คาดการณ์แนวโน้มราคา

Last updated:
Author
Author
Phakphum
Last updated:
ทำไมจึงไว้วางใจ Cryptonews
เป็นเวลามากว่า 10 ปีที่ Cryptonews ได้รายงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเรา ทีมงานนักข่าวและนักวิเคราะห์ของเรามีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในด้านการวิเคราะห์ตลาดและเทคโนโลยีบล็อกเชน เรามุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานด้านบรรณาธิการให้อยู่ในระดับสูง โดยเน้นความถูกต้องของข้อเท็จจริงและการรายงานอย่างสมดุลในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นคริปโตเคอเรนซี โปรเจกต์บล็อกเชน งานอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือการพัฒนาเทคโนโลยี การที่เราอยู่ในอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ https://cryptonews.com/about-us/">อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cryptonews
การเปิดเผยโฆษณาเรามุ่งมั่นในการสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่กับผู้อ่านของเรา บางเนื้อหาในเว็บไซต์อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากความร่วมมือเหล่านี้

แนวโน้มราคาเหรียญคริปโตคือการคาดการณ์ราคาในอนาคตของคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งอาจเป็น Timeframe ใดก็ได้ที่คุณอยากรู้ อาจจะเป็นปี เดือน วัน หรือเป็นชั่วโมงก็ได้ ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ราคาเหรียญคริปโตโดยคำนึงถึงหลายๆ ปัจจัยหด้วยกัน

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกเหรียญคริปโตที่เราพบว่ามีโอกาสทำกำไรสูงสุดในอนาคต โดยจะคาดการณ์ตลาดคริปโตโดยรวมในระยะสั้น (ปี 2024) และระยะยาว (ปี 2025-2035) พร้อมบอกรายละเอียดวิธีคาดการณ์ราคาด้วยตนเองและเครื่องมือที่คุณสามารถใช้เพื่อคาดการณ์ราคา

แนวโน้มราคาเหรียญคริปโต


เมื่อค้นหาเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนมากที่สุด เราก็ได้คำนึงถึงปัจจัยหลายข้อด้วยกัน รวมถึงสถานะปัจจุบันและอนาคตของตลาดคริปโต ยูทิลิตี้ของโทเค็น โอกาสที่ราคาจะเพิ่มขึ้น และกระแสในปัจจุบันทั้งในโลกของคริปโตและการเงินแบบดั้งเดิม

เหรียญ ราคาปัจจุบัน (เปลี่ยนแปลงตลอด 24 ชม.) All Time High การคาดการณ์ปี 2025 การคาดการณ์ปี 2026
Bitcoin $64,171.88 (-3.17%) $73,628.40 $136,255.22 (+112.33%) $140,573.05 (+119.06%)
Ethereum $3,135.61 (-2.29%) $4,867.17 $7,141.31 (+127.75%) $7,007.99 (+123.50%)
Binance Coin $609.99 (+0.35%) $689.33 $1,549.32 (+153.99%) $1,522.42 (+149.58%)
Solana $149.13 (-4.59%) $259.52 $300.90 (+101.77%) $295.18 (+97.94%)
XRP $0.532 (-3.54%) $3.92 $1.94 (+264.73%) $2.09 (+291.87%)
Cardano $0.478 (-5.21%) $3.10 $2.96 (+519.59%) $3.55 (+643.17%)
Dogecoin $0.152 (-4.78%) $0.738 $0.946 (+519.59%) $1.14 (+643.17%)
Shiba Inu $0.0000259 (-4.18%) $0.0000881 $0.000124 (+378.32%) $0.00014 (+440.04%)
Polkadot $7.00 (-4.56%) $54.98 $15.95 (+127.75%) $15.65 (+123.50%)
Smog $0.0832 (-6.25%) $0.377 $1.99 (+2,291.64%) $3.24 (+3,791.28%)
Litecoin $84.08 (-1.49%) $410.76 $105.24 (+25.16%) $104.19 (+23.92%)
Lucky Block $0.0000325 (+1.40%) $0.00969 $0.000201 (+517.94%) $0.000241 (+640.91%)
Bonk $0.0000250 (+7.98%) $0.0000451 $0.0002 (+697.18%) $0.000256 (+920.39%)
Quant $108.94 (+0.18%) $424.43 $248.11 (+127.75%) $243.48 (+123.50%)
Pepe 2.0 $0.0000000503 (+4.58%) $0.00000028 $0.000001 (+1,884.99%) $0.000002 (+3,869.99%)
Evil Pepe $0.0000200 (0.00%) $0.000383 $0.000124 (+518.66%) $0.000149 (+643.39%)
Pi Network $42.95 (-2.74%) $299.20 $109.10 (+153.99%) $107.21 (+149.58%)
Wall Street Memes $0.00706 (-5.45%) $0.0771 $0.0437 (+519.59%) $0.0525 (+643.17%)
Meme Kombat $0.106 (+12.24%) $0.853 $0.851 (+698.78%) $1.09 (+922.35%)
BTC20 $0.129 (-6.21%) $2.55 $0.801 (+519.59%) $0.961 (+643.18%)
XRP20 $0.0000229 (0.00%) $0.000100 $0.000142 (+517.86%) $0.000171 (+644.04%)
SpongeBob $0.000738 (-0.19%) $0.00135 $0.00457 (+519.60%) $0.00549 (+643.16%)
Tamadoge $0.00516 (+0.33%) $0.192 $0.0319 (+519.59%) $0.0383 (+643.16%)
Dash 2 Trade $0.00349 (-6.70%) $0.0529 $0.0216 (+519.60%) $0.0259 (+643.18%)
Love Hate Inu $0.0000103 (-4.47%) $0.000273 $0.000064 (+518.26%) $0.000077 (+643.85%)
Calvaria $0.00186 (-12.56%) $0.0179 $0.0115 (+519.63%) $0.0138 (+643.18%)
Battle Infinity $0.000319 (+8.76%) $0.00554 $0.00255 (+698.83%) $0.00327 (+922.37%)
Fight Out $0.00117 (-0.08%) $0.159 $0.00731 (+519.60%) $0.00876 (+643.18%)
Big Eyes $0.000000831 (-16.32%) $0.0000179 $0.000005 (+501.35%) $0.000006 (+621.63%)
Metropoly $0.0167 (0.00%) $0.243 $0.103 (+519.59%) $0.124 (+643.18%)

รีวิวเหรียญคริปโตที่คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นมากที่สุด


ในส่วนต่อไป เราก็ได้ทำการรีวิวแต่ละเหรียญที่เราคาดการณ์ราคาไว้ในตารางด้านบน โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกัน ส่วนแรกมุ่งเน้นไปที่เหรียญคริปโตใหม่ที่มีแนวโน้มมากที่สุด และอีกส่วนจะสรุปเหรียญคริปโตหลักบางสกุลที่เราได้คาดการณ์แนวโน้มราคาแบบละเอียด ซึ่งด้านล่างคือรายการเหรียญคริปโตอันดับต้นๆ ที่มีแนวโน้มเป็นเชิงบวกมากที่สุด

คาดการณ์เหรียญคริปโตมาใหม่ที่มีโอกาสทำกำไรมากที่สุด


กำลังสงสัยว่าเหรียญคริปโตสกุลใดที่จะโตขึ้น 100 เท่าอยู่หรือไม่? ในส่วนนี้ เราจะมาคาดการณ์ราคาเหรียญคริปโตที่มีโอกาสทำกำไรมากที่สุดแบบเจาะลึก ซึ่งนักลงทุนคริปโตกำลังให้ความนิยมในปี 2024

Dogeverse – เหรียญมาใหม่ที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะให้ผลกำไรกว่า 600,000% ต่อปี

Dogeverse ($DOGEVERSE)

เป็นเหรียญมีมมาใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมหาศาล หลังเปิดพรีเซลล์ไปเพียงไม่กี่นาที โปรเจกต์ก็ระดมทุนได้ไป 250,000 ดอลลาร์ทันที ซึ่งความสนใจในระดับนี้ก็มาจากการที่เหรียญทำงานแบบ Multi-chain ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงเหรียญได้ผ่าน Ethereum, Binance, Polygon, Avalance, Base, และ Solana

Dogeverse

นักลงทุนในช่วงพรีเซลล์จะมีโอกาสรับผลตอบแทนต่อปีได้ถึง 600,000% จากการ Staking ซึ่งจะแจกรางวัลให้เป็นระยะเวลาสองปี โดยเปอร์เซ็นต์รางวัลจะลดลงเมื่อเหรียญถูกซื้อและถูก Stake มากขึ้น หมายความว่านักลงทุนในช่วงพรีเซลล์จะมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าเมื่อเหรียญเข้ากระดานเทรดนั่นเอง ซึ่งมีคาดการณ์ว่าเหรียญอาจถูกนำเข้า Binance ในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน

อุปทานทั้งหมดของเหรียญคือ 2 แสนล้านโทเค็นและจัดสรร 15% ของอุปทานทั้งหมดไว้ขายในช่วงพรีเซลล์ พร้อมสำรองเหรียญเพื่อทำให้คอมมิวนิตี้สามารถเติบโตได้อีกในระยะยาวที่ 25%

ประเด็นสำคัญ:

  • เป็นเหรียญมีม Multi-chain สกุลแรกที่รองรับได้มากถึงหกเครือข่าย
  • นักลงทุนสามารถเลือกเครือข่ายที่ตนต้องการได้อย่างง่ายดาย
  • โปรเจกต์ระดมทุนได้ 250,000 ดอลลาร์หลังเปิดตัวได้ไม่กี่นาที
ไปยัง Dogeverse

Slothana – เห619;ียญมีมบน Solana Blockchain สกุลล่าสุดที่นักลงทุนกำลังจับตามอง

Slothana

($SLOTH) เป็นเหรียญมีมที่เปิดขายพรีเซลล์บน Solana Blockchain ซึ่งต่อยอดมาหลังจากที่ Slerf ประสบความสำเร็จและกลายเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนเครือข่าย ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายรวม 2.7 แสนล้านภายในไม่กี่วันหลังเปิดตัว โดยทาง Slothana ก็มุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จให้ได้ในระดับเดียวกัน หลังเปิดพรีเซลล์ โปรเจกต์ก็ระดมทุนไปได้ 500,000 ดอลลาร์ทันที แสดงให้เห็นว่าเหรียญได้รับความสนใจอย่างมาก นอกจากนี้ ทางทีมงานยังเน้นนำเหรียญเข้า Binance อย่างจริงจังอีกด้วย

Slothana

นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่าทีมพัฒนา Smog คือทีมเดียวกับที่ทำ Slothana ซึ่งเหรียญดังกล่าวก็มีมูลค่าพุ่งสูงกว่า 12,000% หลังเปิดตัวบน Solana ไปได้ไม่นาน โดยตอนนี้มีมูลค่าตลาดเกือบ 300 ล้านเลยทีเดียว

สำหรับนักลงทุนที่อยากซื้อเหรียญในช่วงพรีเซลล์ก็สามารถโอน SOL เข้าที่อยู่ EnSawje2vQSQKtGbPYdXEuYKm2sHgeLKJTqCmrDErKEA ได้เลยทันที โดยหลังจากพรีเซลล์สิ้นสุด คุณก็จะได้รับ $SLOTH ในรูปแบบ Airdrop เข้ากระเป๋าเงินโดยตรง โดยตอนนี้ 1 SOL จะได้ 10,000 $SLOTH ซึ่งคุณจะสามารถใส่จำนวนเหรียญเท่าไหร่ก็ได้ในขั้นตอนการซื้อ

ประเด็นสำคัญ:

  • ไม่มีรอบพรีเซลล์หรือการนับถอยหลังขึ้นราคา เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงเหรียญได้อย่างยุติธรรม
  • คาดว่าจะประสบความสำเร็จได้มากกว่าเหรียญมีมบน Solana อื่นๆ
  • ระดมทุนได้ทันที 500,000 ดอลลาร์หลังขายพรีเซลล์ไม่นาน
ไปยัง Slothana

Mega Dice Token – คาสิโนบนเครือข่าย Solana ที่ผู้ถือจะได้รับรางวัลเพิ่มเติม

Mega Dice

($DICE) เป็นคาสิโนคริปโตที่มีปริมาณการเดิมพันมูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์และมีผู้ใช้มากกว่า 10,000 คนต่อเดือน ซึ่งผู้ที่ถือเหรียญในช่วงพรีเซลล์ก็จะได้รับรางวัลและผลกำไรเพิ่มเติมจากตัวคาสิโนอีกด้วย

ทีมงานอธิบายเอาไว้ว่า $DIC จะใช้เป็นรางวัลให้กับผู้ถือเหรียญที่ Stake เพื่อรับส่วนแบ่งรายได้ของคาสิโน และที่สำคัญ ผู้ถือเหรียญทุกคนจะมีโอกาสเข้าถึง NFT สุดพิเศษที่จะให้สิทธิและรางวัลเพิ่มเติมมากมาย พร้อมรองรับโปรแกรมแนะนำเพื่อนให้เข้ามาลงทุนในช่วงพรีเซลล์ ซึ่งจะมีโอกาสได้รับค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติมอีก 10% โดยไม่มีการจำกัดการให้รางวัล

Mega Dice

ส่วนใครที่เลือกเล่นเกม เดิมพัน หรือแทงกีฬาบนคาสิโนก็มีโอกาสได้รับ Airdrop มูลค่า 2.2 ล้านดอลลาร์ไปแบบฟรีๆ อีกด้วย เมื่อพิจารณ์ว่าคาสิโนคริปโตอย่าง TG.Casino ที่เปิดตัวเมื่อปี 2023 ได้ประสบความสำเร็จไปก่อนหน้า โดยโปรเจกต์โตขึ้นกว่า 4 เท่าหลังเปิดตัว $DICE เองก็อาจสามารถทำได้แบบเดียวกันหรืออาจจะโตมากกว่าก็เป็นไปได้

ประเด็นสำคัญ:

  • คุณสามารถ Stake $DICE เพื่อรับรางวัลเป็นส่วนแบ่งรายได้จากคาสิโน
  • ระบบรางวัลสุดพิเศษที่แจก Airdrop มูลค่ากว่า 2.2 ล้านดอลลาร์
  • สามารถเล่นเกมได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีค่าธรรมเนียมที่ไม่แพง
ไปยัง Mega Dice Token

99Bitcoins – แพลตฟอร์ม Learn to Earn ที่เพิ่งเปิดตัวเหรียญดั้งเดิมเพื่อรับรางวัล Staking

99Bitcoins

($99BTC) คือแพลตฟอร์ม Learn to Earn มาใหม่ที่กำลังเป็นที่สนใจด้วยความที่เหรียญอาจถูกนำเข้า Binance เมื่อพิจารณาจากยูทิลิตี้ของเหรียญ​ โดยทางโปรเจกต์จะมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงกระบวนการศึกษาเกี่ยวกับเหรียญคริปโตและรับรางวัลเป็นผลตอบแทนให้กับผู้เข้าร่วมทุกคนที่สมัครใช้งาน

โปรเจกต์กำลังเปิดขายเหรียญ $99BTC ในช่วงพรีเซลล์ โดยนักลงทุนจะสามารถซื้อด้วย ETH, BNB, USDT, หรือบัตรเครดิตและต้องใช้ Ethereum Wallet ที่เข้ากันได้เพื่อซื้อเหรียญ

99Bitcoins

เมื่อคุณซื้อ $99BTC เรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถเลือก Stake เหรียญเพื่อรับผลตอบแทนต่อปีเพิ่มอีก 50,000% ในพรีเซลล์รอบแรกๆ ซึ่งแน่นอนว่ารางวัลจะลดลงเมื่อเหรียญถูก Stake มากขึ้น ทำให้นักลงทุนในช่วงแรกมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้นนั่นเอง และข้อควรรู้คือหากซื้อด้วย BNB จะไม่สามารถรับรางวัล Staking ได้

ทางทีมพัฒนายังแจกเหรียญ Airdrop มูลค่ากว่า 99,999 ดอลลาร์เป็น $99BTC ให้กับนักลงทุนที่โชคดี 99 รายอีกด้วย ซึ่งเหรียญอาจมีโอกาสเติบโตขึ้นได้หลังเข้ากระดานเทรด หลังจากที่ BTC กำลังซื้อขายในระดับ All Time High ในตอนนี้

ประเด็นสำคัญ:

  • แจกเหรียญมูลค่า 99,999 ดอลลาร์ให้กับนักลงทุนช่วงแรก
  • สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ พร้อมส่วนลดสินค้าและบริการได้
  • ให้รางวัล Staking ในระดับสูง
ไปยัง 99Bitcoins

5thScape – เหรียญใหม่ชั้นยอดที่กำลังเปิดตัวในตลาด VR ที่กำลังมาแรง

โปรเจกต์ 5thScape มุ่งเน้นไปที่โลก AR และ VR แบบใหม่ที่น่าสนใจ และมีเป้าหมายที่จะสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลไปพร้อมกับแว่นและเก้าอี้ VR ที่ใช้ในการเข้าเล่น

การระดมทุน ICO ของ 5thScape จะมุ่งเน้นไปที่เกม VR มากมาย ซึ่งรวมถึงเกใมวยสากล เกมฟุตบอล เกมยิงธนู และอีกมากมาย นอกจากนี้ 5thScape ยังมีเป้าหมายที่จะพัฒนาแว่น VR และเก้าอี้เพื่อการเล่นเกมของตัวเองด้วยเช่นกัน

5thScape

ตลาดเกม VR มีอัตราโตต่อปีถึง 36% ในช่วงปี 2023 ถึง 2030 ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น การดูแลสุขภาพและการฝึกอบรมก็จะได้รับผลดีจากการเติบโตของเทคโนโลยี VR ไปอีกนานถึงสิบปีด้วยเช่นกัน 5thScape ยังวางแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดเหล่านี้ เพื่อเพิ่มความง่ายในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และโทเค็นของตน โทเค็น 5thScape ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงพรีเซลล์จะเป็นส่วนสำคัญของโลก 5thScape โดยจะเป็นลดผลิตภัณฑ์ สิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์พิเศษและตัวอย่างการเล่นเกม พร้อมคอนเทนต์ VR สถดพิเศษ

ประเด็นสำคัญ:

  • ตลาด VR มีคาดการณ์ว่าจะเติบโตอีกมากในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
  • 5thScape เริ่มต้นจากเกม VR และจะมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
  • กำลังพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้เข้าถึง VR
  • เหรียญ 5thScape จะเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศ 5thScape VR
ไปยัง 5thScape

Sponge V2 – โปรเจกต์ที่เปิดตัวเหรียญอีกรอบพร้อมเกม P2E

Sponge V2 เป็นการออกใหม่ของเหรียญมีม Sponge V1 เดิม ซึ่งเติบโตได้ถึง 100 เท่าหลังเข้าตลาดครั้งแรกเมื่อตอนต้นปี 2023 และการลังจะย้ายไปฝใช้สัญญาอัจฉริยะใหม่โดยสมบูรณ์ทีมงานพัฒนา Sponge V1 กำลังย้ายโทเค็นไปยังสัญญาอัจฉริยะใหม่ Sponge V2 เพื่อเพิ่มยูทิลิตี้ให้กับเหรียญในฐานะหนึ่งในเหรียญมีมที่ดีที่สุด

นอกจากการย้ายสัญญาอัจฉริยะและการเปิดตัวเหรียญใหม่ โปรเจกต์ยังเปิดขายเหรียญใหม่ในช่วงพรีเซลล์บนเว็บไซต์ Sponge อีกด้วย

Sponge V2

เพื่อทำให้การพรีเซลล์มีความยุติธรรม ราคาของโทเค็น Sponge V2 เหล่านี้จะยึดกับราคาตลาดของ Sponge V1 หลังจากที่ผู้ใช้เปลี่ยนโทเค็น Sponge V1 ที่มีอยู่เป็นโทเค็น Sponge V2 หรือซื้อผ่านสัญญาอัจฉริยะ โทเค็นของพวกเขาจะถูกนำไป Stake โดยอัตโนมัติเพื่อรับรางวัล

ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 179% ต่อปี พร้อมเพิ่มยูทิลิตี้เข้ามาในรูปแบบของเกม Sponge P2E Racer ที่ผู้ใช้สามารถรับโทเค็น Sponge ได้มากขึ้นจาก “เกม Play to Earn มาใหม่สุดนอกกรอบ!”

ประเด็นสำคัญ:

  • เปิดตัวเหรียญมีมที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วอีกครั้ง
  • การย้ายไปยังสัญญาอัจฉริยะใหม่เพื่อเพิ่มยูทิลิตี้
  • ผลตอบแทน Staking ที่สามารถรับได้จนกว่าเหรียญจะเข้ากระดานเทรดอีกครั้ง
  • เกม Play to Earn ใหม่ที่จะทำให้เหรียญมียูทิลิตี้มากขึ้น
ไปยัง Sponge V2

Smog – เหรียญมีมมาใหม่ที่มีการกำหนดอุปทานเอาไว้ที่ 490 ล้านดอลลาร์

Smog ($SMOG)

เป็นเหรียญมีมมาใหม่ล่าสุดบน Solana และก็อาจจะประสบความสำเร็จได้มากกว่า Bonk, Myro, และ Dogwifhat ไม่ยาก แต่เหรียญก็โดดเด่นยิ่งกว่าเหรียญมีมเหล่านี้จากการที่ $SMOG เป็นเหรียญบน Solana ที่สามารถเข้าถึงผ่านเชนอื่นอีกมากมาย

ที่สำคัญ ทีมงานได้จัดสรร 35% ของอุปทานทั้งหมดไว้เป็นรางวัล Airdrop ซึ่งคุณจะต้องซื้อ $SMOG และทำภารกิจบนแพลตฟอร์ม Zealy ให้สำเร็จ โดยการแจกเหรียญในซีซันแรกก็มีผู้ใช้ทำภารกิจสำเร็จไปแล้วรวม 9 ล้านภารกิจและมีผู้เข้าร่วมรวม 50,000 คนแล้วเรียบร้อย โดยซีซันที่สองกำลังเปิดให้เข้าร่วมแล้วในตอนนี้

Smog

แม้ว่า Smog จะไม่ได้เปิดพรีเซลล์โดยตรง แต่เปิดขายบน Jupiter ซึ่งโปรเจกต์ก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามทันที ทำให้ราคาเหรียญพุ่งขึ้นกว่า 920% หลังเข้ากระดานเทรด

ทีมงานจำกัด 50% ของอุปทานทั้งหมดไว้สำหรับการตลาดและเหรียญก็กลายเป็นเหรียญมีมที่ดีที่สุดไปแล้วทั้งบน Solana และเครือข่ายคริปโตทั่วโลกเลยทีเดียว ทำให้มีโอกาสอีกมากที่เหรียญจะถูกนำเข้ากระดานเทรดหลักๆ ได้นั่นเอง

ประเด็นสำคัญ:

  • พร้อมเปิดตัวเกม P2E เพื่อรับผลตอบแทนเพิ่มเติม
  • โอกาสเปลี่ยนแปลงแนวทางการขุดส่งด้วยรถตุ๊กตุ๊กอย่างสิ้นเชิง
  • สถานีชาร์จ EV ที่สามารถชำระเงินด้วย $TUK
ไปยัง Smog

eTukTuk – เหรียญที่จะมาเปลี่ยนแปลงแนวทางการโดยสารด้วยรถตุ๊กตุ๊ก

$TUK เป็นเหรียญคริปโตหลักจาก eTukTuk บน Cardano Blockchain โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงวงการการโดยสารด้วยรถตุ๊กตุ๊ก พร้อมใช้งานเทคโนโลยี Blockchain เพื่อสร้างการขนส่งที่เข้าถึงได้และมีราคาถูกมากที่สุด

ทีมงานตั้งเป้าที่จะพัฒนาสถานีชาร์จรถ EV ที่คนขับสามารถชำระเงินได้ผ่านแอพขนขับด้วย $TUK และส่วนแบ่งจากการทำธุรกรรมจะถูกแบ่งให้กับพันธมิตรภายในพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างสถานีชาร์จตามสถานที่ต่างๆ

eTukTuk

และส่วนหนึ่งของธุรกรรมจะถูกแจกจ่ายให้กับผู้ที่ Stake เหรียญทุกคนทีมพัฒนา eTukTuk เคลมมาว่าคนขับรถตุ๊กตุ๊กจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 400% พร้อมโอกาสสร้างรายได้แบบพาสซีฟเพิ่มเติม

นอกจากนี้จะมีการเปิดตัวเกม P2E บน Android และ iOS เพื่อให้ผู้เล่นสามารถรับ $TUK ได้เพิ่มเติมอีกด้วยในตอนนี้ โปรเจกต์ระดมทุนได้แล้วกว่า 3 ล้านดอลลาร์และมีโอกาสอย่างสูงที่เหรียญจะเข้า Binance หลังพรีเซลล์สิ้นสุด ราคาเหรียญอยู่ที่ 0.0305 ดอลลาร์ในปัจจุบันและให้ผลตอบแทนต่อปีถึง 87%

ประเด็นสำคัญ:

  • พร้อมเปิดตัวเกม P2E เพื่อรับผลตอบแทนเพิ่มเติม
  • โอกาสเปลี่ยนแปลงแนวทางการขุดส่งด้วยรถตุ๊กตุ๊กอย่างสิ้นเชิง
  • สถานีชาร์จ EV ที่สามารถชำระเงินด้วย $TUK
ไปยัง eTukTuk

Bitcoin Minetrix – โปรเจกต์ Stake to Mine สำหรับขุดเหรียญ BTC บนคลาวด์

Bitcoin Minetrix ($BTCMTX)

เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถขุด BTC บนคลาวด์บนเครือข่าย Ethereum ด้วยแนวทาง Stake to Mine อันเป็นเอกลักษณ์ของโปรเจกต์และยังเป็นไอเดียที่อาจได้รับความสนใจอย่างมาก

พรีเซลล์ระดมทุนไปแล้วกว่า 13.2 ล้านดอลลาร์และได้รับการตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะจาก Coinsult เป็นที่เรียบร้อย หมายความว่าเหรียญจะมีโอกาสอย่างมากที่จะถูกนำเข้ากระดานเทรด Binance ที่เน้นไปที่เหรียญที่มียูทิลิตี้ที่ใช้ได้จริง

Bitcoin Minetrix

ผู้ใช้จะสามารถ Stake $BTCMTX เพื่อรับเครดิตการขุดบนคลาวด์ได้ผ่าน Bitcoin Minetrix ซึ่งจะถูกเผาเพื่อรับ BTC เป็นรางวัลตอบแทน ซึ่งจะสามารถทำได้ผ่านหน้าอินเทอร์เฟซที่ผู้ใช้สามารถจัดการกระบวนการขุดเหรียญของตนได้โดยอิสระ

แม้ว่าตลาดคริปโตจะมีแพลตฟอร์มขุด BTC มากมายอยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดดังกล่าวเต็มไปด้วยโปรเจกต์ปลอมและถูกสร้างมาเพื่อหลอกกินเงินนักลงทุนไปฟรีๆ แม้แต่แพลตฟอร์มที่ขุดเหรียญได้จริงก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วทั้งยังไม่สามารถควบคุมได้เท่ากับ Bitcoin Minetrix แสดงให้เห็นว่าทีมพัฒนาเน้นไปที่ความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้จริงจากยูทิลิตี้ของโปรเจกต์

ประเด็นสำคัญ:

  • มียูทิลิตี้สุดพิเศษสำหรับนักลงทุนคริปโตทุกคนให้เข้ามาขุดเหรียญได้อย่างง่ายดาย
  • ระบบ Stake to Mine รูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ
  • เปิดโอกาสให้สร้างรายได้แบบพาสซีฟผ่านการขุดโดยไม่ต้องใช้เครื่องขุดเหรียญ
ไปยัง Bitcoin Minetrix

คาดการณ์เหรียญคริปโตหลัก

Bitcoin – เหรียญคริปโตอันดับ 1 ของโลก

บิทคอยน์

เป็นเหรียญคริปโตสกุลแรกและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกจึงไม่ต้องแนะนำอะไรให้มากมาย ถือเป็นเหรียญที่นักลงทุนคริปโตส่วนใหญ่ซื้อเป็นสกุลแรกและก็มีคนคาดการณ์แนวโน้มราคาเหรียญไปแล้วนับไม่ถ้วน

แม้ว่าในตอนแรกเหรียญให้นิยมตัวเองว่าเป็น “ระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบเพียร์ทูเพียร์” ใน Bitcoin Whitepaper ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เหรียญก็ถูกเปรียบเสมือนเป็นทองคำดิจิทัล เพราะว่ากันว่ามีคุณสมบัติที่เหมือนกันหลายอย่าง โดยหลักๆ ก็คืออุปทานที่มีอยู่จำกัด ถือเป็น “ตัวเก็บมูลค่าที่ยอดเยี่ยม” ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนก็กำลังทดสอบ Stress Test ของเหรียญอยู่

Bitcoin

ในฐานะที่เป็นเหรียญคริปโตแบบกระจายอำนาจเต็มรูปแบบ ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลภายใต้นามแฝง Satoshi Nakamoto บิทคอยน์มีการแจกจ่ายในรูปแบบที่ยุติธรรมที่สุด โดยให้เป็นรางวัลแก่ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผล ในกลไกฉันทามติที่เรียกว่า Proof of Work เพื่อรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย

ในฐานะเหรียญสกุลแรกและเป็นทองคำดิจิทัล พร้อมกับความจริงที่ว่าปัจจุบันมีส่วนแบ่งในตลาดคริปโตมากกว่า 50% ที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ และความจริงที่ว่าตลาดเองก็ติดตามการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin อย่างใกล้ชิด ทั้งหมดนี้หมายความว่าบิทคอยน์จะเป็นเหรียญอันดับที่หนึ่งไปอีกนาน

ประเด็นสำคัญ:

  • เหรียญคริปโตแรกและเป็นสกุลเดียวที่ถือว่ากระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์
  • บิทคอยน์ถูกเปลี่ยนว่าเป็นทองคำดิจิทัลมาอย่างยาวนาน
  • มักจะเป็นเหรียญแรกที่นักลงทุนคริปโตหน้าใหม่ซื้อ
  • ตอนนี้กำลังได้รับความสนใจจากตลาดการเงินแบบดั้งเดิมหลังจากได้รับอนุมัติเป็น ETF ในเดือนมกราคม
  • บิทคอยน์มีอิทธิพลอย่างไม่น่าเชื่อในตลาดโดยรวม โดยมีอิทธิพลมากกว่า 50% ต่อเหรียญคริปโตอื่นๆ ที่เคลื่อนไหวตามราคาบิทคอยน์
อ่านแนวโน้มราคา Bitcoin ของเรา

Ethereum – แพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

Ethereum

เปิดตัวในปี 2558 หลังโปรแกรมเมอร์คอมหนุ่ม Vitalik Buterin เสนอว่าเทคโนโลยี Blockchain ที่เป็นรากฐานของโปรโตคอล Bitcoin สามารถใช้เพื่อรองรับสัญญาที่เขียนด้วยตนเองอย่าง “สัญญาอัจฉริยะ” โดยคนกลุ่มหนึ่งซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในนามผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้รวมตัวกันเพื่อต่อยอดไอเดียที่ว่าและโปรโตคอลอีเธอเรียมก็เกิดขึ้นมาจากไอเดียดังกล่าว

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอีเธอเรียมซึ่งทำการตลาดในฐานะคอมพิวเตอร์ของโลกได้เกิด Hardfork ที่เป็นที่ถกเถียงกันช่วงหนึ่ง โดยเปลี่ยนไปใช้กลไกฉันทามติ Proof of Stake ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นและตอนนี้ก็กำลังมุ่งเน้นไปที่การขยายเครือข่ายไปยังผู้ใช้หลายล้านคน

Ethereum

ในฐานะแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก Ethereum เป็นรากฐานที่รองรับ dApps กว่าหลายพันแอพซึ่งรวมถึงเกม, บริการ DeFi, แพลตฟอร์ม NFT, บริการแก้ปัญหาสภาพคล่อง, และอีกมากมาย โดยเครือข่ายอีเธอเรียมสามารถรักษาความปลอดภัยมากกว่า 55% ของมูลค่าที่ถูกล็อคไว้ในโปรโตคอล DeFi รวมมูลค่ากว่า 47 พันล้านดอลลาร์

ในฐานะแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะที่ได้รับความนิยมสูงสุด ยังรองรับแพลตฟอร์ม Layer 2 และ dApp อีกมากมายด้วยเช่น ถือเป็นเหรียญหลัก แม้ว่าตลาดคริปโตจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่องก็ตาม

ประเด็นสำคัญ:

  • Ethereum เป็นแพลตฟอร์มกระจายอำนาจระดับโลกแห่งแรกที่เสนอสัญญาอัจฉริยะที่เขียนด้วยตนเอง
  • เป็นเหรียญคริปโตอันดับ 2 ของโลก พร้อมรองรับ dApp มากกว่า 4,00 แอพและรักษาความปลอดภัยโปโตคอล DeFi ที่มีมูลค่ากว่า 47 พันล้านดอลลาร์
  • โปรโตคอลกำลังได้รับการขยายเครือข่ายเพื่อรองรับผู้ใช้หลายล้านคน
  • โปรเจกต์ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้งานในโลกจริง และนอกเหนือจากบิทคอยน์แล้ว อีเธอเรียมยังถือเป็นเหรียญที่นักลงทุนซื้อมากที่สุดอีกด้วย
อ่านแนวโน้มราคา Ethereum ของเรา

Shiba Inu – เหรียญมีมยอดนิยมที่ระบบนิเวศกำลังโต

Shiba Inu

เริ่มต้นมาจากเหรียญมีมและการทดลองสร้างคอมมิวนิตี้แบบกระจายอำนาจ ตั้งแต่นั้นมา ตัวคอมมิวนิตี้ก็เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นโดยมีผู้ถือโทเค็นมากกว่า 1.3 ล้านรายและมีการพัฒนาอีกมากที่ได้แยกเหรียญออกจากตลาดเหรียญมีมและนำเหรียญมาวางไว้ฐานะเหรียญยูทิลิตี้แทน

Shiba Inu

ระบบนิเวศของ Shiba มาพร้อมกับนวัตกรรมมากมาย ซึ่งบางอย่างยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ส่วนด้านล่างนี้เราได้สรุประบบนิเวศที่ Shiba Inu นำเสนอเอาไว้แบบสั้นๆ:

  • Shibaswap: กระดานเทรด DEX
  • Shibarium: Ethereum Layer 2
  • SHIB: โลก Metaverse
  • Shiba Eternity: เกม Play to Earn
  • คอลเล็กชัน NFT: คอลเล็กชัน 2 PFP และ Shiba Land Metaverse

ยังมีโทเค็นที่สามารถแลกเปลี่ยนอื่นๆ ภายในระบบนิเวศของ Shiba Inu เช่น $BONE, $LEASH และ $TREAT ที่ยังไม่ได้เปิดตัว แต่ $SHIBA ก็เป็นโทเค็นหลักของระบบนิเวศประเด็นสำคัญ:

  • Shiba Inu เริ่มต้นมาจากเหรียญมีม แต่ก็ได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นระบบนิเวศยูทิลิตี้แบบกระจายอำนาจ
  • $SHIBA เป็นโทเค็นหลักของระบบนิเวศนี้ ซึ่งมีโทเค็นที่แลกเปลี่ยนได้อีก 3 สกุล
  • ระบบนิเวศของ Shiba ประกอบด้วย DEX, Ethereum Layer 2, เกม Blockchain, และคอลเล็กชัน NFT มากมาย
  • Shiba เป็นเหรียญมีมที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองรองจาก Dogecoin

XRP – เหรียญคริปโตที่ถูกออกแบบมาเพื่อการโอนเงิน โดยร่วมมือกับธนาคารยักษ์ใหญ่ระดับโลก

XRP

เป็นเหรียญหลักของ XRP Ledger ซึ่งเป็น Blockchain ที่สร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้ง Ripple Labs โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มความเร็วของการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยการลดให้เหลือเพียงไม่กี่วินาทีจากที่อาจใช้เวลาหลายวัน

โดยการใช้ XRP เป็นเหรียญตัวกลางระหว่างการแลกเปลี่ยนสองสกุลเงิน ซึ่งจะทำในบัญชีแยกประเภทที่ออกแบบมาเพื่อขยายการประมวลผลธุรกรรม 1,500 รายการต่อวินาที

XRP

แม้ว่า XRP Ledger และ Ripple Labs จะเป็นองค์กรที่แยกกัน แต่ก็มีความเกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ได้ Ripple Labs ได้รับการแบ่งเหรียญ 80% ของ XRP ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มสร้างบัญชีแยกประเภท ส่วนผู้สร้าง XRP Ledger และทีมพัฒนาหลักก็ได้รับโทเค็นอีก 20%

Ripple เป็นบริษัทที่จะช่วยเพิ่มความง่ายในการใช้ อำนวยความสะดวก เพื่อโอนเงิน และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้บริษัทก็ได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลกหลายสิบแห่ง รวมถึง Western, Union, Bank of America Merrill Lynch, HSBC, Banco Santander และ JP Morgan

ประเด็นสำคัญ:

  • XRP Ledger เป็น Blockchain ที่ออกแบบมาเพื่อลดเวลาในการโอนเงินทั่วโลกจากการใช้เวลาเป็นวันเหลือเพียงไม่กี่วินาที
  • ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับขยายการประมวลผลธุรกรรม 1,500 รายการต่อวินาที
  • ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้ง Ripple Labs แม้ว่า XRP Ledger และ Ripple Labs จะไม่ใช้องค์กรเดียวกัน แต่ก็มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
  • XRP ทั้งหมดถูกจัดสรรไว้ล่วงหน้า 80% จัดสรรให้กับ Ripple Labs และ 20% ให้กับผู้สร้าง Ledger และทีมพัฒนาหลัก
  • เป้าหมายของ Ripple Labs คือการอำนวยความสะดวกให้กับการโอนเงินทั่วโลกบนเครือข่ายและได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินทั่วโลกหลายสิบแห่งเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

Solana – แพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล

Solana

เป็น Layer 1 Blockchain ที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้จำนวนมาก โดยใช้งานได้รวดเร็วและมีราคาไม่แพง ทั้งยังสามารถประหยัดได้พลังงานอีกด้วย โปรเจกต์ใช้ฉันทามติ Proof of Stake ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยโมเดล Proof of History เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมขั้นสุดท้ายภายในเสี้ยววินาที

Solana Blockchain ยังสามารถขยายธุรกรรมได้มากกว่า 700,000 รายการต่อวินาที อย่างไรก็ตาม โมเดลความเร็วสูงที่มีราคาไม่แพงก็ได้รับผลกระทบมาจากการกระจายอำนาจและความเสถียรของตัวเครือข่าย เพราะการเรียกใช้ผู้ตรวจสอบบน Solana นั้นมีราคาที่แพงมาก และตัวเครือข่ายเองก็มีชื่อเสียมาจากการปิดระบบกะทันหัน

Solana

เครือข่าย Solana นำเสนอยูทิลิตี้บน Blockchain ต่างๆ ให้กับผู้ใช้ รวมถึง dApps บนสัญญาอัจฉริยะ, โทเค็นที่แลกเปลี่ยนได้, NFT, เหรียญมีม, โปรโตคอล Staking, และระบบนิเวศ DeFi ที่กำลังเติบโต

หลังจากที่ดูเหมือนโปรเจกต์จะเงียบไปหลังเกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับ FTX ในช่วงปลายปี 2022 และ Solana ก็กลับมาอีกครั้งและขึ้นชาร์ตอันดับต้นๆ ในช่วงปลายปี 2023 ในฐานะเหรียญคริปโตชั้นนำที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 10 อันดับแรก

ประเด็นสำคัญ:

  • Solana นำเสนอ Blockchain ที่รวดเร็ว ราคาถึง ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วยังสามารถขยายขนาดธุรกรรมเป็นแสนรายการต่อวินาทีได้อีกด้วย
  • แต่ก็มีราคาแพงขึ้นมาจากการกระจายอำนาจและความเสถียรของโปรโตคอล
  • Solana นำเสนอ dApp, NFT, เหรียญมีม, และระบบนิเวศ DeFi ที่กำลังโต
  • Solana “เงียบไป” ในช่วงปลายปี 2022 เนื่องจากเรื่องฉ้อโกง FTX ที่ได้ทำลายโปรเจกต์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกัน
  • อย่างไรก็ตาม​Solana ก็กลับมาอีกครั้งในปี 2023 และกลับมาครองตำแหน่งในเหรียญ 10 อันดับแรก
อ่านแนวโน้มราคา Solana ฉบับเต็มของเรา

Litecoin – เหรียญคริปโตชั้นนำเพื่อการชำระเงิน

Litecoin

เปิดตัวในปี 2011 และเป็นหนึ่งในเหรียญ Altcoin ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุน Bitcoin และใช้เป็นวิธีชำระเงินแบบทันทีในราคาที่ถูกลงสำหรับบุคคลและการซื้อสินค้า ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากร้านค้าหลายร้อยแห่งทั่วโลก

Litecoin

ผู้สร้าง Litecoin ซึ่งเป็นอดีตวิศวกรจาก Google อย่าง Charlie Lee (ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการ Litecoin Foundation) ได้สร้างเหรียญขั้นมาด้วยการ Fork ออกมาจาก Bitcoin แม้ว่าหลายๆ ส่วนของโปรโตคอลจะยังเหมือนเดิม แต่เจ้าตัวก็ได้เปลี่ยนองค์ประกอบสำคัญบางข้อไป:

  • เพิ่มเป้าระดมทุนสูงสุดเป็น 84 ล้านดอลลาร์ (4 เท่าของบิทคอยน์)
  • ลดเวลาบล็อกลงเหลือ 2.5 นาที (1/4 ของบิทคอยน์)
  • เปลี่ยนอัลกอริธึมการขุดเหรียญเพื่อให้ขุดจากคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น

เครือข่าย Litecoin ยังมีการ Halving ทุกๆ 4 ปี เหมือนกับ Bitcoin แต่จะเกิดขึ้นก่อนประมาณ 8 เดือน

นอกจากจะใช้เพื่อชำระเงินแล้ว Litecoin ยังเสนอการทำธุรกรรมแบบส่วนตัวให้กับผู้ใช้, โปรโตคอล Ordinals, Layer 2 สำหรับสัญญาอัจฉริยะ, NFT, โทเค็น, และเครือข่าย Lightning

ประเด็นสำคัญ:

  • Litecoin เป็น Fork ที่แยกมาจาก Bitcoin ซึ่งออกแบบมาเพื่อทำธุรกรรมให้รวดเร็วขึ้น มีค่าธรรมเนียมต่ำ และใช้เป็นวิธีการชำระเงิน
  • สร้างขึ้นโดย Charlie Lee อดีตวิศวกรจาก Google ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งในฐานะผู้อำนวยการ Litecoin Foundation
  • เครือข่าย Litecoin จะเกิดHalving ทุกๆ สี่ปี เหมือนกับ Bitcoin
  • Litecoin เสนอทางเลือกความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรมให้กับผู้ใช้และการเข้าถึง Lightening Network
  • Litecoin ยังมีโปรโตคอล Ordinals และโซลูชัน Layer 2 พร้อมสัญญาอัจฉริยะ NFT และโทเค็นที่แลกเปลี่ยนได้
อ่านแนวโน้มราคา Litecoin ฉบับละเอียดของเรา

Dogecoin – เหรียญมีมอันดับ 1 ที่กำลังใช้เป็นวิธีชำระเงิน

Dogecoin

เปิดตัวในปี 2013 ในฐานะเหรียญมีมสกุลแรก โดยมีวิศวกรซอฟต์แวร์ IBM สองคนได้สร้างโทเค็นขึ้นมาเป็นให้ “เรื่องตลก” ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงและเพื่อล้อถึงการเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่งในตลาดคริปโต ณ ตอนนั้น

Dogecoin อยู่มาแล้วกว่าเจ็ดปีด้วยกัน ในช่วงตลาดขาขึ้นในปี 2021 เหรียญก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เหรียญมีมและความยิ่งใหญ่ของเหรียญคริปโตกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

Dogecoin

Dogecoin ยังครองฐานะเหรียญมีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกต่อไปและความสำเร็จของเหรียญได้กระตุ้นให้เกิดระบบนิเวศของเหรียญมีมและเหรียญในธีมสุนัขแยกออกมา นับตั้งแต่เหรียญถูกสร้าง เหรียญก็ยังได้รับความสนใจจากคนดัง เช่น Elon Musk ซึ่งการทวีตเกี่ยวกับเหรียญของเจ้าตัวก็ส่งผลกระทบตลาดคริปโตมาก่อน

ตอนนี้ทีมพัฒนา Dogecoin ก็มีแนวทางที่จริงจังมากขึ้นและกำลังพัฒนาเครื่องมือเพื่อทำให้ Dogecoin ใช้เป็นวิธีชำระเงินที่เป็นที่ยอมรับได้ง่ายยิ่งขึ้น

ประเด็นสำคัญ:

  • Dogecoin สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 2013 เป็นเหรียญมีมเหรียญสกุลแรกที่ทำให้เกิดเหรียญในระบบนิเวศอื่นๆ มากมาย
  • Dogecoin โด่งดังในช่วงตลาดขาขึ้นปี 2021 และยังคงเป็นเหรียญมีมที่โดดเด่นในปัจจุบัน
  • Elon Musk เป็นแฟนตัวยงของเหรียญ โดยทวีตและการกระทำของเขาก็เคยส่งผลต่อราคาเหรียญมาก่อน
  • ตอนนี้นักพัฒนา Dogecoin มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนเหรียญให้เป็นรูปแบบการชำระเงิน และพัฒนาเครื่องมือเพื่อให้ร้านค้าสามารถใช้งานเหรียญได้อย่างง่ายดาย

Cardano – Blockchain 3.0 ที่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ

“Cardano เป็นแพลตฟอร์มที่จะเข้ามาสร้างไอเดียการตัดสินใจตามการเงินและตัวตนให้กับหลายพันล้านคนที่ยังไม่เข้าใจอย่างแท้จริง ด้วยการให้บริการ dApp เพื่อสร้างอัตลักษณ์ คุณค่า และการกำกับดูแล” — Charles Hoskinson

Cardano

เปิดตัวในปี 2017 หลังจากพัฒนามาหลายปีและเป็นผลงานของ Charles Hoskinson ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เหรียญสร้างขึ้นด้วยโมเดล UTxO โดยการใช้โมเดลของบิทคอยน์และพัฒนาต่อยอดเพื่อทำให้มี dApp, NFT, โทเค็นที่แลกเปลี่ยนได้, การกำกับดูแล On-chain, และระบบนิเวศ DeFi เป็นของตนเอง

Cardano เป็น Blockchain ชั้นนำเพียงแห่งเดียวที่นำเสนอโซลูชัน Liquid Staking โดยโมเดลฉันทามติ Proof of Stake ของแพลตฟอร์มจะประกอบด้วย Stake Pool ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนมากกว่า 3,000 แห่งในการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย

Cardano

Cardano ถูกพัฒนาเป็นขั้นบันไดและมีการเพิ่มฟังก์ชันอยู่ตลอด เป็น Blockchain เดียวที่อิงตามการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญและได้รับการสนับสนุนจากบทความทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 200 ฉบับ อย่างไรก็ตาม การที่ไม่มีฟังก์ชันเพื่อการทำงานในช่วงแรกนั้นก็ทำให้โปรเจกต์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น “Ghost Chain” โดยคอมมิวนิตี้ ​Blockchain ซึ่งได้กลายมาเป็นชื่อที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

ประเด็นสำคัญ:

  • Cardano มีเป้าหมายในการยกระดับความเป็นอยู่ของผู้ที่ไร้โอกาสด้านการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มแบบกระจายอำนาจและโอเพ่นซอร์ส
  • Cardano ได้รับการพัฒนาอย่างมีระบบและเป็น Blockchain ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ
  • Cardano เป็น Blockchain ชั้นนำเพียงแห่งเดียวที่มีกลไก Liquid Staking เป็นของตัวเอง
  • มีคอมมิวนิตี้มากกว่า 3,000 แห่งที่รักษาความปลอดภัยให้กับ Staking Pool ของ Cardano Blockchain
  • Cardano มี dApps, NFT, โทเค็นที่แลกเปลี่ยนได้, การกำกับดูแล On-chain, และระบบนิเวศ DeFi
อ่านแนวโน้มราคา Cardano แบบเจาะลึกของเรา

Quant – โซลูชัน Blockchain เพื่อการทำงานร่วมกันที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร

Quant

เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2018 ในฐานะแพลตฟอร์ม Blockchain ที่มุ่งเน้นมาเพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันของ Blockchain ที่สำคัญโปรเจกต์ยังได้รับการออกแบบให้เป็นโซลูชันที่จะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจและผู้ให้บริการทางการเงินที่ต้องการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain กับระบบการทำงาน

ทำให้ให้องค์กรเหล่านี้สามารถเข้าถึง Blockchain แบบกระจายอำนาจได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมทำให้สามารถเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานของตนกับบัญชีแยกประเภทสาธารณะเหล่านี้ได้

Quant

แพลตฟอร์ม Overledger ของ Quant จะเชื่อมต่อเข้ากับเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (DLT) ทุกรูปแบบ ซึ่งไม่ใช่แค่ Blockchain เท่านั้น โดยรองรับ dApp และโทเค็น DLT จำนวนมากที่สามารถดำเนินการและใช้งานข้ามเครือข่ายต่างๆ Overledger ยังเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สร้างสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศอังกฤษสำหรับนักลงทุนรายย่อยอีกด้วย

Quant เป็น Utility Token ของระบบนิเวศ Quant และถูกล็อคโดยธุรกิจต่างๆ เพื่อรักษาออกใบอนุญาตบนแพลตฟอร์ม Quant นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องใช้เพื่อเข้าถึง dApp ที่เปิดตัวบนเครือข่าย Quant อีกด้วย

ประเด็นสำคัญ:

  • Quant เป็นแพลตฟอร์ม Blockchain เพื่อการทำงานร่วมกันซึ่งช่วยให้ธุรกิจและผู้ให้บริการทางการเงินสามารถเชื่อมต่อกับ Blockchain ได้
  • แพลตฟอร์มมีฟังก์ชันที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำงานร่วมกับ Blockchain แบบกระจายอำนาจภายใต้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย
  • เทคโนโลยีที่สร้างโดย Quant เชื่อมต่อกับ DLT ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ Blockchain เท่านั้น
  • เทคโนโลยี Overledger ของ Quant เปิดโอกาสให้สามารถใช้ dApp และโทเค็น Multi-chain ได้
  • Quant เป็น Utility Token ของเครือข่ายและจำเป็นต้องใช้ในการออกใบอนุญาตเพื่อใช้แพลตฟอร์ม
  • เทคโนโลยี Overledger ของ Quant ถูกใช้ในโครงการสร้างสกุลเงินที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ
อ่านแนวโน้มราคา Quant ของเรา

คาดการณ์ตลาดคริปโตในปี 2024


ตลาดคริปโตเริ่มปี 2024 ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 47% และไต่กลับมาอยู่ที่มากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์หรือคิดเป็น 2.47 ล้านล้านดอลลาร์ในขณะที่เขียนบทความ ซึ่งเป็นผลมาจากการอนุมัติ Bitcoin ETF ซึ่งช่วยนำเงินลงทุนมหาศาลเข้าสู่ตลาด

เมื่อมองไปในอนาคต Bitcoin Halving ที่เป็นถูกคาดหวังมากที่สุดในประวัติศาสตร์จะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่บางคนมองว่าอาจกระตุ้นราคาให้เติบโตมากขึ้น แต่ก็มีบางคนที่มองว่า Halving จะทำให้ราคาบิทคอยน์ลดลงในอนาคต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบิทคอยน์ เหรียญสกุลอื่นในตลาดคริปโตก็จะมีการเคลื่อนไหวของราคาในแบบเดียวกัน

นอกเหนือ Bitcoin Halving แล้วธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศในช่วงกลางเดือนมีนาคมว่าจะลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ แม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ต้นช่วงปีที่หลายคนคาดหวังให้ลดลงมากกว่านี้ แต่ก็ยังคงเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับเหรียญคริปโตและตลาดโดยร่วมอยู่ อย่างไรก็ตาม เหรียญคริปโตเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนและหากสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคแย่ลงตลอดทั้งปี และไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยลง การลงทุนในตลาดคริปโตก็อาจจะลดน้อยลงไปจนถึงปลายปีได้เลย

สุดท้ายนี้ (เป็นเพียงปัจจัยรองเท่านั้น) ข้อกำหนดด้านเหรียญคริปโตยังคงมีการปรับปรุงทั่วโลก โดยเฉพาะในปี 2024 ที่กฎระเบียบ MiCA (ตลาดในสินทรัพย์คริปโต) ของยุโรปมีคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายปีนี้ แม้ว่าปัจจัยดังกล่าวจะทำให้เหรียญเป็นที่ยอมรับและเพิ่มประโยชน์ให้กับเหรียญมากขึ้น แต่ผลกระทบที่แท้จริง (หากมี) ของการบังคับใช้กฎระเบียบดังกล่าวก็ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้นจนกว่าจะถึงปีหน้าเป็นอย่างต่ำ

คาดการณ์ตลาดคริปโตในปี 2025 – 2035


หากมองไปให้ไกลกว่าเดิม ปี 2025 จะมาพร้อมกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก Bitcoin Halving ซึ่งเคยสร้าง All Time High ในช่วง 12–18 เดือนหลัง Halving หากธนาคารกลางไม่ปรับลดดอกเบี้ยในปีก่อน ปี 2025 ก็จะเป็นปีทุกอย่างเป็นไปตามแผน เพราะคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลกเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อมองไปไกลขึ้นอีกและเมื่อเทียบกับช่วงสิบปีที่ผ่านมา อัตราการนำเหรียญคริปโตมาใช้จริงก็คาดว่านั้นคาดว่าเพิ่มมากขึ้น โดย Statista คาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้ใช้เหรียญคริปโตเกือบ 1 พันล้านคนภายในปี 2028 และอีกรายงานก็คาดว่ามูลค่าตลาดจะมีอัตราเติบโตที่ 30.80% ในช่วงปี 2022 ถึง 2030 ซึ่งนับว่าดูดีมากๆ สำหรับตลาดและหลายคนก็คาดหวังว่าอัตราการเติบโตระดับนี้อยู่ไปจนถึงปี 2035 และปีถัดๆ ไป

เมื่อเรามองยาวไปอีกสิบปีถัดไป การเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบเกี่ยวกับเหรียญคริปโตในประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะมีผลกระทบโดยตรงต่อมูลค่าและการเปลี่ยนแปลงตลาด การปรับใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับเหรียญคริปโตคาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วกว่าในช่วงนี้ เพราะประเทศต่างๆ อาจต้องการปกป้องประชากรของตนจาก “แดนเถื่อน” ของโลกคริปโตและเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจที่ธุรกิจเริ่มแพร่หลายมากขึ้นในประเทศต่างๆ ซึ่งหมายความว่าเราคาดหวังว่าจะมีการปรับกฎระเบียบที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับเหรียญคริปโต แต่จะต้องไม่ไปขัดขวางนวัตกรรมของเหรียญ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก

สุดท้ายนี้โลกของ Blockchain และเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์จะเกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นการใช้พลังงานกลไก PoS กับ PoW, การมาถึงของ RWA, การเติบโตของเกม Blockchain และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Layer 2 และเทคโนโลยี ZK

ในช่วงสิบปีที่ผ่านมามีเพียงสามในสิบของเหรียญคริปโตชั้นนำเท่านั้นที่อยู่มาจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ Bitcoin, XRP, และ Dogecoin ส่วนเหรียญมีมนั้นก็เพิ่งเข้ามาในแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะได้ไม่นาน ใครบ้างจะรู้ว่าอีกสิบปีข้างหน้า โลกของเหรียญคริปโตจะเป็นอย่างไร?

chart-showing-key-price-points

คุณสามารถเชื่อถือแนวโน้มราคาคริปโตได้หรือไม่?


ทั้งอินเทอร์เน็ต, X และ YouTube ล้วนเต็มไปด้วยผู้คนและแพลตฟอร์มที่วิเคราะห์แนวโน้มราคาเหรียญคริปโต บ้างก็น่าเชื่อถือ บ้างก็จัดอยู่ในประเภท “ไม่น่าเชื่อถือสุดๆ” โดยต่อไปนี้ก็เป็นปัจจัยและคำถามสามข้อที่คุณสามารถใช้เพื่อพิจารณาว่าการคาดการณ์ราคาเหรียญนั้นๆ ควรจัดอยู่ในประเภทใดบ้าง:

  • อคติ: ผู้วิเคราะห์แนวโน้มราคาหรือแพลตฟอร์มที่ทำการวิเคราะห์อยู่ มีความสัมพันธ์เฉพาะหรือต่อต้านตัวโปรเจกต์ที่จะส่งผลต่อการคาดการณ์ราคาของพวกเขาให้หรือไม่ อคติอาจเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเพื่อผลกำไรของตน
  • ระดับความรู้: บุคคลหรือแพลตฟอร์มที่วิเคราะห์แนวโน้มราคาแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในเหรียญคริปโตและพื้นฐานของตลาดในระดับที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าการคาดการณ์ของตนน่าเชื่อถือหรือไม่สำหรับคุณ?
  • หลักฐาน: บุคคลหรือแพลตฟอร์มคาดการณ์ราคาสนับสนุนข้อมูลเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณหรือไม่สำหรับการวิเคราะห์ระดับพื้นฐานเพิ่มเติม หรือได้จัดทำกราฟเพื่อวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือไม่

การอาศัยแนวโน้มราคาจากผู้อื่นเพื่อช่วยในการเทรดจะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นมาก เพราะคุณจะไม่ต้องเสียเวลาวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างยิ่งหากคุณได้ข้อมูลมาจากผู้เชี่ยวชาญ แม้ว่าตัวคุณจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญก็ตาม ถึงอย่างนั้นนี่หมายความว่าการตัดสินใจด้านการเงินของคุณก็จะขึ้นอยู่กับคำพูดของคนที่คุณไม่รู้จักเสียส่วนใหญ่

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้เสมอก็คือข้อมูลที่ได้มาคือการคาดการณ์ หมายความว่าข้อมูลดังกล่าวจะไม่ได้ถูกต้องเสมอไป ทั้งหมดทั้งหมดก็หมายความว่าผู้อ่านยังคงต้องตัดสินในระดับหนึ่งว่าตนควรเชื่อการคาดการณ์นั้นๆ หรือไม่

วิธีคาดการณ์ราคาเหรียญคริปโต


เนื่องจากเหรียญมีความผันผวนสูง ตลาดคริปโตจึงได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างผลกำไรมหาศาลให้กับผู้คนได้จำนวนมาก แต่ก็เช่นกันที่มีผู้คนจำนวนมากได้สูญเสียเงินไปมหาศาล การลงทุนในเหรียญคริปโตได้รับความสนใจมาจากโอกาสที่จะเป็นเศรษฐีอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็ได้ทำให้มีนักลงทุนเข้าสู่ตลาดคริปโตมากขึ้น แทนที่จะเข้ามาเพราะการปฏิวัติทางเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนโปรโตคอลของโทเค็นเหล่านี้

หากต้องการมีโอกาสทำกำไรจากเหรียญที่ To the Moon หรือได้รถลัมโบร์ในฝันมาครอง นักลงทุนคริปโตจะต้องพยายามคิดว่าสินทรัพย์เหล่านี้จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด ซึ่งล้วนแล้วเกี่ยวกับการคาดการณ์ราคาเหรียญคริปโตทั้งนั้น

แนวโน้มราคาเหรียญคริปโตสามารถแบ่งออกเป็นสององค์ประกอบด้วยกัน ได้แก่ การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน โดยด้านล่างนี้ เราจะมาเจาะลึกว่าแต่ละองค์ประกอบนั้นส่งผลต่อแนวโน้มราคาเหรียญคริปโตอย่างไรบ้างและคุณสามารถใช้องค์ประกอบเหล่านี้เพื่อวิเคราะห์ราคาเหรียญด้วยข้อมูลมีได้อย่างไร

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการคาดการณ์ราคาเหรียญคริปโต

การเริ่มวิเคราะห์เหรียญคริปโตทางเทคนิคจะรวมการวิเคราะห์กราฟที่แสดงราคาในอดีตและการเคลื่อนไหวราคาของโทเค็นเพื่อสร้างการคาดการณ์ด้วยข้อมูลที่มีในด้านราคาและราคาในอนาคตของโทเค็นนั้นๆ กราฟเหล่านี้อาจดูคุ้นเคยสำหรับคนที่เคยศึกษาเรื่องแนวโน้มราคาเหรียญคริปโตมาก่อน โดยกราฟแท่งเทียนจะแสดงเป็นตัวอย่างด้านล่าง

กราฟราคา BTC/USD

โลกของการวิเคราะห์เหรียญทางเทคนิคนั้นเต็มไปด้วยตัวชี้วัดและเทคนิคที่สามารถใช้เพื่อค้นหาแนวโน้มและคาดการณ์ราคาในอนาคตของเหรียญได้ เมื่อเวลาผ่านไปนักวิเคราะห์จะเริ่มสร้างตัวชี้วัดที่ตนเชื่อเพื่อให้สามารถคาดการณ์ราคาในอนาคตของเหรียญได้ถูกต้องมากที่สุด

เนื่องจากตลาดคริปโตยังอยู่ในช่วงแรกเริ่ม ด้วยความผันผวนและมีการหวังหากำไรในระดับสูง ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าโทเค็นมักจะขาดข้อมูลที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิคจึงได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดคริปโตและยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น ซึ่งทั้งหมดนี้เมื่อรวมเข้าด้วยกันก็จะสามารถทำให้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเครื่องมือหลักในการคาดการณ์ราคานั่นเอง

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการคาดการณ์ราคาเหรียญคริปโต

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นเทคนิคที่นักวิเคราะห์หุ้นใช้กัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเงินในการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ การประเมินค่านี้เรียกว่ามันมูลค่ายุติธรรมและเปรียบเทียบกับมูลค่าตลาดจริงเพื่อดูว่าสินทรัพย์มีราคาต่ำหรือสูงกว่าหรือไม่

แม้ว่าจะสามารถนำไปใช้กับเหรียญคริปโตได้ แต่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานแบบดั้งเดิมนั้นก็นำไปใช้กับเหรียญคริปโตได้ยาก เนื่องมาจากปัจจัยหลายข้อ ได้แก่ ลักษณะการหวังหากำไรในตลาด โมเดลของบริษัทคริปโตที่เปลี่ยนไปจากบริษัทแบบเดิมๆ และธุรกิจคริปโตมากมายที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น

ผลจากการที่ตลาดยังอยู่ในช่วงแรกและการมุ่งเน้นไปที่การหวังทำกำไรจากราคาเหรียญ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานสำหรับเหรียญคริปโตจึงมีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปที่ราคาใน Timeframe ที่นานกว่าสินทรัพย์ดั้งเดิมมาก ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นระยะเวลาหลายปี ทั้งยังต้องตรวจสอบปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทั้งโทเค็นและตลาดโดยรวมและอาจรวมถึงข้อมูล On-chain, ยูทิลิตี้ของโทเค็นและโปรโตคอล, สถานการณ์ของเศรษฐกิจมหภาค, ความคืบหน้าของการพัฒนา, ระดับการยอมรับของโทเค็น และที่สำคัญที่สุดก็คือโอกาสของการนำไปใช้จริงในอนาคตเมื่อตลาดเติบโตแล้ว

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเหรียญคริปโตคืออะไร?


ราคาของสินทรัพย์ถูกขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์และอุปทาน ดังนั้นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเหรียญคริปโตจะขึ้นและลงตามอุปสงค์และอุปทาน ด้านล่างนี้เราได้อธิบายถึงปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลต่อราคาเหรียญคริปโตและแนวโน้มราคาเอาไว้เรียบร้อย

  • แนวโน้มตลาด: ตามที่อธิบายเอาไว้ ตลาดคริปโตมีทำกำไรจากราคาเหรียญในระดับสูงและแนวโน้มตลาดโดยรวมเองก็ผลักดันให้เกิดแรงกดดันในการซื้อและขายได้ ซึ่งจะทำให้โทเค็นมีแนวโน้มไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ขึ้น ลง หรือไปไซด์เวย์ แนวโน้มตลาดสามารถนำไปใช้ได้หลายระดับ อาจใช้กับตลาดโดยรวมทั้งหมด หรือภาคส่วนเฉพาะภายในตลาด เช่น เหรียญมีม, เหรียญ AI, หรือเหรียญที่เฉพาะเจาะจงขึ้นมาอีก
  • การนำไปใช้จริง: การยอมรับเหรียญคริปโตที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้เหรียญเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้น การนำเหรียญไปใช้จริงสามารถถูกขับเคลื่อนโดยแนวโน้มตลาดได้ แต่ก็สามารถขับเคลื่อนด้วยความต้องการในการใช้เหรียญนั้นๆ ได้เช่นกัน เช่น เหรียญเกมที่ใช้ในการซื้อสินค้าภายในเกม
  • แผนการพัฒนา: การทำตามแผนการพัฒนาได้สำเร็จอาจหมายความได้มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข่าวดีต่อราคาเหรียญ เพราะโดยทั่วไปแล้วก็หมายถึงการที่โปรเจกต์มีความคืบหน้าและมีการเปิดตัวยูทิลิตี้ใหม่ หรือเข้าใกล้ความสมบูรณ์ไปอีกขั้น สิ่งนี้สามารถกระตุ้นให้เกิดความต้องการที่แท้จริงในเหรียญหรือเกิดการเก็งกำไรโดยนักลงทุนในตลาด
  • การลดจำนวนรางวัล: วิธีนี้จะช่วยลดจำนวนเหรียญลงครึ่งหนึ่งสำหรับเหรียญ Proof of Work ที่ใหญ่ที่สุดบางส่วนและลดจำนวนเหรียญที่จะเข้าสู่ตลาดได้อย่างมหาศาล ส่งผลให้อุปทานลดลงในขณะที่ความต้องการยังคงที่
  • การเผาโทเค็นทิ้ง: หลายๆ โปรเจกต์ โดยเฉพาะเหรียญมีมจะเผาเหรียญทิ้งด้วยเหตุผลต่างๆ การเผาเหรียญทิ้งจำนวนมากจะลดอุปทานโทเค็นและจะส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานได้ แต่ก็ทำคำนึงเอาไว้ว่าการเผาเหรียญทิ้งนั้นจะไม่สามารถคาดการณ์ราคาได้จากตลาด หมายความว่าส่วนใหญ่จะมีการคาดการณ์ที่ส่งผลต่อราคาเหรียญมากกว่าการที่เผาเหรียญทิ้ง
  • ระยะเวลาการให้เหรียญ: หลายๆ โปรเจกต์จัดสรรเปอร์เซ็นต์ของอุปทานโทเค็นให้กับสมาชิกในทีมและนักลงทุนในช่วงแรก ซึ่งมักจะถูกกำหนดไว้ในตารางการให้เหรียญที่จะปลดล็อคหลังระยะเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปคือ 1–3 ปี เมื่อปลดล็อคการให้เหรียญแล้วก็อาจจะมีการแจกจ่าย 10%+ ของอุปทานโทเค็นหนึ่งครั้ง ซึ่งอายส่งผลกระทบต่อราคาหากนักลงทุนที่ได้โทเค็นตัดสินใจขายทิ้ง
  • การโหวตเพื่อกำกับดูแล: เหรียญบางสกุลเปิดโอกาสให้ผู้ใช้โหวตกระบวนการ ขั้นตอนการพัฒนาต่อไป และองค์ประกอบอื่นๆ ของโปรโตคอล ซึ่งบางองค์ประกอบอาจทำให้เกิดเสียงแตกแยกและบ้างก็อาจจะมีคนเห็นได้ ด้วยความหลากหลายแบบนี้ การทำตามขั้นตอนเพื่อการกำกับดูแลจึงอาจมีผลกระทบมากมายต่อราคาโทเค็น
  • การหากำไรตามเหตุการณ์สำคัญ: จากแผนการพัฒนาบางส่วนที่กล่าวไปข้างต้นและแผนที่เกี่ยวข้องกับอุปทานโทเค็น เป็นเหตุการณ์ที่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ซึ่งรวมข่าวที่อาจทำให้เกิดผลลัพธ์หนึ่งหรือสองอย่าง เช่น การเปิดตัว ETF หรือผลกระทบของคดีระหว่าง ก.ล.ต. และหน่วยงานคริปโต หรือการประกาศด้านกฎระเบียบเหรียญคริปโตในเศรษฐกิจโลก

นักลงทุนจำนวนมากจะพยายามก้าวนำเกมการลงทุนโดยคาดหวังถึงเหตุการณ์เหล่านี้และโอกาสทำกำไรจากราคาเหรียญ ซึ่งอาจนำไปสู่เหตุการณ์ “ขายเหรียญจากข่าวลือ” มากมาย การอนุมัติ Bitcoin ETF ก็เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากเรื่องนี้ เพราะราคาเหรียญที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 70% ในช่วงหลายเดือนก่อนที่จะมีการประกาศ แต่ก็ลดลง 14% ภายในสองสัปดาห์หลังจากการอนุมัติ

ข่าวที่ไม่คาดฝันและราคาเหรียญคริปโต

ใช่ว่าทุกข่าวจะสามารถคาดหวังและคาดเดาได้ก่อน เช่น การอนุมัติ Bitcoin ETF หรือการที่ ก.ล.ต. ฟ้อง Binance และ Coinbase ติดกันในเดือนมิถุนายน 2023 ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดคริปโตลดลงเกือบ 10% หรือ 100 พันล้านดอลลาร์กว่า 10 วันด้วยกัน

ข่าวแบบนี้เป็นเพราะตลาดคริปโตยังอยู่ในช่วงแรก ไร้การควบคุม และมีความผันผวน และถึงแม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาเหรียญ เราก็ไม่สามารถคาดเดาได้ก่อนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นี่คือเหตุผลว่าทำไมกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุดหลายแห่งจึงรองรับแอพมือถือและเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถการตั้งค่าการแจ้งเตือนราคาพร้อมกับระดับ Take Profit และ Stop Loss เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกผลกระทบจากข่าวแบบนี้นั่นเอง

แหล่งข้อมูลสำหรับแนวโน้มราคาเหรียญที่ดีที่สุด


ในรายการด้านล่าง เราได้สรุปแพลตฟอร์มที่ที่ดีที่สุดในการค้นหาแนวโน้มราคาคริปโต พร้อมรวบรวมเครื่องมือที่คุณสามารถใช้เพื่อยืนยันแนวโน้มราคาที่คุณพบหรือสร้างขึ้นมาเองว่าแม่นยำเอาไว้

  • Cryptonews: ผู้เชี่ยวชาญของเราค่อยจับตาดูตลาดและข่าวสารเกี่ยวกับเหรียญคริปโตอย่างเอาจริงเอาจังเพื่อการคาดการณ์ราคาเหรียญคริปโตที่แม่นยำมากที่สุด
  • X (Twitter): นี่คือแพลตฟอร์มที่เหรียญคริปโตส่วนใหญ่เกิดขึ้นและเต็มไปด้วยผู้ใช้ที่โพสต์แนวโน้มราคาเหรียญคริปโตที่ตนวิเคราะห์
  • Telegram: นี่คือแอพแชทที่รองรับกลุ่มสัญญาณคริปโตที่ดีที่สุดเอาไว้มากมาย โดยมีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน
  • YouTube: นี่คือแพลตฟอร์มที่คุณสามารถค้นหาวิดีโอของนักเทรด นักลงทุนมืออาชีพ และมือสมัครเล่นที่อัพโหลดวิดีโอเกี่ยวกับการวิเคราะห์โทเค็นทางเทคนิคของ
  • แพลตฟอร์มเทรด: บางแพลตฟอร์มเทรดได้นำฟีเจอร์การเทรดทางสังคมมาใช้งานซึ่งเปิดโอกาสให้นักเทรดสามารถพูดคุยเกี่ยวกับโทเค็นและสิ่งที่ตนคาดหวังได้
  • CoinMarketCap: นี่คือเว็บไซต์ติดตามราคาที่มีคอมมิวนิตี้ที่กำลังเติบโตที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบและแบ่งปันการคาดการณ์ของตนได้ ทั้งยังเหมาะสำหรับการหาข้อมูลเหรียญอีกด้วย
  • TradingView: นี่คือแพลตฟอร์มนี้ที่เปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงกราฟและเครื่องมือสร้างกราฟที่จำเป็นในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ทั้งยังมีส่วนคอมมิวนิตี้ที่ผู้ใช้สามารถแชร์กราฟของตนได้อีกด้วย
  • เว็บไซต์ On-Chain Explorer: เว็บเหล่านี้จะเปิดโอกาสให้คุณสามารถรวบรวมและดูข้อมูลเกี่ยวกับโทเค็นได้จากแหล่งที่มาโดยตรง ซึ่งเว็บยอดนิยม ได้แก่ Dune, Glassnode และ IntoTheBlock
  • เว็บไซต์ติดตาม dApp: เว็บเหล่านี้จะบอกคุณว่า dApp นั้นๆ ได้รับความนิยมแค่ไหนพร้อมรวบรวมสถิติอื่นๆ เอาไว้ โดยเว็บที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ DappRadar
Crypto News in numbers
editors
Authors List + 66 More
2M+
มีผู้ใช้งานรายเดือนทั่วโลกมากกว่า
250+
มีบทความรีวิวและคู่มือมากกว่า
8 ปี
อยู่ในตลาดมาแล้ว
70 คน
มีทีมงานนักเขียนนานาชาติกว่า