รีวิว Ledger Nano X: Hardware Wallet ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
- รองรับสกุลเงินดิจิทัลและ NFT มากกว่า 5,500 สกุลบนบล็อคเชนหลาย ๆ แห่ง
- บลูทูธสำหรับเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน
- แอปคู่หูระดับชั้นนำที่รองรับการสเตกกิ้ง แอปแบบกระจายอำนาจ และที่คุณสามารถซื้อเหรียญผ่านผู้ให้บริการบุคคลที่สาม
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับการใช้งานบนมือถือ
เมื่อความปลอดภัยในโลกคริปโตเป็นที่สิ่งที่จำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ กระเป๋าเงินคริปโตก็ถูกใช้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ในฐานะเครื่องมือรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีทั้งแบบกระเป๋าเงินเย็น (ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) และกระเป๋าเงินร้อน (ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต)
ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินเย็นหรือฮาร์ดแวร์วอลเลทบางเจ้าก็โดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมมาตรการความปลอดภัยขั้นสูง ความสามารถในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย และอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย อย่าง Ledger ที่เป็นผู้เล่นหลักในวงการ hardware wallet ตั้งแต่ปี 2014 และยังคงพัฒนาสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง จนมีผลิตภัณฑ์กระเป๋าคริปโตยอดนิยมอย่าง ledger nano x ออกมา
ในบทรีวิวกระเป๋าเงิน Ledger Nano X ฉบับสมบูรณ์นี้ เราจะวิเคราะห์คุณสมบัติและฟังก์ชันการทำงาน ที่ทำให้กระเป๋าเย็นนี้เป็นสิ่งที่แฟนๆ คริปโตกล่าวกันว่าของมันต้องมี
รีวิว Ledger Nano X: ทำไมต้องเลือก Hardware Wallet นี้?
Ledger Nano X เป็นกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่รองรับคริปโตกว่า 5,500 เหรียญ พร้อมฟีเจอร์บลูทูธและความปลอดภัยสูงสุด ในราคาจับต้องได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่นี่คือหนึ่งในกระเป๋าเงินคริปโตยอดฮิตอีกตัว ดังนั้นเราจะมาเจาะลึกข้อมูลรีวิว ledger nano x อย่างละเอียดกัน
รีวิว ledger nano x ฉบับรวบรัด
Ledger Nano X เป็นฮาร์ดแวร์วอลเลทระดับพรีเมียมจาก Ledger ที่รองรับเหรียญ, โทเค็น และ NFTs กว่า 5,500 รายการบนหลากหลายบล็อกเชน เช่น Bitcoin, Ethereum และ Solana จุดเด่นของอุปกรณ์นี้คือการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ที่ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อวอลเลทกับอุปกรณ์มือถือแบบไร้สาย และอนุมัติการทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา
ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแกร่ง เช่น ชิปความปลอดภัย CC EAL5+, ระบบปฏิบัติการเฉพาะของ Ledger, อินเทอร์เฟซที่ป้องกันด้วย PIN และแอปคู่หูที่เป็นผู้นำในวงการ Ledger Nano X จึงมอบความครบครันที่คุณต้องการจากฮาร์ดแวร์วอลเลท อ่านรีวิว Ledger Nano X ของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ cold wallet รุ่นนี้
จำนวนเหรียญที่รองรับ | 5,500+ |
ราคา | $149 |
บลูทูธ | มี |
วิธีการเชื่อมต่อ | USB-C, บลูทูธ |
ตัวเลือกการกู้คืนด้วย Seed phrase | รองรับ ด้วยการสมัครสมาชิก Ledger Recover |
ข้อดี-ข้อเสีย ของ Ledger Nano X
แม้ว่า เลดเจอร์ นาโน X จะขึ้นชื่อว่าเป็นกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่ดีที่สุดที่จะช่วยปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณ แต่แน่นอนว่าทุกผลิตภัณฑ์ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- รองรับ cryptocurrencies และ NFTs กว่า 5,500 รายการ บนหลาย blockchain
- แอปคู่หูคุณภาพสูงที่รองรับการ staking, decentralized apps และสามารถซื้อเหรียญผ่านผู้ให้บริการบุคคลที่สาม
- ใช้งานร่วมกับกระเป๋าเงิน crypto ยอดนิยมอย่าง MetaMask และ Solflare ได้
- เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth
- แบตเตอรี่ Lithium-ion สำหรับการใช้งานแบบพกพา
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง ( ประมาณ $149)
- การทำ KYC ยังเป็นสิ่งจำเป็น หากคุณใช้ฟีเจอร์กู้คืนด้วย seed phrase
Ledger Nano X รองรับคริปโตอะไรบ้าง?
Ledger Nano X เป็นฮาร์ดแวร์วอลเลทที่รองรับเหรียญ โทเค็น และ NFT กว่า 5,500 รายการบนบล็อกเชนหลากหลาย เช่น Bitcoin, Ethereum, Shiba Inu และ Polkadot แต่ถ้าคุณต้องการเพิ่มบล็อกเชนลงใน Ledger คุณจำเป็นต้องติดตั้งแอปของบล็อกเชนนั้นลงบนอุปกรณ์ผ่านแอป Ledger Live ก่อน ถ้าคุณต้องการแค่ถือ Bitcoin ก็แค่ติดตั้งแอป Bitcoin เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเพิ่มบล็อกเชนอื่นหากไม่ได้ใช้งาน
คุณสามารถซื้อ, สวอป หรือสเตกเหรียญได้ภายในแอป Ledger Live อย่างเช่น Ethereum, Bitcoin และ Ripple สามารถซื้อและสวอปได้ใน Ledger Live แต่ Monero ไม่สามารถซื้อหรือสวอปได้ในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม Ledger Live อาจจะไม่ได้รองรับเหรียญบางสกุลโดยตรงภายในแอป แต่คุณยังสามารถเก็บเหรียญเหล่านั้นได้บนอุปกรณ์ Ledger Nano X ผ่านการใช้งานวอลเลทที่รองรับเหรียญนั้น เช่น Terra (LUNA) และ Internet Computer (ICP) ที่ไม่ได้รับการรองรับในแอป Ledger Live แต่ก็สามารถใช้งานผ่านวอลเลทของมัน เช่น Terra Station Wallet และ NNS dapp เพียงแค่เชื่อมต่อ Nano X กับวอลเลทเหล่านี้ คุณก็พร้อมใช้งานได้เลย
Ledger Nano X ปลอดภัยไหม? สำรวจฟีเจอร์เด่นๆ
หากถามว่า Ledger Nano X ปลอดภัยไหม เราสรุปได้ว่านี่คือหนึ่งในกระเป๋าเย็น (cold wallet) ที่ดีที่สุดสำหรับการปกป้องการลงทุนในคริปโตของคุณ ด้วยชิปที่มีความปลอดภัยสูง การล็อก PIN และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย
ชิป Secure Element และระบบปฏิบัติการ Proprietary
หัวใจสำคัญของสถาปัตยกรรมความปลอดภัยของ Ledger Nano X ก็คือชิป Secure Element CC EAL5+ ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์เฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อแยกกระบวนการลงชื่อธุรกรรมออกจากส่วนอื่นๆ ของอุปกรณ์ ช่วยลดความเสี่ยงจากจุดบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชิป Secure Element ได้รับการรับรองจากบุคคลที่สาม หลังจากที่ชิปนี้ผ่านการทดสอบและประเมินผลอย่างเข้มงวด อีกหนึ่งคุณสมบัติด้านความปลอดภัยคือการใช้ระบบปฏิบัติการ Blockchain Open Ledger Operating System (BOLOS) ที่พัฒนาโดย Ledger ซึ่งช่วยให้คุณสามารถติดตั้งแอปบนบล็อกเชน และเปลี่ยนฮาร์ดแวร์วอลเลทธรรมดาๆ ให้กลายเป็นกระเป๋าส่วนตัวที่รองรับหลายบล็อกเชนได้
ปุ่มกดและการป้องกันด้วย PIN
hardware wallet นี้มาพร้อมกับปุ่มกด 2 ปุ่มที่ใช้สำหรับการอนุมัติธุรกรรมและการนำทางในเมนู BOLOS ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัย โดยทำให้แฮกเกอร์ไม่สามารถขโมยเงินของคุณจากระยะไกลได้ง่ายๆ เพราะทุกธุรกรรมจะต้องได้รับการอนุมัติด้วยการกดปุ่มทั้งสองพร้อมกัน
Ledger Nano X มีระบบล็อกด้วยรหัส PIN เป็นชั้นป้องกันอีกชั้นหนึ่ง ทุกครั้งที่คุณต้องการใช้ Ledger คุณจะต้องปลดล็อกอุปกรณ์ก่อน เพื่อเพิ่มความยากสำหรับแฮกเกอร์และมิจฉาชีพ และในการปลดล็อกนี้ คุณจะต้องเลือกตัวเลขแต่ละตัวด้วยการกดปุ่มที่ Ledger Nano X ของคุณ หลังจากเลือกตัวเลขที่ถูกต้อง หน้าจอ OLED จะสุ่มเปลี่ยนไปยังอีกตัวเลขหนึ่งที่ไม่ใกล้เคียงกับตัวเลขเดิม ทำให้ไม่มีใครสามารถจับตามองการกดปุ่มของคุณและเดาเลขรหัสได้ถูกต้อง
ความปลอดภัยของ Bluetooth และการอัปเดตเฟิร์มแวร์
การมีการเชื่อมต่อแบบไร้สายใน hardware wallet อาจเป็นประเด็นกังวลสำหรับผู้ใช้งานบางราย อย่างไรก็ตาม Bluetooth ของ Ledger Nano X ถูกเข้ารหัสแบบ end-to-end และ seed phrase หรือก็คือ private keys ที่จะไม่ถูกนำออกนอกเครื่องเลย ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้โจมตีจะใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อ Bluetooth ของ Ledger Nano X ได้
กระเป๋าฮาร์ดแวร์ Ledger Nano X มักได้รับการอัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขช่องโหว่ที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ คุณสามารถเปิดแอป Ledger Live แล้วเลือกอุปกรณ์ของคุณได้ หากมีการอัปเดตใหม่ คุณจะเห็นการแจ้งเตือน ดังนั้นข้อกังวลที่ว่า “Ledger Nano X ปลอดภัยหรือไม่?” ก็น่าจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจจากการอัปเดตเหล่านี้
ฟีเจอร์เด่นของกระเป๋าเงิน Ledger Nano X
จากการรีวิว Ledger Nano X wallet อย่างละเอียดของเรา การซื้ออุปกรณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจทางการเงินที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้ เนื่องจาก Nano X มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมายที่ทำให้ประสบการณ์การลงทุนคริปโตของคุณทั้งปลอดภัยและราบรื่น เรามาดูกันว่าฟีเจอร์ที่เป็นจุดขายของ hardware wallet ตัวนี้มีอะไรบ้าง
ความปลอดภัยขั้นสูง
โครงสร้างระบบความปลอดภัยของ Ledger Nano X ผสานรวมระหว่างชิปแบบ secure element และระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเฉพาะ ส่งผลให้กระเป๋าคริปโตนี้มีการผสมผสานระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ยอดเยี่ยม สำหรับการทำธุรกรรมและปฏิบัติการอื่นๆ ด้านคริปโต โดยยังคงรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ของคุณไว้ได้อย่างมั่นใจ
ด้วยเหตุนี้ seed phrase ของคุณจะไม่มีการแชร์ผ่านโลกออนไลน์โดยเด็ดขาด แต่จะถูกเข้ารหัสและเก็บไว้อย่างปลอดภัยในอุปกรณ์ Ledger Nano X ของคุณ ไม่ว่าคุณจะเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth หรือไม่ก็ตาม
นอกจากนี้ ต่อให้มีคนสามารถถือ Ledger Nano X ของคุณได้ แต่ถ้าพวกเขาไม่รู้ PIN สำหรับปลดล็อกอุปกรณ์ อุปกรณ์นั้นก็จะไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขาเลย
ประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น
ตั้งแต่กระบวนการตั้งค่าอุปกรณ์จนถึงการใช้งานในชีวิตประจำวัน Ledger Nano X มอบประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายและราบรื่น แม้สำหรับมือใหม่ในโลกคริปโตก็ตาม
เมื่อใช้งานร่วมกับแอปคู่ใจอย่าง Ledger Live ซึ่งเป็นแอปมือถือยอดเยี่ยม คุณก็จะมีเครื่องมือครบวงจรสำหรับจัดการพอร์ตโฟลิโอคริปโตของคุณทันที ตั้งแต่การซื้อคริปโตภายในแอป ไปจนถึงการแลกเปลี่ยนและการ staking เหรียญของคุณได้อย่างสะดวกสบาย
Ledger Nano X มาพร้อมกับ Bluetooth ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของคุณได้แบบไร้สาย ด้วยความสามารถนี้ คุณจึงสามารถทำธุรกรรมและจัดการพอร์ตโฟลิโอคริปโตได้ทุกที่ทุกเวลา
Ledger Card
Ledger ได้เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการสินทรัพย์คริปโตด้วย CL Card ซึ่งเป็นบริการที่พัฒนาโดย Baanx และสามารถใช้งานได้เฉพาะลูกค้าในสหราชอาณาจักรและกลุ่มประเทศ EEA เท่านั้น บัตรนี้ทำให้คุณสามารถใช้คริปโตในการใช้จ่ายหรือใช้เป็นหลักประกันก็ได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0% และยังได้รับรางวัล cashback ถึง 1% ในรูปแบบ BTC และ USDT หรือ 2% ในรูปแบบ BXX ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่คุณเลือกใช้จ่ายผ่านบัตรนี้
บริการนี้อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากระบบธนาคารแบบดั้งเดิม เนื่องจากคุณจะได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ 100% โดยไม่ต้องกังวลว่าสินทรัพย์จะถูกแช่แข็งหรือถูกยึดโดยหน่วยงานใด ส่วนในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากคุณไม่สามารถใช้งานบัตรนี้ได้อีกต่อไป สินทรัพย์ของคุณก็จะยังคงอยู่ในการดูแลของคุณเองภายในกระเป๋า Ledger Nano X
การเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงิน Third-Party
ผู้ใช้งานบางคนอาจชื่นชอบการใช้กระเป๋าคริปโตที่คุ้นเคยอยู่แล้ว เช่น MetaMask ของ Ethereum หรือ Phantom และ Solflare ของ Solana ในกรณีนี้ คุณสามารถเชื่อมต่อ Ledger Nano X ของคุณเข้ากับกระเป๋าคริปโตเหล่านี้เพื่อใช้อินเทอร์เฟซของกระเป๋าในการจัดการพอร์ตโฟลิโอคริปโตของคุณ
จากการรีวิว Ledger Nano X พบว่าคุณสามารถใช้งานร่วมกันได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากการเปิดแท็บบัญชีใน MetaMask จากนั้นเลือก “add account or hardware wallet”
เสียบ Ledger Nano X เข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้วเลือก “Ledger” จากตัวเลือก จากนั้นปฏิบัติตามคำแนะนำที่ปรากฏ เพียงเท่านี้ Ledger Nano X ของคุณก็จะเชื่อมต่อกับ MetaMask ได้ในเวลาไม่นาน คุณก็สามารถจัดการเหรียญและโทเค็นบน Ethereum รวมถึง Layer 2 ที่นิยมอย่าง Polygon (MATIC) ได้โดยตรงผ่าน MetaMask ได้เลย
เปรียบเทียบราคา Ledger Nano X กับ Ledger model อื่น: อันไหนเหมาะกับใคร?
จากการรีวิว Ledger Nano X พบว่าราคา Ledger Nano X สูงกว่าเล็กน้อย (อยู่ที่ $149 ต่อชิ้น) เมื่อเทียบกับรุ่นเบสิกอย่าง Ledger Nano S Plus ที่มีราคาอยู่ที่ $79 ความแตกต่างหลักระหว่างทั้งสองรุ่นคือ Ledger Nano X มาพร้อมกับการเชื่อมต่อ Bluetooth ในขณะที่ Nano S Plus ไม่มีฟีเจอร์นี้
ฟีเจอร์ Bluetooth นี้จะเป็นประโยชน์หากคุณต้องการใช้กระเป๋าฮาร์ดแวร์เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ iOS ซึ่ง Bluetooth เป็นช่องทางการเชื่อมต่อเพียงทางเดียว แต่ถ้าคุณวางแผนจะใช้ Nano S Plus ร่วมกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ Android อย่างเดียว รุ่น Nano S Plus ที่มีราคาถูกกว่าอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
นอกจากฟีเจอร์และราคา Ledger Nano X และ S Plus ที่ต่างกันแล้ว ด้านรูปลักษณ์ภายนอกก็ต่างกันด้วยเช่นกัน กล่าวคือรุ่น Nano X ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทานกว่ารุ่น Nano S Plus แม้จะมีขนาดจอเท่าๆ กัน (อยู่ที่ 1.09”) และใช้จอ Monochrome OLED display ทั้งคู่
ดังนั้นถ้าคุณถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าหลายพันดอลลาร์และต้องการกระเป๋าฮาร์ดแวร์ที่ดูดี Ledger Nano X จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
นอกจากรุ่น Nano X และ Nano S Plus ที่ได้รับความนิยมแล้ว ยังมีรุ่น Ledger Flex และ Ledger Stax ด้วย ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าและขนาดใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด
โดยราคาของ Ledger Flex จะแพงกว่าราคา Ledger Nano X (รุ่น Flex อยู่ที่ประมาณ $285) และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาได้แก่ การรองรับ NFC, จอ 16 grayscale – E Ink® touchscreen และขนาดซึ่งอยู่ที่ 2.84” นอกจากนี้ยังมี Magnet Folio วางจำหน่าย (เคสแม่เหล็กสำหรับเก็บกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์อย่างปลอดภัยและมีสไตล์)
ส่วนรุ่น Ledger Stax เป็นรุ่นที่แอดวานซ์ที่สุด แพงที่สุด (ประมาณ $458) ใช้จอ 16 grayscale – E Ink® touchscreen แบบเดียวกับรุ่น Flex แต่มีขนาดจอใหญ่กว่า อยู่ที่ 3.7” รองรับการชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Qi charging) และมีเคสแถมมาให้แล้ว
สั่งซื้อ Ledger Nano X ที่ไหนดีที่สุด?
ถ้าถามว่า Ledger wallet ซื้อที่ไหน คงต้องตอบว่าสำหรับคนไทยเรา การสั่งซื้อออนไลน์น่าจะเป็นทางที่สะดวกที่สุด เพราะแม้ Ledger จะมีช็อป แต่ขณะนี้ก็ยังมีแค่ในไม่กี่ประเทศอย่าง ฝรั่งเศส (ปารีส) เท่านั้น
ทั้งนี้ต้องเลือกแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ เราแนะนำให้สั่งซื้อ ledger nano x ผ่านเว็บไซต์ทางการโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงของปลอม แม้ว่าจะมีขายผ่านตลาดออนไลน์อื่นๆ อย่าง Amazon, eBay, Best Buy, Newegg อยู่บ้าง แต่ได้โปรดตรวจสอบให้แน่ใจและอ่านรีวิวให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
วิธีการติดตั้ง Ledger Nano X
เมื่อคุณรู้แล้วว่า Ledger wallet ซื้อที่ไหนและมีฟีเจอร์อะไรบ้าง ทีนี้เรามาดูวิธีการติดตั้งกันบ้าง
จากการรีวิว Ledger Nano X พบว่าอุปกรณ์ hardware wallet นี้มีวิธีเริ่มต้นใช้งานที่ไม่ยากอย่างที่คิด หลังจากที่คุณสั่งซื้อ Ledger Nano X จากแหล่งที่น่าเชื่อถือแล้ว คุณก็สามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้เลย:
ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้งแอป Ledger Live บนคอมพิวเตอร์ของคุณ
เข้าไปที่เว็บไซต์ทางการของ Ledger และดาวน์โหลดแอปคู่หูนี้ ซึ่งสามารถหาได้ในส่วน “app and services” เมื่อเปิดแอป ให้เลือก “Get started”
เลือกอุปกรณ์ Nano X จากนั้นเลือก “First time using your Nano X?” แล้วทำตามคำแนะนำที่ปรากฏ
ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่า Ledger Nano X ของคุณ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณอยู่คนเดียว หรืออย่างน้อยก็ไม่มีใครมองหน้าจอ OLED ของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของคุณอยู่ จากนั้นเสียบ Ledger Nano X ของคุณ
ใช้ปุ่มเลื่อนดูเมนูใน Ledger จนกว่าคุณจะพบตัวเลือก “Set up as new device” แล้วกดปุ่มทั้งสองพร้อมกันเพื่อเลือก
ตั้งรหัส PIN ของคุณและกดยืนยัน โดย PIN ของคุณสามารถมีได้ระหว่าง 4-8 หลัก หากคุณวางแผนที่จะใช้ Ledger Nano X เป็นกระเป๋าแบบ cold wallet ที่คุณจะใช้งานเพียงปีละหนึ่งหรือสองครั้ง เราแนะนำให้ใช้รหัส PIN แปดหลักและตั้งรหัสที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าคุณวางแผนที่จะใช้งาน dApps อย่างต่อเนื่อง เช่น การ stake และการ swap เหรียญและโทเค็น การเลือกรหัส PIN 4-6 หลักก็อาจจะช่วยให้คุณสะดวกมากกว่าในระยะยาว
ขั้นตอนที่ 3: เขียน Recovery Phrase ของคุณลงไป
อย่าถ่ายภาพหน้าจอของ Recovery Phrase เด็ดขาด และอย่าเขียนมันลงในคอมพิวเตอร์ แต่ให้ใช้ Recovery Sheets ที่ให้มาในกล่องอยู่แล้ว และเขียน Seed Phrase ลงไปในนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเก็บคุณเก็บชีทนั้นไว้ในที่ที่ปลอดภัย หาก Ledger Nano X ของคุณเกิดความเสียหายหรือถูกทำลาย คุณสามารถซื้อเครื่องใหม่และกู้คืนสินทรัพย์ของคุณด้วย Recovery Phrase ได้ แต่หากคุณทำ Seed Phrase หาย คุณจะไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนของคุณได้
ตรวจสอบคำ Recovery บน Ledger Nano X โดยเลื่อนดูทีละคำจนกว่าคุณจะเจอคำที่ถูกต้อง ยืนยันคำกู้คืนของคุณโดยกดปุ่มทั้งสองปุ่มเมื่อพบคำที่ถูกต้องแล้ว
เปิดแอป Ledger Live เลือก “Check my Nano” เพื่อยืนยันว่าเป็นอุปกรณ์แท้ โดยแอปจะแจ้งให้คุณกดปุ่มทั้งสองเพื่อ “Allow Ledger Manager”
ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งแอปที่คุณต้องการ
เปิดแอป Ledger Live อีกครั้งและเลือก “My Ledger” จากนั้นยืนยันการเชื่อมต่อบน Ledger Nano X ของคุณ
ติดตั้งแอปบนบล็อกเชนที่คุณต้องการใช้งาน เช่น Ethereum และ Bitcoin เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว!
ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า (Customer Support)
หากเราต้องเลือกจุดเด่นของ Ledger นอกเหนือจากการเป็นผู้ผลิต hardware wallets แล้ว จุดเด่นที่โดดเด่นอีกส่วนหนึ่งก็คือบริการลูกค้าของพวกเขา ผู้ใช้งานสามารถติดต่อทีมงานได้ผ่านทางอีเมล โซเชียลมีเดีย หรือ live chat ตามสะดวก
แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีตัวเลือกให้โทรหาทีมงานผ่านโทรศัพท์ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ เพราะทีมงานสามารถแก้ปัญหาให้คุณได้อย่างรวดเร็ว และถ้าหากคุณเจอปัญหากับ Ledger Nano X เช่น แบตเตอรี่ไม่ทำงาน ทางบริษัทก็พร้อมที่จะส่งเครื่องใหม่ทดแทนให้คุณแบบฟรีๆ
นอกจากนี้ ทีมสนับสนุนของ Ledger ยังจัด YouTube live บ่อยอีกด้วย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถถามคำถามในแชทหรือให้ข้อเสนอแนะได้ แล้วทีมงานก็จะตอบกลับแบบเรียลไทม์
ช่องทางการติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้ามีดังนี้:
สรุปแล้ว Ledger Nano X น่าใช้ไหม ในปี 2024?
จากการรีวิว hard wallet ชื่อดังอย่าง Ledger Nano X เราสรุปได้ว่านี่เป็นหนึ่งในกระเป๋าเก็บคริปโตแบบเย็น (cold wallet) ที่ดีที่สุดในปีนี้ โดยสามารถเก็บสกุลเงินคริปโต โทเคน และ NFTs ได้มากกว่า 5,500 รายการอย่างปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth และสามารถใช้งานร่วมกับกระเป๋ายอดนิยมอย่าง MetaMask ได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแอปคู่ใจชื่อว่า Ledger Live ซึ่งถือว่าดีเยี่ยมอีกด้วย
ในขณะที่ขาขึ้นของตลาดกำลังดำเนินต่อไป ความเสี่ยงจากการหลอกลวงและการโกงก็ย่อมเพิ่มขึ้นบนโลกออนไลน์ ดังนั้นการสั่งซื้อ Ledger Nano X ด้วยเงินเพียง $149 ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในการปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณให้ปลอดภัย
Ref:
- https://cryptonews.com/reviews/ledger-nano-x-wallet/
- https://cryptonews.com/th/cryptocurrency/best-bitcoin-wallet/
- https://cryptonews.com/ext/ledger/en
- https://station.terra.money/
- https://nns.ic0.app/
- https://www.trustonic.com/opinion/what-eal5-is-and-why-receiving-it-is-such-a-significant-achievement/
- https://cryptonews.com/reviews/ledger-nano-s-plus-crypto-wallet
- https://www.youtube.com/c/Ledger
คำถามที่พบบ่อย
Ledger Nano X ดีไหม?
ข้อเสียของ Ledger Nano X คืออะไร?
อุปกรณ์ Ledger Nano X สามารถถูกติดตามได้หรือไม่?
Ledger Nano X ทำหน้าที่อะไร?
Ledger wallet ซื้อที่ไหน?

Other แพลตฟอร์มอื่น

- ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ
- การสนับสนุนหลายแพลตฟอร์ม
- ซื้อขาย cryptocurrencies มากกว่า 180 รายการบน Binance

- Fiat เป็นคริปโตแบบ
- On-ramp การซื้อขายแบบมาร์จิ้น
- ตัวเลือกความปลอดภัยมากขึ้น