Bitcoin อาจพุ่งแตะ $1.5M ในปี 2030? Ark Invest ชี้ดีมานด์สถาบันหนุน

Bitcoin กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนสถาบัน และ Ark Invest คาดการณ์ว่าราคาอาจพุ่งสูงถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 เพราะสถาบันที่มองว่า BTC เป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ บทความนี้จะเจาะลึกถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา และวิเคราะห์แนวโน้มตลาดในระยะยาว
ARK มองว่า BTC อาจได้ส่วนแบ่งถึง 60% ของมูลค่าตลาดทองคำ และอย่างดีที่สุดสถาบันการเงินอาจจัดสรรพอร์ตลงทุนใน BTC สูงถึง 6.5%
ตามรายงานล่าสุดจาก ARK Invest ในเอกสาร Big Ideas 2025 ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บริษัทวิเคราะห์ว่า BTC มีศักยภาพที่จะพุ่งขึ้นแตะระดับ $1.5M ต่อเหรียญภายในสิ้นทศวรรษนี้ หากสถานการณ์เป็นไปตามกรณีที่มองโลกในแง่ดีที่สุด
สำหรับกรณีฐาน (base case) ARK ประเมินว่า BTC จะมีมูลค่าถึง $710,000 ในขณะที่กรณีที่เลวร้ายที่สุด (bear case) ยังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง $300,000
อะไรคือปัจจัยที่หนุนการเติบโตของ Bitcoin?
ARK อธิบายว่าการคาดการณ์เหล่านี้อิงจากแนวโน้มที่กำลังเติบโตหลายประการ เช่น การจัดสรรสินทรัพย์ของสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้น การยอมรับ BTC ในฐานะสินทรัพย์เก็บมูลค่า (store of value) ความต้องการจากตลาดเกิดใหม่ และการขยายตัวของบริการทางการเงินแบบ on-chain
นอกจากนี้ รายงานยังระบุถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากรัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ ในการเพิ่ม BTC เข้าสู่ทุนสำรองของพวกเขา
ณ ขณะที่รายงานออกมา BTC มีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $93,958 ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากความผันผวนในตลาดก่อนหน้านี้ หาก BTC เพิ่มขึ้นตามกรณีที่ดีที่สุดที่ ARK คาดการณ์ไว้ ราคาจะเติบโตประมาณ 15 เท่าจากระดับปัจจุบัน โดยได้แรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบการเงินโลก
ในกรณีที่มองในแง่ดีที่สุด ARK คาดว่าสถาบันการเงินอาจจัดสรรพอร์ตลงทุนใน BTC สูงถึง 6.5% ขณะที่กรณีฐานอยู่ที่ 2.5% นอกจากนี้ บริษัทยังเชื่อว่า BTC มีศักยภาพที่จะครองส่วนแบ่งตลาดทองคำถึง 60% ซึ่งสนับสนุนมุมมองที่ว่า Bitcoin คือ “ทองคำดิจิทัล”

BTC มีโอกาสแตะ $2.4M จากการใช้ในตลาดเกิดใหม่และทุนสำรองขององค์กร
ตลาดเกิดใหม่ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ ARK ให้ความสนใจ โดยคาดการณ์ว่า BTC อาจครองส่วนแบ่งได้ถึง 6% ของฐานเงิน (monetary base) ในประเทศเหล่านี้ ซึ่งมักเผชิญปัญหาเงินเฟ้อและความไม่เสถียรของค่าเงิน นอกจากนี้ ARK ยังมองเห็นโอกาสเติบโตจากการที่องค์กรและรัฐบาลเพิ่มการถือครอง BTC ถึง 10% และ 7% ของทุนสำรองตามลำดับ
รายงานยังเน้นถึงการขยายบทบาทของ Bitcoin ไปไกลกว่าการเป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่า โดยเฉพาะการใช้งานผ่านเครือข่าย Layer 2, โปรโตคอล restaking และสินทรัพย์แบบ tokenized ซึ่งคาดว่าจะขับเคลื่อนการเติบโตของบริการทางการเงินแบบ on-chain ถึง 60% ต่อปี
แม้ ARK จะตั้งเป้าหมายราคาของ BTC ไว้ที่ $1.5M ภายในปี 2030 แต่บริษัทยังมีการปรับแบบจำลองเพื่อคำนึงถึงอุปทาน (supply) ที่สูญหายหรือไม่ได้ใช้งานด้วย ซึ่งในกรณีนี้ ราคา BTC อาจพุ่งสูงถึง $2.4M โดยสะท้อนถึงความขาดแคลนของสินทรัพย์และความต้องการที่เพิ่มขึ้นในหมู่สถาบัน
BTC: ผู้นำในระบบการเงินดิจิทัลที่กำลังเติบโต
แม้ว่ารายงานของ ARK จะไม่ได้ยืนยันว่า BTC จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน แต่บริษัทระบุว่า BTC มีบทบาทสำคัญในระบบการเงินดิจิทัลที่กำลังเติบโตและได้รับความสนใจจากกระแสหลักมากขึ้นเรื่อย ๆ
บิทคอยน์มีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า แม้ว่าราคาจะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวก็ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของ BTC ได้แก่ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน, การได้รับการยอมรับเป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายในบางประเทศ และการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain ที่เกี่ยวข้องกับ BTC
อย่างไรก็ตาม BTC ก็ยังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น การแข่งขันจากคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ, ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขุดบิทคอยน์ หรือ Bitcoin mining
โดยสรุปแล้ว บิทคอยน์มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบัน Ark Invest คาดการณ์ว่าราคาอาจแตะ 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 แม้จะมีความท้าทายอยู่บ้าง แต่ BTC ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการเติบโตในระยะยาว นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนใน BTC






