับ NFC

ไม่ว่ากระเป๋าคริปโต Hardware Wallet จะใช้การเชื่อมต่อแบบใดก็ยังคงมีระบบป้องกันเพิ่มเติมที่ต้องการข้อมูลจากอุปกรณ์แยกที่คุณถืออยู่

ข้อดีของกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet


ข้อดีของกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet คือความปลอดภัยสูง คุณอาจต้องแลกกับความสะดวกสบายบางอย่าง แต่เป้าหมายคือการปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณ การจัดเก็บสินทรัพย์บางส่วนหรือทั้งหมดในกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ได้เป็นอย่างมาก

นอกจากความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นแล้ว โดยทั่วไปกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ยังมีการป้องกันการงัดแงะ การลงนามธุรกรรมแบบออฟไลน์ ตัวเลือกการกู้คืนและสำรองข้อมูล และการรองรับคริปโตเคอร์เรนซีหลากหลายสกุลเงิน มาสำรวจข้อดีเหล่านี้เพิ่มเติมกัน:

1. ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet เก็บPrivate Keys แบบออฟไลน์ทำให้มีความห่างไกลจากปัญหาการคุกคามออนไลน์ เช่น การแฮ็กและมัลแวร์ ลดความเสี่ยงจากการโจมตีแบบฟิชชิ่งหรือไวรัส

2. การป้องกันการงัดแงะ

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet หลายรุ่นมีฟีเจอร์ความปลอดภัยหลากหลาย ซึ่งรวมถึงการป้องกันด้วย PIN รหัสผ่าน และแม้กระทั่งกลไก “การทำลายตัวเอง” ที่จะลบข้อมูลละเอียดอ่อนออกหลังจากพบการพยายามเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

3. การลงนามธุรกรรมแบบออฟไลน์

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet หลายรุ่น เช่น Coldcard และ SecuX อนุญาตให้ลงนามธุรกรรมแบบออฟไลน์ได้ ซึ่งทำได้ผ่านระบบ Air-Gapped และการถ่ายโอนผ่านรหัส QR ซึ่งไม่มีความเสี่ยงต่อช่องโหว่ของเครือข่ายในระหว่างกระบวนการลงนาม

4. ตัวเลือกการกู้คืนและสำรองข้อมูล

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ใช้โปรโตคอลมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น BIP39/44 สำหรับการกู้คืน Seed Phrase ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกู้คืนกระเป๋าคริปโตได้หากมีการสูญหายหรือเสียหาย สิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจว่าสินทรัพย์สามารถกู้คืนได้โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการจากบุคคลที่สาม

5. รองรับคริปโตหลายสกุล

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet มักรองรับคริปโตเคอร์เรนซีหลากหลายสกุลเงิน ตัวอย่างเช่น รุ่นอย่าง SecuX V20 หรือ Ledger Nano X สามารถจัดเก็บสินทรัพย์ได้นับพันรายการ กล่าวอีกนัยหนึ่งมีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่มีพอร์ตโฟลิโอคริปโตที่หลากหลาย

ข้อจำกัดของกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet


การใช้กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet เป็นมาตรการความปลอดภัยที่สำคัญ แต่จะมีขั้นตอนในการใช้งานเพิ่มเติมซึ่งอาจดูยุ่งยาก

อย่างไรก็ตาม กระเป๋าคริปโตแบบ Software Wallet มีความสะดวกมากกว่าแต่ก็มีความปลอดภัยน้อยกว่า หากต้องเลือกระหว่างกระเป๋าคริปโตแบบ Software Wallet กับกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet คุณจะต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจเลือก

1. ค่าใช้จ่าย

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet มีค่าใช้จ่ายประมาณ 50 ถึง 500 ดอลลาร์โดยจะขึ้นอยู่กับรุ่นและฟีเจอร์ ในขณะที่กระเป๋าคริปโตแบบ Software Wallet มักจะฟรี

2. ความยากในการเรียนรู้

สำหรับผู้เริ่มต้นอาจรู้สึกกังวลในวิธีการใช้งานกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet เช่น การตั้งค่าและมาตรการรักษาความปลอดภัย ผู้ใช้ต้องเรียนรู้วิธีการสำรอง Seed Phrase การตั้งค่า PIN และกระบวนการกู้คืน รวมไปถึงฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การเซ็น Air-gapped หรือการตั้งค่า Multi-signature ก็อาจต้องใช้ความความรู้ทางเทคนิค

3. การสูญหายหรือเสียหายทางกายภาพ

แม้ว่ากระเป๋าคริปโต Hardware Wallet จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็สามารถสูญหาย ถูกขโมย หรือเสียหายได้ หากไม่ได้สำรอง Recovery Seed อย่างเหมาะสม ผู้ใช้อาจสูญเสียการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลของตนอย่างถาวร

4. การพึ่งพาอุปกรณ์อื่น

การใช้กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ขึ้นอยู่กับความพร้อมใช้งานและการทำงานของอุปกรณ์จึงทำให้มีปัญหาบางอย่างในบางครั้ง เช่น แบตเตอรี่หมด การทำงานผิดพลาด หรือการทำอุปกรณ์หาย อาจทำให้การเข้าถึงสินทรัพย์ล่าช้าหรือติดขัด แม้ว่าการกู้คืนจะทำได้ด้วย Seed Phrase แต่กระบวนการอาจยุ่งยาก

5. การรองรับคริปโตเคอร์เรนซีที่จำกัด

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet บางตัว เช่น Coldcard รองรับเฉพาะ Bitcoin เท่านั้นซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการเก็บคริปโตเคอร์เรนซีหลากหลายรูปแบบ บางรุ่นอาจรองรับสินทรัพย์หลายประเภทมากกว่า แต่ไม่รองรับสินทรัพย์จากบล็อกเชนบางเครือข่าย

การใช้กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet เพื่อย้ายคริปโตเคอร์เรนซีของคุณออกจากกระดานเทรด


คุณไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในระบบนิเวศของคริปโตเคอร์เรนซีอย่างจริงจังเพื่อรับประโยชน์จากกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet เหตุผลทั่วไปในการเลือกกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet คือการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่คุณถืออยู่อย่างปลอดภัย

ในฐานะนักลงทุนใหม่ คุณอาจเลือกที่จะเก็บคริปโตเคอร์เรนซีของคุณไว้บนกระดานเทรดที่คุณซื้อขายซึ่งถูกเรียกว่ากระเป๋าคริปโตแบบ Custodial เพราะกระดานเทรดมีอำนาจในการดูแลคริปโตเคอร์เรนซีของคุณ

อย่างไรก็ตาม เมื่อยอดคงเหลือของคุณเพิ่มขึ้น คุณก็มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียมากขึ้น การใช้กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet แบบ Self-custody สามารถปกป้องคุณจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับกระดานเทรดได้

  • ข้อมูลล็อกอินของคุณอาจถูกบุกรุก: มีผู้ใช้บางคนใช้รหัสผ่านบนกระเป๋าคริปโตซ้ำกับเว็บไซต์อื่น เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็กได้ง่าย บางคนใช้รหัสผ่านที่ง่ายต่อการคาดเดา หรือแม้กระทั่งบางคนตั้งค่าใช้เว็บเบราว์เซอร์จดจำรหัสผ่านซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากหากมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ร่วมกับผู้อื่น
  • กระดานเทรดอาจระงับการถอน การล่มสลายของแพลตฟอร์ม เช่น Terraform Labs และ WazirX — ที่ประกาศล้มละลายเป็นกรณีศึกษาที่ดี — นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ใช้ควรย้ายคริปโตเคอร์เรนซีออกจากกระดานเทรดมายังกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet มากกว่า เพราะถ้าหากกระดานเทรดประสบปัญหาสภาพคล่อง ผู้ใช้จะได้รับผลกระทบน้อยลงหรือแทบจะไม่ได้รับผลกระทบเลย

หากคุณจำเป็นต้องเก็บคริปโตเคอร์เรนซีจำนวนหนึ่งไว้ในกระดานเทรดเพื่อวัตถุประสงค์ในการเทรด คุณควรพิจารณาย้ายสินทรัพย์ที่เหลือไปยังกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet เพื่อความปลอดภัย

วิธีเก็บรักษา Seed Phrase อย่างปลอดภัย


Seed Phrase ทำให้คุณสามารถเข้าถึงกระเป๋าคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัลที่คุณเก็บไว้ ดังนั้น หาก Seed Phrase สูญหาย คุณก็ไม่อาจเข้าถึงสินทรัพย์ของคุณได้อย่างถาวร

เพื่อรักษาความปลอดภัยของ Seed Phrase คุณควรใช้อุปกรณ์จัดเก็บที่เหมาะสม หนึ่งในตัวเลือกชั้นนำคือ Cryptotag ซึ่งผลิตจากวัสดุไทเทเนียมเกรดอวกาศเพื่อการจัดเก็บ Seed Phrase อย่างปลอดภัย อุปกรณ์นี้กันกระสุนและมีคุณสมบัติกันน้ำและทนความร้อน

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet vs กระเป๋าคริปโตแบบ Software Wallet


การย้ายคริปโตเคอร์เรนซีของคุณไปยังกระเป๋าคริปโตที่คุณสามารถควบคุมได้เองเป็นการตัดสินใจที่ดี แต่กระเป๋าคริปโตแบบ Software Wallet เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกันหรือไม่? คำตอบคือน่าจะไม่ใช่

กระเป๋าคริปโตแบบ Software Wallet อย่าง MetaMask (Ethereum) หรือ Electrum (Bitcoin) สร้างและเก็บ Private Keys บนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต Private Keys ที่ใช้ในการอนุมัติธุรกรรมจะอยู่บนอุปกรณ์ของคุณตลอดเวลา หากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Subaru และ Apple ยังมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในแอปพลิเคชันของพวกเขา Hot Wallet ที่พัฒนาโดยทีมเล็ก ๆ ก็อาจมีความเสี่ยงเช่นกัน

ในทางตรงกันข้าม กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet เก็บ Private Keys ของคุณไว้ในอุปกรณ์แยกต่างหากโดยที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต แม้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือชั่วคราว เฟิร์มแวร์จะจำกัดการทำงานร่วมกับกระเป๋าคริปโตของคุณ สิ่งที่คุณทำได้คือยอมรับหรือปฏิเสธธุรกรรมโดยคลิกปุ่ม

อย่างไรก็ตาม กระเป๋าคริปโตทั้ง 2 ประเภทมีความเสี่ยงที่คล้ายกันในบางด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความปลอดภัยของ Seed Phrase หรือ Private Key มีความสำคัญสูงสุด แต่บางครั้งข้อมูลเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะรั่วไหล

Recovery Phrase MetaMask

หากมีบุคคลอื่นมี Seed Phrase นี้ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า Recovery Phrase หรือ Mnemonic Phrase พวกเขาสามารถสร้างสำเนาของกระเป๋าคริปโตของคุณ (และ Keys ของคุณ) กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกเขาสามารถส่งคริปโตเคอร์เรนซีของคุณไปยังกระเป๋าคริปโตใบอื่นที่คุณไม่สามารถเข้าถึงได้

กระเป๋าคริปโตแบบ Software Wallet ที่เข้ากันได้สามารถใช้เข้าถึงกระเป๋าคริปโตที่สร้างโดยอุปกรณ์ Hardware หากมี Seed Phrase

Seed Phrase และ Private Key มีลักษณะแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่สามารถใช้เพื่อสร้างสำเนาของกระเป๋าคริปโตของคุณได้

Private Key ของ MetaMask

กรณีนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับ Hot Wallet และ Cold Wallet เพราะทั้งคู่ใช้ Seed Phrase และ Private Keys ดังนั้น การจัดเก็บ Seed Phrase ให้ปลอดภัยจะช่องป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทำสำเนาวอลเล็ตของคุณในที่อื่น

ไม่แนะนำให้เก็บ Seed Phrase ในพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์หรือทิ้งไว้ในที่ที่ผู้อื่นสามารถพบได้

วิธีเลือกกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet


กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่เหมาะกับคุณจะขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้และวิธีการใช้งานของคุณ ราคา ความโปร่งใส คุณสมบัติความปลอดภัย และแม้แต่ความเข้ากันได้กับมือถือล้วนมีบทบาทในการตัดสินใจซื้อของคุณเช่นกัน

1. คุณสมบัติความปลอดภัย

พิจารณาว่าคุณจะใช้กระเป๋าคริปโตของคุณอย่างไรและคุณสมบัติความปลอดภัยใดที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ

มักมีจุดตัดระหว่างความปลอดภัยและความสะดวก กระเป๋าคริปโตที่ปลอดภัยที่สุดคือแบบ Air-gapped หมายความว่าไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้โดยสิ้นเชิง

แทนที่จะใช้การเชื่อมต่อ แต่อุปกรณ์จะใช้รหัส QR แทน เพียงแค่คุณสแกนรหัส QR ในแอปหรือบนตัวอุปกรณ์เองแล้วทำการอนุมัติหรือปฏิเสธธุรกรรมบนอุปกรณ์ วิธีนี้อาจต้องใช้ขั้นตอนที่มากกว่าในการทำธุรกรรมเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือ USB

นอกจากนี้ ควรพิจารณาฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยอย่างชิป Secure Element ด้วย แต่ให้ชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีกับข้อเสียสำหรับฟีเจอร์นี้ด้วย ตัวอย่างเช่น Ledger ระบุว่าไม่สามารถเปิดเผยเฟิร์มแวร์ของตนเป็น Open Source ได้อย่างเต็มรูปแบบเนื่องจากชิป Secure Element คล้ายกับ Cypherock

ในทางกลับกัน Trezor ไม่ได้ใช้ชิป Secure Element บนรุ่น Model T หรือ Model One โดยมอบความโปร่งใสอย่างเต็มรูปแบบด้วย Firmware แบบ Open Source สำหรับอุปกรณ์เหล่านี้

2. รองรับเหรียญคริปโตและบล็อกเชนใดบ้าง

กระเป๋าคริปโตยอดนิยมหลายรุ่นรองรับบล็อกเชนหลายเครือข่าย อย่างไรก็ตาม กระเป๋าคริปโตบางรุ่นรองรับเพียงบล็อกเชนเดียว ซึ่งมักจะเป็นกระเป๋าที่รองรับเฉพาะ Bitcoin

ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังพิจารณา Trezor แต่ต้องการเก็บ XRP คุณจำเป็นต้องเลือก Model T เนื่องจาก Trezor Model One ไม่รองรับ XRP ในขณะที่กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet อย่าง SecuX V20 รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 10,000 รายการซึ่งรวมถึง XRP ด้วย

กระเป๋าคริปโตแบบ Multi-chains ส่วนใหญ่รองรับเครือข่าย Bitcoin และ Ethereum เป็นอย่างน้อย แต่การรองรับ Ethereum Layer-2 อาจมีข้อจำกัด อย่างไรก็ตาม คุณอาจไม่เห็นสินทรัพย์ที่คุณถือบนบล็อกเชน ตัวอย่างเช่น Arbitrum Layer-2 แม้ว่าจะอยู่ในกระเป๋าคริปโตของคุณก็ตาม

หากจำเป็น คุณสามารถใช้แอปพอร์ตโฟลิโอเช่น Debank หรือเครื่องมือสำรวจบล็อกเชน เช่น Etherscan (สำหรับ Ethereum) หรือ Arbiscan (สำหรับ Arbitrum) ซึ่งช่วยให้คุณตรวจสอบธุรกรรมหรือโทเค็นที่ไม่แสดงในกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet หรือกระเป๋าคริปโตแบบ Software Wallet ของคุณได้

3. ราคา

กระเป๋าคริปโตแบบ Software Wallet โดยทั่วไปมักเปิดให้ใช้งานฟรี เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet คุณอาจต้องจ่ายตั้งแต่ $50 ไปจนถึงมากกว่า $500 โดยจะขึ้นอยู่กับรุ่นที่คุณเลือก

ราคาเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา แต่การจ่ายเงินมากกว่าไม่ได้หมายความว่าจะได้ที่จัดเก็บที่ปลอดภัยมากกว่าเสมอไป หลายคนเลือกจัดเก็บคริปโตเคอร์เรนซีจำนวนมากบนอุปกรณ์ที่มีราคาไม่สูงมาก แต่เชื่อถือได้และมีการสนับสนุนที่ดีเช่น Trezor Model One

นอกจากนี้ อาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินหลายร้อยดอลลาร์เพื่อปกป้องคริปโตเคอร์เรนซีจำนวนเล็กน้อย แต่ถ้าหากคุณต้องการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิลจำนวนมากและมีมูลค่าสูง การใช้อุปกรณ์ที่มีราคาสูงก็ฟังดูสมเหตุสมผล

4. ค่าธรรมเนียม

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ชั้นนำโดยทั่วไปไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการใช้งานหลังจากที่คุณซื้อแล้ว อย่างไรก็ตาม กระเป๋าคริปโตหลายรุ่นมีฟังก์ชัน Swap หรือการซื้อคริปโตจากภายในแอปของกระเป๋าคริปโต ในกรณีนี้อาจมีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

มีวิธีการหลายวิธีในการเทรดคริปโตตั้งแต่กระดานเทรดแบบรวมศูนย์ไปจนถึงกระดานเทรดแบบกระจายศูนย์และกระดานเทรดแบบ Peer-to-Peer อย่าง Ledger Live ที่มีวิธีซื้อคริปโตเคอร์เรนซีจากภายในแอป นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการชำระเงินที่คุณเลือกภายในแอป

ในกรณีส่วนใหญ่ การซื้อบนกระดานเทรดจะมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับการใช้แอปกระเป๋าคริปโตของคุณ แต่คุณอาจชื่นชอบการซื้อผ่านแอปกระเป๋าคริปโตมากกว่า ไม่ว่าจะวิธีการใด ผู้ใช้ควรพิจารณาและเปรียบเทียบระหว่างค่าธรรมเนียมและความสะดวกอย่างถี่ถ้วน

5. ประสบการณ์การใช้งานบนมือถือ

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet มีทั้งแบบเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านช่องเสียบ USB

หากคุณคิดว่าคุณอาจจำเป็นต้องใช้กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ขณะเดินทาง การพิจารณาเลือกรุ่นที่สามารถทำงานร่วมกับโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตก็เป็นความคิดที่ดี

หากคุณพบกระเป๋าคริปโตที่คุณสมใจ คุณสามารถตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้จริงได้จาก App Store หรือ Play Store เช่น Ledger Live ที่ได้คะแนนจากผู้ใช้จริง 4.6 จาก 5 ดาว บน Google Play Store

ในบางกรณี คุณอาจใช้แอปกระเป๋าคริปโตเป็นพอร์ตโฟลิโอแบบพกพาเพื่อติดตามการลงทุนของคุณได้อีกด้วย

6. ซอฟต์แวร์และเฟิร์มแวร์แบบ Open Source หรือ Close Source

Bitcoin เป็นคริปโตเคอเรนซีแรกที่เป็น Open Source ซึ่งหมายความว่าโค้ด Bitcoin Core มีอยู่และยังคงอยู่บนออนไลน์ ทางเลือกอื่นคือ Close Source ทำให้ผู้ใช้ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยหรือรายละเอียดการทำธุรกรรมที่ละเอียดอ่อนอื่น ๆ

7. ความง่ายในการใช้งาน

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ชั้นนำอย่าง Ledger และ Trezor สร้างความสมดุลระหว่างความปลอดภัยกับความง่ายในการใช้งาน ทั้งคู่นำเสนอชุด Software ที่เป็นมิตรกับผู้เริ่มต้น เช่น การอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเรื่องง่าย

8. ความทนทาน

คุณควรพิจารณาเลือกกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและทนทานต่อการกระแทก เช่น สแตนเลส อุปกรณ์บางอย่างมีคุณสมบัติป้องกันการงัดแงะด้วยการทำลายข้อมูลโดยอัตโนมัติหากมีการตรวจพบ รวมไปถึงคุณสมบัติการกันน้ำ กันฝุ่น และทนไฟ

บทสรุป


กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet เป็นหนึ่งในวิธีการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัยที่สุด เพราะมีการเก็บ Private Keys ไว้แบบออฟไลน์ คุณสมบัตินี้ช่วยปกป้อง Keys ของคุณจากภัยคุกคามออนไลน์ เช่น การแฮ็กและการโจมตีแบบฟิชชิ่ง กระเป๋าคริปโตเหล่านี้ยังมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน รวมถึงชิป Secure Element ธุรกรรมแบบ Air-gapped การตรวจสอบด้วยระบบไบโอเมตริก และการรองรับคริปโตเคอร์เรนซีหลายพันสกุลเงิน

ในขณะที่บางรุ่นให้ความสำคัญกับความง่ายในการใช้งานด้วยหน้าจอสัมผัสและการเชื่อมต่อมือถือ รุ่นอื่น ๆ มุ่งเน้นมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น Multi-signatures และการออกแบบที่ป้องกันการงัดแงะ

การเลือกว่ากระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ใดดีที่สุดสำหรับคุณจะขึ้นอยู่กับการระดับความปลอดภัย สินทรัพย์ที่รองรับ การเชื่อมต่อ โซลูชันการสำรองข้อมูล และความชอบส่วนบุคคล

เช่นเดียวกับทุกอย่างในวงการคริปโต กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet มีจุดอ่อนของตัวเอง ผู้ใช้ต้องระวังการสูญหาย ความเสียหาย การถูกขโมย และการตั้งค่าที่ไม่ถูกต้องก็สามารถทำให้อุปกรณ์และความปลอดภัยเสียหายได้ รวมไปถึงอุปกรณ์ปลอม

เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ ผู้ใช้ควรจัดเก็บอุปกรณ์ไว้เป็นอย่างดีและในที่ที่เหมาะสม ปฏิบัติตามขั้นตอนการตั้งค่าและการสำรองข้อมูลอย่างถูกต้อง และเลือกซื้ออุปกรณ์จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

คำถามที่พบบ่อย


กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet คืออะไร?

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ปลอดภัยหรือไม่?

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ที่ปลอดภัยที่สุดคืออะไร?

ฉันควรเก็บคริปโตของฉันในกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet หรือไม่?

คริปโตที่ถูกเก็บในกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ยังคงมีมูลค่าสูงขึ้นหรือไม่?

กระเป๋าคริปโต Hardware Wallet คุ้มค่าหรือไม่?

สามารถเก็บคริปโตใด ๆ ในกระเป๋าคริปโต Hardware Wallet ได้หรือไม่?