รีวิว 10 กระเป๋า Bitcoin อันไหนดีที่สุด 2024
- ในบทความนี้
-
- 1. Best Wallet - กระเป๋า Bitcoin ที่ดีที่สุดในการใช้งาน และรองรับทุกสกุลเงิน
- 2. Exodus – กระเป๋า BTC ที่เน้นความปลอดภัยมากที่สุด
- 3. Zengo - กระเป๋าบิทคอยน์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยยอดเยี่ยม และเป็นส่วนตัว
- 4. Ellipal - กระเป๋าเงินคริปโตแบบ air-gapped เก็บสินทรัพย์ของคุณอย่างปลอดภัย
- 5. Ledger - อุ่นใจและดูแลทัพย์สินดิจิทัลส่วนตัวของคุณด้วยกระเป๋าเงินสุดทันสมัย
- 6. Trezor - กระเป๋าคริปโตที่มีโมเดลเป็นของตัวเองที่เปรียบเสมือนตู้เซฟเข้ารหัสลับ
- 7. OKX Wallet – กระเป๋าเงินดิจิตอลสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบ NFT
- ค่าแก๊สที่สามารถปรับได้: ผู้ใช้จะสามารถปรับค่าแก๊สเพื่อลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมได้ พร้อมสร้างความยืดหยุ่นให้กับการทำธุรกรรมหลายรูปแบบ
- 8. Binance Wallet - กระเป๋าเงินนวัตกรรม Web3 เทคโนโลยีใหม่ที่ดูแลสินทรัพย์แบบไร้กุญแจ
- 9. Bybit Wallet – BTC Wallet ที่เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพ
- 10. Blockstream Jade - สุดยอดกระเป๋าคริปโตที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับบิทคอยน์ด้วยฟังก์ชันประจำแพลตฟอร์ม
- เลือกกระเป๋า Bitcoin ยังไง?
- ในบทความนี้
-
- 1. Best Wallet - กระเป๋า Bitcoin ที่ดีที่สุดในการใช้งาน และรองรับทุกสกุลเงิน
- 2. Exodus – กระเป๋า BTC ที่เน้นความปลอดภัยมากที่สุด
- 3. Zengo - กระเป๋าบิทคอยน์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยยอดเยี่ยม และเป็นส่วนตัว
- 4. Ellipal - กระเป๋าเงินคริปโตแบบ air-gapped เก็บสินทรัพย์ของคุณอย่างปลอดภัย
- 5. Ledger - อุ่นใจและดูแลทัพย์สินดิจิทัลส่วนตัวของคุณด้วยกระเป๋าเงินสุดทันสมัย
- 6. Trezor - กระเป๋าคริปโตที่มีโมเดลเป็นของตัวเองที่เปรียบเสมือนตู้เซฟเข้ารหัสลับ
- 7. OKX Wallet – กระเป๋าเงินดิจิตอลสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบ NFT
- ค่าแก๊สที่สามารถปรับได้: ผู้ใช้จะสามารถปรับค่าแก๊สเพื่อลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมได้ พร้อมสร้างความยืดหยุ่นให้กับการทำธุรกรรมหลายรูปแบบ
- 8. Binance Wallet - กระเป๋าเงินนวัตกรรม Web3 เทคโนโลยีใหม่ที่ดูแลสินทรัพย์แบบไร้กุญแจ
- 9. Bybit Wallet – BTC Wallet ที่เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพ
- 10. Blockstream Jade - สุดยอดกระเป๋าคริปโตที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับบิทคอยน์ด้วยฟังก์ชันประจำแพลตฟอร์ม
- เลือกกระเป๋า Bitcoin ยังไง?
- เปิดดูทั้งหมด
กระเป๋า Bitcoin เป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนควรเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงของตนเองให้มีความปลอดภัย
ผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทำการตรวจสอบและคัดเลือกบรรดากระเป๋าเงินดิจิตอลที่เชื่อถือได้ มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง และมีฟีเจอร์มากมายมาไว้แล้วที่นี่
พร้อมกับการเขียนรีวิวสรุปข้อมูลที่สำคัญและเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียเกี่ยวกับกระเป๋าเงินดิจิตอล อันไหนดี เพื่อให้คุณได้อ่าน พิจารณาและเลือกใช้กระเป๋าเก็บบิทคอยน์ที่ดีที่สุดและมีคุณสมบัติตรงใจคุณมากที่สุดได้อย่างรวดเร็ว
10 กระเป๋า Bitcoin ที่ดีที่สุดแนะนำ!
- Best Wallet – กระเป๋า Bitcoin ที่ดีที่สุดในการใช้งาน และรองรับทุกสกุลเงิน
- Exodus – กระเป๋า BTC ที่เน้นความปลอดภัยมากที่สุด
- Zengo – กระเป๋าบิทคอยน์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม
- Eilipal – กระเป๋าบิทคอยน์แบบ air-gapped ช่วยเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณอย่างปลอดภัย
- Ledger – กระเป๋าบิทคอยน์ที่มีความปลอดภัยสูงและรองรับสกุลเงินดิจิทัลหลากหลาย
- Trezor – กระเป๋าเงินที่มีโมเดลเป็นของตัวเองที่เปรียบเสมือนตู้เซฟเข้ารหัสลับ
- OKX Wallet – กระเป๋าเงินดิจิตอลสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบ NFT
- Binance Wallet – กระเป๋าเงินนวัตกรรม Web3 เทคโนโลยีใหม่ที่ดูแลสินทรัพย์แบบไร้กุญแจ
- ByBit Wallet – BTC Wallet ที่เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพ
- Blockstream Jade – กระเป๋า Bitcoin ที่โดดเด่นด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับบิทคอยน์ด้วยฟังก์ชันในแพลตฟอร์ม
กระเป๋า Bitcoin อันไหนดีที่สุด 2024
1. Best Wallet – กระเป๋า Bitcoin ที่ดีที่สุดในการใช้งาน และรองรับทุกสกุลเงิน
เป็นกระเป๋า Bitcoin ที่ดีที่สุดในรายการจัดอันดับของเรา เนื่องจากเป็นวอลเล็ตที่มีคุณสมบัติแบบมัลติเชน นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้งานบนบล็อกเชนใด ๆ ก็ได้ และจะไม่ได้รับผลกระทบหากคุณต้องการซื้อขายข้ามเชนนั่นเอง
นอกเหนือจากนี้ คุณยังจัดการพอร์ตของคุณได้แบบเรียลไทม์ โดยสามารถติดตามกำไร ราคาของสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่อย่างใกล้ชิด ชนิดนาทีต่อนาทีเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถใช้งานบนมือถือที่รองรับกับทุกระบบไม่ว่าจะเป็นแอนดรอยด์หรือไอโฟน ทำให้คุณสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
และในอนาคต คุณจะพบกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจของ Best Wallet นั่นก็คือ โครงการเหรียญคริปโตเปิดใหม่ โทเค็นที่กำลังมาแรง หรือโครงการไหนที่กำลังแอร์ดรอปอยู่ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยสำคัญให้กับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาในการติดตามข่าวสารได้อีกด้วย
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ :
- มัลติเชน: สร้างกระเป๋าได้หลายใบจากเชนต่าง ๆ
- จัดการพอร์ตแบบเรียลไทม์: ติดตามกำไรของคุณได้แบบนาทีต่อนาที
- ข้อมูลการตลาดเชิงลึก: สะดวกต่อนักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนที่ไม่ค่อยมีเวลา
- Best DEX: สวอปแบบกระจายอำนาจที่ขับเคลื่อนโดย DEX ที่ดีที่สุด
ข้อดี
- ฟีเจอร์หลากหลาย สะดวกต่อนักลงทุน
- มีระบบมัลติเชนสำหรับนักลงทุนที่มีสินทรัพย์หลายเชน
- ใช้งานง่าย มีแอปพลิเคชั่นบนมือถือ
- รองรับการใช้งานภาษาไทย
ข้อเสีย
- บางฟีเจอร์กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา ยังไม่เปิดใช้งาน
2. Exodus – กระเป๋า BTC ที่เน้นความปลอดภัยมากที่สุด
เป็นกระเป๋าคริปโตที่เน้นไปที่การเก็บ Private Key และข้อมูลธุรกรรมของคุณให้ปลอดภัยเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด ทั้งนี้ แม้ว่าเหรียญจะไม่ได้มีระดับความปลอดภัยชั้นนำ เช่น ระบบยืนยันตัวตนสองชั้น หรือ มีโค้ดซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สให้ปรับแก้ แต่คุณก็สามารถเชื่อม Exodus เข้ากับ Trezor เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยขึ้นได้
Exodus ยังมาพร้อมกับการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่าย ซึ่งทำให้ทั้งนักลงทุนมือใหม่และมืออาชีพถูกใจได้ไม่ยาก พร้อมรองรับเหรียญคริปโตมากถึง 300 สกุล พร้อมให้นักลงทุนได้เก็บเหรียญที่ตนซื้อมาไว้ได้อย่างง่ายดาย
นอกจาก Exodus จะมีให้บริการบนคอมพิวเตอร์ในระบบระบบปฏิบัติการมากมาย เช่น Windows, macOS, และ Linux แล้ว ตัวกระเป๋ายังสามารถเข้าถึงได้ผ่านมือถือ เช่น iOS และ Android ไปจนถึงส่วนขยายเบราว์เซอร์กันเลยทีเดียว พร้อมมีกระดานแลกเปลี่ยนในตัวที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้แลกเปลี่ยนเหรียญทันที พร้อมรองรับกลไก Staking เพื่อให้นักลงทุนสร้าง Passive Income เพิ่มเติมอีกด้วย แน่นอนว่าผลตอบแทนที่ได้จะแตกต่างกันไปตามจำนวนเหรียญที่ล็อคเอาไว้ แต่ก็นับว่าได้สูงเป็นอันดับต้นๆ ในตลาดเลยก็ว่าได้
นอกเหนือจากทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว Exodus ยังพร้อมสนับสนุนลูกค้าอย่างดีเยี่ยม โดยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน พร้อมมีคู่มือช่วยเหลือที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้ามาศึกษาข้อมูลพื้นฐานของตัวกระเป๋าได้ตลอดเวลา
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
- การควบคุม Private Key: เก็บ Private Key และข้อมูลธุรกรรมเอาไว้ในตัวกระเป๋าเพื่อรับรองความปลอดภัยในระดับสูง
- ความพร้อมใช้งาน: เปิดให้บริการบนคอมพิวเตอร์ มือถือ และส่วนขยายเบราว์เซอร์ ทั้งยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถควบคุมเหรียญของตนได้อย่างเต็มที่
- กระดานแลกเปลี่ยนในตัว: เปิดโอกาสให้สามารถแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตได้โดยไม่ต้องใช้กระดานแลกเปลี่ยนที่อื่น
- การเข้าถึง: มีการออกแบบที่เรียบง่าย เปิดโอกาสให้นักลงทุนมือใหม่สามารถโอนเหรียญคริปโตเข้าออกกระเป๋าได้อย่างง่ายดาย พร้อมรองรับกลไก Staking ที่ให้ผลตอบแทนสูง
ข้อดี
- มีการออกแบบที่เหมาพสำหรับมือใหม่และมืออาชีพ
- รองรับเหรียญคริปโตมากกว่า 300 สกุล
- เปิดบริการบนคอมพิวเตอร์และมือถือ
- มีกระดานเทรดในตัวเพื่อให้แลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตได้อย่างง่ายดาย
ข้อเสีย
- ไม่มีระบบยืนยันตัวตนสองชั้น
3. Zengo – กระเป๋าบิทคอยน์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยยอดเยี่ยม และเป็นส่วนตัว
เป็นกระเป๋า Bitcoin ที่การันตีถึงความปลอดภัยว่าคุณจะไม่สูญเสียทรัพย์ใด ๆ เลยตลอดการใช้งานกระเป๋าเงินของ Zengo ด้วยเทคโนโลยี Web3 Dapps ที่มี และระบบการควบคุมกระเป๋าเงินด้วยตนเองที่ทำให้ลูกค้ามากกว่าล้านบัญชีปลอดภัยและเพิ่มขึ้น
Zengo ได้เปิดตัว MPC ระบบที่คิดค้นโดยเองในการรักษาความปลอดภัยให้กับกระเป๋าเงินของผู้ใช้งานแทนการใช้งาน seed phrase ที่อาจมีช่องโหว่ ป้องกันการแฮ็กหรือการโกงที่อาจเกิดขึ้น
ในกรณีที่คุณลืมรหัสผ่าน หรือต้องการกู้คืนบัญชีสามารถทำได้ด้วย 3FA ซึ่งจะมีขั้นตอนที่ต้องยืนยันตัวตนมากกว่าแบบ 2FA ที่เราเคยเห็น นั่นก็คือการยืนยันด้วย 3D FaceLock ที่เพิ่มเข้ามา จะเป็นการสแกนใบหน้าของคุณอย่างละเอียด ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครสามารถมาสวมรอยใช้งานบัญชีคุณได้นั่นเอง
นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยี Web3 จะทำให้คุณได้รับแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์หากมีสัญญาณเตือนว่าจะได้รับการโจมตีหรือการแฮ็กจากภายนอก เพื่อให้คุณสามารถทำการป้องกันบัญชีของคุณได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ :
- MPC: ระบบรักษาความปลอดภัยที่ไร้ช่องโหว่
- 3FA: การยืนยันตัวตนด้วย 3D FaceLock สแกนใบหน้าของคุณป้องกันการโจรกรรม
- มัลติเชน: สามารถข้ามเชนได้อย่างอิสระ
- Changelly: ที่สามารถควบคุมกระเป๋าเงินได้อย่างอิสระ
ข้อดี
- ระบบรักษาความปลอดภัยที่มั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกแฮ็ก การันตี 0 บัญชีที่โดนเข้าถึง
- มีการยืนยันตัวตนแบบ 3FA ด้วยการสแกนใบหน้า
- สามารถรับรู้ถึงอันตรายของบัญชีได้จากการแจ้งเตือนบนแอป
- ทีมงานสนับสนุนผ่านทางอีเมลตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อเสีย
- ไม่รองรับการใช้งานด้วยภาษาไทย
4. Ellipal – กระเป๋าเงินคริปโตแบบ air-gapped เก็บสินทรัพย์ของคุณอย่างปลอดภัย
กระเป๋า Bitcoin ที่มีฟีเจอร์หลายแบบที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับกระเป๋าเงินของคุณอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Air-gapped เทคโนโลยีที่มีอยู่ในเฉพาะสินค้าของ Ellipal เท่านั้น
ซึ่งการทำงานจะเป็นการที่ตัดขาดจากอินเทอร์เน็ตหรือใช้การเชื่อมต่อแบบออฟไลน์ เพื่อให้แน่ใจว่าจะป้องกันการโจรกรรมทุกรูปแบบรวมไปถึงมัลแวร์ที่เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้
ซึ่ง Ellipal ได้ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 อันดับของ Cold Wallet ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปี 2022 และ 2023 โดย Forbes นิตยสารการเงินและการลงทุนชื่อดังที่นักลงทุนทุกคนจะต้องรู้จักและติดตามข่าวสารอยู่เสมอ
นอกจากนี้ทาง Ellipal ยังมีบริการแอปพลิเคชั่นที่สามารถติดตั้งได้กับทุกระบบบนมือถือ ไม่ว่าจะเป็นแอนดรอยด์และไอโฟน โดยอินเตอร์เฟซของแอปนั้นใช้งานง่าย เมนูไม่ซับซ้อน พร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่จะให้การซื้อขายแลกเปลี่ยนของผู้ใช้งานสะดวกสบายขึ้น
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ :
- Air-gapped: เครื่องมือใช้งานที่ป้องกันการโจรกรรมและการแฮ็กได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- ELLIPAL Titan Mini: แอปพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานแนวขวางบนทุกอุปกรณ์
- ELLIPAL Titan: แอปพลิเคชั่นที่มีอินเตอร์เฟซใช้งานง่าย รองรับในทุกระบบปฏิบัติการ
- Seed phrase: คีย์เวิร์ดสำหรับการเข้าถึงบัญชี เพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดให้กับบัญชี
ข้อดี
- ระบบรักษาความปลอดภัยที่หนาแน่น และโอกาสแฮ็กเป็นศูนย์
- รองรับได้มากกว่า 10,000 รายการแลกเปลี่ยน
- ได้รับรางวัลจากนิตยสารการเงินและการลงทุน
- แอปพลิเคชั่นใช้งานได้ทุกอุปกรณ์มือถือ
ข้อเสีย
- ยังไม่สามารถเลือกภาษาไทยสำหรับการใช้งานได้
5. Ledger – อุ่นใจและดูแลทัพย์สินดิจิทัลส่วนตัวของคุณด้วยกระเป๋าเงินสุดทันสมัย
เป็นกระเป๋า Bitcoin ที่สามารถแยกบัญชีของแต่ละประเภทของสินทรัพย์ออกจากกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถแยกบัญชี Hot Wallet และ Cold Wallet ออกจากกันได้
กล่าวคือ คุณสามารถสร้างกระเป๋าเงินของคุณแบบออนไลน์และออฟไลน์ได้ในคราวเดียวกันนั่นเอง
นอกจากนี้ทาง Ledger ยังมีบริการแอปพลิเคชั่นสำหรับการซื้อขายอย่าง Ledger Live ที่ทำให้การซื้อขายของคุณเป็นไปอย่างง่ายดาย ติดตามพอร์ตแบบเรียลไทม์ และจัดการการลงทุนได้แบบนาทีต่อนาทีโดยใช้เวลาไม่นานและคำสั่งไม่กี่อย่างเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้น Ledger ยังมีระบบกู้คืนบัญชีด้วย Seed phrase คีย์เวิร์ดที่มีแต่คุณเท่านั้นที่รู้ ซึ่งสามารถทำได้ทุกครั้งตามความต้องการขอเพียงมีรหัสดังกล่าวอยู่ในมือ
Ledger เป็นกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์ที่พกพาง่ายและสะดวก มีโทเค็นที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ 5,500 กว่ารายการ และมีผู้ใช้งานที่ไว้วางใจมากถึง 6 ล้านคนเลยทีเดียว
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ :
- Ledger Recover: ระบบกู้คืนบัญชีแบบแยกประเภทที่พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาที่ต้องการ
- Ledger Live: แอปพลิเคชั่นซื้อขายแลกเปลี่ยนที่จะให้การทำธุรกรรมของนักลงทุนสะดวกขึ้น
- บัญชีแยกประเภท: สามารถแยกกระเป๋าได้ตามความสะดวก และตามประเภทสินทรัพย์ที่ถือครองได้
ข้อดี
- ปลอดภัย เพราะสามารถแยกบัญชีได้ตามประเภทของสินทรัพย์
- มีทั้งแบบออนไลน์แบบออฟไลน์
- บริการแอปพลิเคชั่นซื้อขายในตัวสำหรับนักลงทุน
- สำรองกู้คืนบัญชีได้โดยไม่สูญเสียสินทรัพย์ไป
ข้อเสีย
- อาจไม่สะดวกสำหรับคนที่ต้องการใช้เฉพาะแอปพลิเคชั่น
6. Trezor – กระเป๋าคริปโตที่มีโมเดลเป็นของตัวเองที่เปรียบเสมือนตู้เซฟเข้ารหัสลับ
อีกหนึ่งกระเป๋า Bitcoin ที่เป็นแบบฮาร์ดแวร์และมีความปลอดภัย มีโมเดลต่าง ๆ ให้เลือกใช้ตามงบประมาณที่คุ้มค่า รองรับโทเค็นมากกว่า 9,000 รายการ มีระบบการสำรองข้อมูลที่สามารถกู้คืนได้ตลอดเวลา
และความปลอดภัยแบบ Open Source ที่ได้ความร่วมมือจากชุมชน ซึ่งเปิดตัวให้บริการมาตั้งแต่ปี 2013 ด้วยทีมงานมากกว่า 150 ชีวิต
เพราะบริการที่ยาวนานนี้ทำให้ Trezor สามารถรับรู้ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างดี รวมถึงความปลอดภัยแบบใดที่จะเหมาะกับกระเป๋าเงินดิจิทัลมากที่สุด ที่จะช่วยป้องกันการโจรกรรมและอาชญากรรมทางไซเบอร์ต่าง ๆ เพื่อให้สินทรัพย์ที่ถือนั้นปลอดภัย 100%
Trezor มีผู้ใช้บริการมากกว่า 2 ล้านคนทั่วโลก และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาอยู่เสมอ มีฮาร์ดแวร์มากถึง 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ Model One ที่เป็นแบบดั้งเดิม ตามด้วย Safe 3 และใหม่ล่าสุดคือ Safe 5 ที่สามารถใช้งานด้วยระบบสัมผัส และซื้อขายแบบออฟไลน์ได้ 100%
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ :
- Trezor Suite: ให้คุณสามารถนำคริปโตจากฮาร์ดแวร์แลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินต่าง ๆ และซื้อขายได้ตามความต้องการ
- Trezor Model One: ฮาร์ดแวร์รุ่นแรกของบริษัท หน้าจอ OLED ขนาด 0.96 นิ้ว และสามารถใช้งานห้อง Suite ได้
- Trezor Safe 3: ใช้เทคโนโลยี Secure Element (EAL6+) จอ OLED ใช้งานห้อง Suite ได้ แต่สำหรับมือถือไอโฟนจะสามารถดูแค่รายละเอียดได้เท่านั้น
- Trezor Safe 5: ระบบสัมผัสที่ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ่มกด หน้าจอทนต่อการขีดข่วน สามารถเสียบไมโครการ์ดได้
ข้อดี
- ทีมงานเชี่ยวชาญเรื่องกระเป๋าเงินดิจิทัลอย่างมาก เนื่องจากเปิดตัวให้บริการมายาวนาน
- มีกระเป๋าเงินหลายแบบให้เลือกหลายราคา
- ไม่จำกัดจำนวนเงินขั้นต่ำในการเปิดใช้งาน
- ติดตั้งและใช้งานง่าย ที่มือใหม่ก็สามารถทำได้ไม่ยาก
ข้อเสีย
- ราคาฮาร์ดแวร์สูงตามประสิทธิภาพของการใช้งาน
7. OKX Wallet – กระเป๋าเงินดิจิตอลสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบ NFT
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่า Bitcoin Wallet อันไหนดี? เราขอแนะนำ OKX Wallet ในฐานะกระเป๋าเงิน Bitcoin ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบ NFT
โดยตัวกระเป๋าทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มรวบรวม NFT ที่น่าจับตามองแบบครบวงจร พร้อมการทำงานแบบ Cross-chain ที่เปิดให้สร้างและเทรด NFT โดยไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว พร้อมการออกแบบที่เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
OKX Wallet ให้คุณเปิดประตูสู่โลก Web 3.0 ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมรองรับการเก็บเหรียญคริปโตไว้ในกระเป๋า, NFT, และ Decentralized Exchange ในตัวเพื่อให้ง่ายต่อการเทรดเหรียญคริปโต และต้องขอบคุณเทคโนโลยี Cross-chain ที่ทำให้แพลตฟอร์มรองรับเชนมากกว่า 50 เครือข่ายด้วยกัน เปิดให้เข้าถึงทั้งบน iOS, Android, Windows, และ MacOS
สิ่งที่ทำให้เทคโนโลยี Cross-chain ของ OKX Wallet โดดเด่นกว่าวอลเล็ทอื่นก็คือการให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเหรียญคริปโตขได้จาก 50 เครือข่าย เช่น Ethereum, Polygon, Avalanche, และ OKTC ง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว
นอกจากนี้ยังรวบรวม NFT เอาไว้แบบครบครัน โดยรองรับ NFT จากกว่า 11 เครือข่าย พร้อมเปิดให้สร้างและซื้อขายโดยไม่คิดเงิน
อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญของ OKX Wallet คือ “Earn” ที่ผู้ใช้จะสามารถทำเงินจากเหรียญคริปโตเอาไว้ได้ผ่านโปรโตคอล DeFi พร้อมเป็นทั้ง Decentralized Exchange และ Bridge Aggregator ที่จะหาอัตราการแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ใน Blockchain ชั้นแนวหน้า
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
- มีเครื่องมือในการจัดระเบียบ NFT: โดยรวมถือการติดตามประสิทธิภาพ การตั้งแจ้งเตือน และการวิเคราะห์ NFT แบบละเอียด
- มีใช้งานร่วมกับโปรโตคอล DeFi: พร้อมบริการกลไก Staking, Lending, และการยืมเหรียญโดยตรงผ่านหน้าอินเทอร์เฟซของกระเป๋า
-
ค่าแก๊สที่สามารถปรับได้: ผู้ใช้จะสามารถปรับค่าแก๊สเพื่อลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมได้ พร้อมสร้างความยืดหยุ่นให้กับการทำธุรกรรมหลายรูปแบบ
- มีฟีเจอร์ความปลอดภัยในตัว: OKX Wallet มาพร้อมกับมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับสูง เช่น กลไกตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย (MFA) และระบบระบุตัวตน (Biometrics)
ข้อดี
- รองรับการสร้างและการเทรด NFT แบบฟรีๆ
- มีเทคโนโลยี Cross-chain ที่รองรับมากกว่า 50 เครือข่าย
- มีอินเทอร์เฟซที่มือใหม่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย
ข้อเสีย
- ผู้ใช้บางคนร้องเรียนว่าฝ่ายสนับสนุนตอบกลับช้า
8. Binance Wallet – กระเป๋าเงินนวัตกรรม Web3 เทคโนโลยีใหม่ที่ดูแลสินทรัพย์แบบไร้กุญแจ
คาดว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยิน Binance Wallet กันมาบ้างแล้ว ที่ใช้เทคโนโลยี Web3 ที่ทันสมัยและรวดเร็วที่สุด เพื่อให้ความปลอดภัยในกระเป๋าเงินของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น และสะดวกต่อการใช้งาน สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น การซื้อขายแลกเปลี่ยนให้เสร็จสิ้นภายในคลิกเดียว
นอกเหนือจากรองรับเหรียญคริปโตน่าลงทุนได้หลากหลายแล้ว ยังสามารถใช้งานแบบมัลติเชน สลับโทเค็นในเชนอื่นได้อย่างรวดเร็วด้วยราคาที่ถูกที่สุด ทำให้การซื้อขายของคุณไม่มีสะดุด
ทาง Binance Wallet ยังการันตีด้วยว่า อินเตอร์เฟซของแพลตฟอร์มนั้นใช้งานง่าย คุณสามารถเสร็จสิ้นกิจกรรมได้ภายในการจิ้มลงหน้าจอแค่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น อีกทั้งยังใช้งานควบคู่กับแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนที่เป็น Web3 ด้วยกันได้อีกด้วย
กรณีหากคุณเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่เช่น มือถือ แท็บเล็ต สามารถกู้คืนบัญชีด้วยคีย์รหัสที่ตั้งเอาไว้ได้ ซึ่งจะเป็นคีย์ที่คุณตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นข้อมูลเดิมของคุณจะปรากฎขึ้นโดยอัตโนมัติและไม่มีสินทรัพย์ใดหายไป ทุกอย่างยังอยู่ครบเช่นเดียวกับบนอุปกรณ์เดิม
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ :
- MPC: ระบบประมวลผลที่จะแชร์คีย์ให้กับคุณ และป้องกันกระเป๋าเงินให้มีความปลอดภัย
- มัลติเชน: สลับเชนไปมาเพื่อทำการแลกเปลี่ยนได้ด้วยราคาที่ต่ำ
- Seed phrase: คีย์เวิร์ดสำหรับการเข้าถึงบัญชีและการกู้คืนบัญชี
ข้อดี
- มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือมาอย่างยาวนาน
- รองรับหลายสกุลเงินและใช้งานได้แบบมัลติเชน
- ทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ในคลิกเดียว
- อินเตอร์เฟซใช้งานง่าย โหลดแอปพลิเคชั่นลงบนมือถือระบบใดก็ได้
ข้อเสีย
- ยังไม่มีบริการด้วยภาษาไทย
9. Bybit Wallet – BTC Wallet ที่เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพ
หากยังไม่แน่ใจว่า Bitcoin Wallet อันไหนดี? Bybit Wallet ก็เป็นอีกหนึ่งกระเป๋า BTC ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
แม้ว่าจะเป็น Custodial Wallet ซึ่งถูกควบคุมโดยผู้ให้บริการ แต่ก็มาพร้อมระบบยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอนและกระดานเทรดในตัวเพื่อให้นักเทรดมือใหม่สามารถปรับเปลี่ยนขั้นตอนการซื้อขายได้อย่างยืดหยุ่น
Bybit Wallet ยังเป็นประตูสู่ Web 3.0 ที่ยอดเยี่ยม โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึง DeFi, GameFi และ NFT ได้ทันที เพียงคลิกเดียว ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึง dApp และบริการต่างๆ ได้มากมาย
ตัวกระเป๋ายังรองรับเหรียญกว่า 400 สกุล หมายความว่าผู้ใช้สามารถเทรดเหรียญคริปโตได้อย่างง่ายดายผ่านกระดานเทรดและแอพเทรดบนมือถือของ Bybit เอง
และในฐานะ Custodial Wallet ทาง Bybit จึงทำหน้าจัดการ Private Key ในนามของผู้ใช้เอง เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายและสามารถเข้าถึงเหรียญในกระเป๋าได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ Custodial Wallet ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่จะถูกผู้ให้บริการเจาะข้อมูลได้ ส่วน Non-custodial Wallet ที่ไม่ถูกควบคุมโดยผู้ให้บริการ
ก็หมายความว่านักลงทุนจะได้ควบคุม Private Key ของตนอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องแลกมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน Bybit Wallet ได้เข้ามาสร้างสมดุลให้กับปัจจัยเหล่านี้โดยการเก็บเหรียญคริปโตเอาไว้ใน Cold Storage พร้อมปรับใช้ระบบยืนยันตัวตนสองชั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้สูงยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
- มีระบบรวบรวม dApp: สามารถเข้าถึงแอพพลิเคชันแบบกระจายอำนาจที่ถูกคัดสรรมาไว้ได้มากมาย
- มีข้อมูลที่ให้นักลงทุนเข้ามาศึกษาได้: มีส่วน ByBit Learn และ Crypto Insights เพื่อให้ผู้ใช้เข้ามาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อดี
- เป็นกระเป๋าคริปโตที่มาพร้อมกระดานเทรด Bybit
- รองรับเหรียญคริปโตมากกว่า 400 สกุล
- มีเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยระดับสูง ซึ่งรวมถึงระบบยืนยันตัวตนแบบสองชั้น
- สามารถเข้าถึง DeFi, GameFi, และ NFT ได้ผ่านกระเป๋า
ข้อเสีย
- อาจใช้งานยากสำหรับมือใหม่
- เป็น Custodial Wallet ซึ่งถูกควบคุมโดยผู้ให้บริการ ไม่ใช่ผู้ใช้
10. Blockstream Jade – สุดยอดกระเป๋าคริปโตที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับบิทคอยน์ด้วยฟังก์ชันประจำแพลตฟอร์ม
ตบท้ายกันด้วย Blockstream Jade กระเป๋าเงิน Bitcoin แบบฮาร์ดแวร์ที่มีการทำงานแบบ All In One นั่นก๋คือสามารถใช้งานได้ทุกอย่างเบ็ดเสร็จภายใจแพลตฟอร์มนั่นเอง
โดยทางแพลตฟอร์มจะมี Liquid Network ที่เป็น Bitcoin เลเยอร์ 2 ที่สามารถออกโทเค็นได้โดยป้องกันความเป็นส่วนตัวและรักษาความปลอดภัยให้กับเจ้าของ
นอกจากนี้ยังมีบริการขุดบิทคอยน์จากคลาวด์ที่ของแพลตฟอร์มได้อีกด้วย ให้คุณได้เป็นเจ้าของบิทคอยน์แบบง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เวลายุ่งยาก แต่อย่างไรก็ตาม การขุดบิทคอยน์กับทาง Blockstream Jade คือการเช่าพื้นที่ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง
สามารถทำการเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั้่วโมงตลอด 365 วัน และรองรับการซื้อขายแบบ P2P โดยตรง รักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยกระเป๋าเงินของ Blockstream Jade นั้นจะเป็นการพัฒนาเพื่อบิทคอยน์โดยเฉพาะ ดังนั้นแล้วการถือสกุลเงินอื่น ๆ อาจจะต้องสอบถามข้อมูลหรือศึกษาเพิ่มเติมว่าแลกเปลี่ยนได้หรือไม่
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ :
- Satellite Kits: ระบบดาวเทียมที่เชื่อมต่อกับบิทคอยน์แบบออฟไลน์ ไม่ใช่อินเทอร์เน็ต ปลอดภัย 100%
- Core Lightning: เพิ่มขีดจำกัดให้บิทคอยน์ ขยาย Lightning ให้กว้างมากขึ้น
- Mining: บริการขุดบิทคอยน์สำหรับผู้ใช้งานระดับองค์กร
ข้อดี
- เป็นผู้นำบิทคอยน์ ที่มุ่งเน้นการรักษาความปลอดภัยของบิทคอยน์
- มีบริการขุดบิทคอยน์จากคลาวด์
- บริการข้อมูลซื้อขายแบบเรียลไทม์
- ใช้งานง่าย เมนูไม่เยอะและไม่ซับซ้อน
ข้อเสีย
- อาจไม่รองรับสกุลเงินอื่นเพราะพัฒนามาเพื่อบิทคอยน์โดยเฉพาะ
เลือกกระเป๋า Bitcoin ยังไง?
ปัจจุบันนี้มีกระเป๋า Bitcoin ให้เลือกมากมาย ต่อไปนี้คือหลักเกณฑ์ 5 ข้อในการพิจารณาว่าควรเลือกกระเป๋าบิทคอยน์ อันไหนดีที่สุดที่เราอยากแนะนำ
-
ประเภทเหรียญที่รองรับ
นอกเหนือไปจากเหรียญ Bitcoin นักลงทุนควรเลือกใช้กระเป๋าดิจิทัลที่รองรับเหรียญคริปโตสกุลอื่น ๆ เพื่อให้ความสะดวกในการจัดเก็บสินทรัพย์ที่หลากหลายได้ภายในจุดเดียว
-
วิธีการเข้าถึง
นักลงทุนควรเลือกใช้กระเป๋าดิจิทัลที่เป็นมิตรกับมือถือและ/หรือมีแอปพลิเคชัน เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงและจัดการสินทรัพย์ที่มีอยู่ในพอร์ตของตนเองได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
-
การสนับสนุน
นักลงทุนควรเลือกใช้บริการที่มีระบบซัพพอตที่ดี เช่น มีเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าที่ให้บริการในภาษาของตนเอง มีช่องทางในการติดต่อที่สะดวกสบาย และระยะเวลาในการตอบกลับควรจะรวดเร็ว
-
ค่าธรรมเนียม
นักลงทุนควรตรวจสอบว่าอัตราค่าธรรมเนียมการใช้บริการของแต่ละวอลเล็ทและเปรียบเทียบ เช่น
- ค่าธรรมเนียมการเปิดบัญชี
- ค่าธรรมเนียมการรับและส่งเงิน
- ค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชีหากไม่มีการเคลื่อนไหว
-
ความปลอดภัย
นักลงทุนควรตรวจสอบว่ากระเป๋าดิจิทัลใช้วิธีการใดในการปกป้องหรือรักษาความปลอดภัย เช่น
- การใช้ขั้นตอน 2FA ในการเข้าถึงกระเป๋าดิจิทัล
- การเข้าถึงกระเป๋าดิจิทัลบนมือถือด้วยลายนิ้วมือและ/หรือม่านตา
- การแจ้งเตือนการเข้าถึงกระเป๋าดิจิทัลและ/หรือการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นผ่านอีเมล แชท และ/หรือ SMS
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกระเป๋า Bitcoin
กระเป๋า Bitcoin ที่มีความปลอดภัยสูงสุดคือแบบไหน
Cold Wallet มีข้อเสียอะไรบ้างเมื่อเทียบกับ Hot Wallet
มีอะไรบ้างที่ต้องระวังเมื่อใช้ Hot Wallet
ทำไมต้องใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล?
สรุป
หากคุณสนใจที่จะลงทุนในเหรียญคริปโต เช่น Bitcoin นอกเหนือไปจากความรู้แล้ว สิ่งสำคัญที่คุณควรมีคือกระเป๋าดิจิทัลซึ่งใช้สำหรับการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลให้มีความปลอดภัย
ปัจจุบันนี้มีกระเป๋าดิจิทัลที่ปลอดภัยและน่าสนใจหลายราย เช่น Best Wallet Exodus และ Zengo
เราชื่นชอบ Best Wallet มากที่สุด เพราะกระเป๋าดิจิทัลนี้ช่วยจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโตทั้งหมดของคุณ รองรับเครือข่ายบล็อคเชนหลายเครือข่าย ให้คุณสามารถเก็บคริปโตที่หลากหลายได้อย่างง่ายดาย