Trust Wallet คืออะไร? ปลอดภัยจริงหรือและวิธีใช้งาน
ในยุคที่สินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การเลือกใช้งานกระเป๋าเงินคริปโตที่ปลอดภัยเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง และหนึ่งในกระเป๋าเงินคริปโตที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้งานประจำวันก็คือ Trust Wallet ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในฐานะกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีความปลอดภัยสูงและใช้งานง่าย
ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ Trust Wallet ให้มากขึ้นว่ากระเป๋าเงินซอฟต์แวร์ใบนี้เหมาะกับการใช้งานของคุณหรือไม่ รวมถึงเจาะลึกฟีเจอร์ต่างๆ ที่โดดเด่นและได้รับความนิยมจากเหล่าผู้ใช้งาน ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยดีกว่า!
Trust Wallet คืออะไร? ทำความรู้จักกระเป๋าเงินดิจิทัลยอดนิยม
Trust Wallet คืออะไร? คำถามนี้มีคำตอบง่ายๆ ก็คือ Trust Wallet เป็นกระเป๋าเงินคริปโต (Crypto Wallet) แบบ non-custodial ที่ให้คุณมีอำนาจเต็มในการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลของตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาบุคคลที่สาม กระเป๋าเงินดิจิทัลนี้ช่วยให้คุณสามารถซื้อ ขาย เก็บรักษา แลกเปลี่ยน และจัดการสินทรัพย์คริปโตต่างๆ ได้อย่างสะดวกผ่านแอปพลิเคชันมือถือหรือส่วนขยายบนเบราว์เซอร์
Trust Wallet คือกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 10 ล้านรายการบนมากกว่า 100 บล็อกเชน ทำให้เป็นตัวเลือกกระเป๋าเงินที่เหมาะสำหรับมือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์ในวงการคริปโต นอกจากนี้ยังช่วยจัดการทั้งคริปโตเคอร์เรนซี่, เหรียญมีม, NFTs และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ภายในแพลตฟอร์มเดียว (trustwallet.com)
ประวัติและที่มาของ Trust Wallet
Trust Wallet ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย Viktor Radchenko นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาความสะดวกและความปลอดภัยในการจัดการคริปโตเคอร์เรนซี ในช่วงแรก Trust Wallet ถูกพัฒนาขึ้นเป็นกระเป๋าเงินมือถือสำหรับ Ethereum และโทเค็น ERC20 เท่านั้น
ต่อมาในปี 2018 Binance หนึ่งในบริษัทตลาดซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เข้าซื้อ Trust Wallet ทำให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับการยอมรับและความน่าเชื่อถือมากขึ้นในชุมชนคริปโต ปัจจุบัน Trust Wallet ได้กลายเป็นองค์กรอิสระที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคน ผ่านการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมากกว่า 100 ล้านครั้ง
คุณสมบัติหลักของ Trust Wallet
Trust Wallet มีคุณสมบัติหลากหลายที่ทำให้การจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเรื่องง่าย ดังนี้:
- ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Self-custody: คุณมีอำนาจเต็มในการควบคุมคีย์ส่วนตัวของคุณเอง ไม่มีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้สินทรัพย์ของคุณปลอดภัยจากการถูกแฮ็ก
- รองรับหลากหลายสกุลเงินคริปโต: สนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 10 ล้านรายการ บนมากกว่า 100 บล็อกเชน รวมถึง Bitcoin, Ethereum, Binance Smart Chain และอื่นๆ อีกมากมาย
- การแลกเปลี่ยนโทเค็น: สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตได้โดยตรงภายในแอป โดยไม่ต้องใช้แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนภายนอก
- การเข้าถึง DApps: มีเบราว์เซอร์ DApp ในตัวที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ได้อย่างง่ายดาย
- ระบบ Staking: ช่วยให้คุณสามารถนำคริปโตเคอร์เรนซีไปฝากไว้เพื่อรับผลตอบแทนได้โดยตรงผ่านกระเป๋าเงิน
การทำงานของ Trust Wallet
Trust Wallet เป็นกระเป๋าเงินแบบ “Hot Wallet” ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทำให้สะดวกสำหรับการทำธุรกรรมประจำวันและการเข้าถึง DApps อย่างรวดเร็ว กระเป๋าเงินนี้ทำงานโดยการเชื่อมต่อกับบล็อกเชนแต่ละเครือข่ายผ่านโหนดของพวกเขา ซึ่งช่วยให้คุณสามารถโอนและรับสินทรัพย์ดิจิทัลได้
คีย์ส่วนตัว (Private Key) ของคุณจะถูกเก็บไว้บนอุปกรณ์และไม่เคยถูกแชร์กับบุคคลที่สาม ซึ่งรับประกันว่าคุณมีการควบคุมเต็มรูปแบบเหนือเงินทุนของคุณตลอดเวลา
นอกจากนี้ Trust Wallet ยังมี Trust Wallet Security Scanner ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยคุณตรวจจับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะทำธุรกรรม ทำให้การใช้งานปลอดภัยยิ่งขึ้นอีกด้วย
ที่สำคัญ หากคุณทำอุปกรณ์หายหรือต้องการย้ายไปใช้อุปกรณ์ใหม่ Trust Wallet ให้คุณสามารถกู้คืนกระเป๋าเงินได้ด้วยวลีกู้คืน 12 คำ (12-word Recovery Phrase) ซึ่งจำเป็นต้องเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและเป็นความลับ วลีนี้เป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงสินทรัพย์ของคุณหากมีปัญหาเกิดขึ้น
Trust Wallet ปลอดภัยแค่ไหน? การป้องกันการโดนแฮกและวิธีดูแลความปลอดภัย
Trust Wallet ปลอดภัยไหม คำถามนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนคริปโตหลายคนสงสัย โดยพื้นฐานแล้ว Trust Wallet ถือเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ยอดเยี่ยมและมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ด้วยการทำงานในรูปแบบ non-custodial ที่ให้ผู้ใช้งานมีอำนาจควบคุมคีย์ส่วนตัวของตนเองอย่างเต็มที่ ไม่มีบุคคลที่สามสามารถเข้าถึงได้ แม้แต่ทีมงานของ Trust Wallet เอง ซึ่งลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีผ่านระบบกลางได้อย่างมาก
ระบบความปลอดภัยของ Trust Wallet
Trust Wallet มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้นที่ช่วยปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ใช้งาน ดังนี้:
- การเก็บคีย์ส่วนตัวแบบ Local Storage: คีย์ส่วนตัวจะถูกเก็บไว้เฉพาะบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งานเท่านั้น ไม่มีการส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ ทำให้ลดความเสี่ยงในการถูกโจมตีจากภายนอก
- การเข้ารหัสข้อมูล: ข้อมูลทั้งหมดในแอปพลิเคชันถูกเข้ารหัส ช่วยป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้ว่าอุปกรณ์จะสูญหายหรือถูกขโมย
- การยืนยันตัวตนแบบชีวภาพ: รองรับการใช้ลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้าเพื่อปกป้องการเข้าถึงแอปพลิเคชัน เพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง
- Trust Wallet Security Scanner: เครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบความเสี่ยงของแอดเดรสปลายทางก่อนทำธุรกรรม ช่วยป้องกันการส่งเงินไปยังแอดเดรสที่อาจเป็นอันตราย
- รหัสลับ 12 คำสำหรับกู้คืน: วลีกู้คืนเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงกระเป๋าเงิน ช่วยให้สามารถกู้คืนสินทรัพย์ได้หากอุปกรณ์สูญหายหรือเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะออกแบบมาให้มีความปลอดภัยสูง แต่เหตุการณ์ Trust Wallet โดนแฮก ก็เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2022 ที่พบช่องโหว่ในส่วนขยายของเบราว์เซอร์ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียประมาณ 170,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Trust Wallet ได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว พร้อมกับชดเชยความเสียหายให้กับผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม (coindoo.com)
ประวัติการถูกแฮกของ Trust Wallet
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Trust Wallet มีประวัติด้านความปลอดภัยที่ค่อนข้างดี แต่ก็มีเหตุการณ์สำคัญที่ควรทราบ:
เหตุการณ์ช่องโหว่ในส่วนขยายเบราว์เซอร์ (พฤศจิกายน 2022)
ในเดือนพฤศจิกายน 2022 มีการค้นพบช่องโหว่ในไลบรารี Wallet Core ที่เกี่ยวข้องกับ WebAssembly ส่งผลกระทบต่อแอดเดรสกระเป๋าเงินใหม่ที่สร้างขึ้นผ่านส่วนขยายของเบราว์เซอร์ Trust Wallet ระหว่างวันที่ 14-23 พฤศจิกายน 2022 เท่านั้น กระเป๋าเงินที่สร้างก่อนและหลังช่วงเวลาดังกล่าวยังคงปลอดภัย
1/10 Trust Wallet is built on security & trust. So we're sharing a vulnerability affecting new addresses created Nov 14-23,22 using the Browser Extension.
The issue is fixed. Most at-risk funds are secured. Affected users should take actions outlined:
➡️https://t.co/X9AEfqWW87— Trust Wallet (@TrustWallet) April 22, 2023
การละเมิดนี้ส่งผลให้เกิดการโจมตี 2 ครั้ง ทำให้สูญเสียเงินประมาณ 170,000 ดอลลาร์ Trust Wallet ได้แก้ไขปัญหานี้แล้ว และเริ่มกระบวนการชดเชยเงินให้กับผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงค่าแก๊สประมาณ 7,700 ดอลลาร์สำหรับผู้ที่โอนเงินไปยังกระเป๋าเงินที่ปลอดภัย
ข้อกล่าวหาในเดือนกุมภาพันธ์ 2023
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 มีข้อกล่าวหาว่าผู้ใช้ Trust Wallet สูญเสียเงิน 4 ล้านดอลลาร์ให้กับองค์กรอาชญากรรมในกรุงโรม ประเทศอิตาลี อย่างไรก็ตาม การสอบสวนของทีม Trust Wallet พบว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากการหลอกลวงทางวิศวกรรมสังคม (social engineering) ไม่ได้เกิดจากช่องโหว่ในผลิตภัณฑ์ของ Trust Wallet
1/ This week, an organised crime unit from Rome stole $4M from one of our users.
It was stated, the thief ‘took a picture’ of the user’s Wallet balance to steal the funds.
We’ve done investigating into the events and believe this is how it happened…🧵👇
— Trust Wallet (@TrustWallet) February 8, 2023
ในกรณีนี้ อาชญากรได้ชักจูงให้เหยื่อโอนเงินจากกระเป๋าเงินแบบ multi-sig ไปยังกระเป๋าเงิน Trust Wallet เดี่ยวก่อนการประชุม อาชญากรแชร์ไฟล์ PDF ที่ระบุว่าเป็น NDA และข้อมูล KYC ปลอม ซึ่งอาจมีมัลแวร์แฝงอยู่ หลังจากเหยื่อแสดงหลักฐานของเงินทุนในระหว่างการประชุม อาชญากรถ่ายภาพและสามารถระบายเงินจากกระเป๋าเงินได้อย่างรวดเร็ว
ในการตัดสินใจว่า Trust Wallet ดีไหม ในแง่ความปลอดภัย ต้องพิจารณาทั้งประวัติการรักษาความปลอดภัย การตอบสนองต่อปัญหา และการปรับปรุงระบบป้องกันอย่างต่อเนื่อง Trust Wallet ได้มีการพัฒนาระบบความปลอดภัยตลอดเวลา เช่น การเพิ่ม Trust Wallet Security Scanner ที่ช่วยตรวจสอบความเสี่ยงก่อนทำธุรกรรม และการรองรับการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มชั้นการป้องกันให้กับผู้ใช้งาน
วิธีรักษาความปลอดภัยของ Trust Wallet ให้ปลอดภัยที่สุด
เพื่อปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณใน Trust Wallet ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:
- เก็บรักษาวลีกู้คืน (Recovery Phrase) ให้ปลอดภัย: เขียนวลีกู้คืน 12 คำลงบนกระดาษและเก็บไว้ในที่ปลอดภัย ไม่ควรเก็บไว้ในรูปแบบดิจิทัลหรือถ่ายรูปเก็บไว้
- อย่าแชร์คีย์ส่วนตัวหรือวลีกู้คืนกับใคร: ไม่มีเจ้าหน้าที่ใดๆ จะขอข้อมูลนี้จากคุณ หากมีคนขอข้อมูลนี้ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นพวกสแกมเมอร์
- เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบไบโอเมตตริก: ใช้ลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้าเพื่อป้องกันการเข้าถึงแอปของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ตรวจสอบแอดเดรสปลายทางก่อนส่ง: ตรวจสอบแอดเดรสปลายทางทุกครั้งก่อนส่งสินทรัพย์ การส่งไปยังแอดเดรสที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้สูญเสียเงินทุนอย่างถาวร
- ระวังการสแกมและฟิชชิ่ง: อย่าคลิกลิงก์ที่น่าสงสัยหรือดาวน์โหลดแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ดาวน์โหลด Trust Wallet จากแหล่งที่เป็นทางการเท่านั้น
- อัปเดตแอปอยู่เสมอ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้เวอร์ชันล่าสุดของ Trust Wallet เพื่อรับการอัปเดตความปลอดภัยและการแก้ไขปัญหาล่าสุด
- ใช้ระบบความปลอดภัยหลายชั้น: พิจารณาการใช้ Hardware Wallet สำหรับการจัดเก็บระยะยาวของสินทรัพย์จำนวนมาก ใช้ Trust Wallet สำหรับธุรกรรมประจำวันเท่านั้น
- ระมัดระวังเมื่อใช้ DApps: ก่อนเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของมันก่อน
โดยการปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้ คุณสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณใน Trust Wallet และลดความเสี่ยงจากการสูญเสียเงินทุนจากการโจมตีหรือการหลอกลวงได้อย่างมาก แม้ว่า Trust Wallet จะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง แต่ความปลอดภัยสูงสุดยังคงขึ้นอยู่กับความระมัดระวังของผู้ใช้งานเอง
วิธีถอนเงินจาก Trust Wallet ทำอย่างไร? แก้ปัญหาถอนเงินไม่ได้
หลายคนอาจสงสัยว่าจะถอนเงินจากกระเป๋าคริปโตอย่างไร วิธีถอนเงินจาก Trust Wallet นั้นไม่ใช่การถอนเงินตรงไปยังบัญชีธนาคารเหมือนแอปธนาคารทั่วไป เพราะ Trust Wallet เป็นกระเป๋าเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi Wallet) ที่ออกแบบมาให้เก็บ ส่ง และรับคริปโตเท่านั้น ไม่สามารถถอนเป็นสกุลเงินเฟียตได้โดยตรง
ผู้ใช้งานหลายคนประสบปัญหา Trust Wallet ถอนเงินไม่ได้ มักจะเกิดจากความเข้าใจผิดว่าสามารถถอนเงินจาก Trust Wallet เข้าบัญชีธนาคารได้ทันที ความจริงก็คือ คุณจะต้องโอนคริปโตไปยังตลาดซื้อขาย (Exchange) เสียก่อน แล้วจึงถอนเป็นเงินบาท ดอลลาร์ หรือสกุลเงินเฟียตอื่นๆ จากนั้น จึงถอนไปยังบัญชีธนาคารได้
ต่อไป เราจะมาอธิบาย วิธีถอนเงินจาก Trust Wallet แบบง่ายๆ ทีละขั้นตอน พร้อมวิธีแก้ปัญหาที่พบบ่อย เพื่อให้คุณเข้าถึงเงินของคุณได้อย่างสะดวก ไม่ว่าคุณจะต้องการนำเงินออกมาใช้หรือต้องการเก็บกำไรจากการลงทุน
ขั้นตอนการถอนเงินจาก Trust Wallet
มี 2 วิธีหลักๆ ในการถอนเงินจาก Trust Wallet:
วิธีที่ 1: ถอนเงินผ่านตลาดซื้อขายคริปโต
- เลือกตลาดซื้อขายคริปโตและลงทะเบียน
- เลือกตลาดซื้อขายคริปโตที่น่าเชื่อถือและรองรับสกุลเงินบาทหรือสกุลเงินที่คุณต้องการ เช่น Binance, Coinbase หรือ Bitkub สำหรับคนไทย สมัครสมาชิกและยืนยันตัวตนตามขั้นตอนของแต่ละเว็บไซต์
- หาที่อยู่กระเป๋าเงินบนตลาดซื้อขายคริปโต
- หลังจากลงทะเบียนแล้ว ไปที่เมนู “ฝาก” หรือ “รับเหรียญ” เลือกสกุลเงินที่คุณมีใน Trust Wallet เช่น Bitcoin (BTC) หรือ Ethereum (ETH) และคัดลอกที่อยู่กระเป๋าเงิน
- โอนคริปโตจาก Trust Wallet ไปยังตลาดซื้อขายคริปโต
- เปิดแอป Trust Wallet เลือกเหรียญที่ต้องการถอน กดปุ่ม “ส่ง” (Send) วางที่อยู่ที่คัดลอกมา ใส่จำนวนที่ต้องการส่ง และยืนยันการทำรายการ
- ข้อสำคัญ: ต้องเลือกเครือข่ายให้ถูกต้อง เช่น ถ้าส่ง BNB ให้เลือกเครือข่าย BEP-20 หรือถ้าส่ง ETH ให้เลือกเครือข่าย ERC-20 เลือกผิดอาจทำให้เงินหาย
- แลกเปลี่ยนคริปโตเป็นเงินบาทหรือสกุลเงินอื่น
- เมื่อเงินเข้าแพลตฟอร์มที่คุณเลือกไว้แล้ว ใช้ฟีเจอร์ “ซื้อ/ขาย” หรือ “แลกเปลี่ยน” เพื่อแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตให้เป็นสกุลเงินบาท (THB) ดอลลาร์ (USD) หรือสกุลเงินเฟียตที่ต้องการ
- ถอนเงินไปยังบัญชีธนาคาร
- ไปที่เมนู “ถอน” เลือกวิธีถอนเป็นโอนเข้าบัญชีธนาคาร กรอกข้อมูลบัญชี ระบุจำนวนเงิน และกดยืนยัน เงินจะเข้าบัญชีธนาคารของคุณตามระยะเวลาที่แพลตฟอร์มกำหนด
วิธีที่ 2: ใช้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนแบบ P2P (Peer-to-Peer)
วิธีนี้เป็นการขายคริปโตให้กับผู้ซื้อโดยตรง และรับเงินเข้าบัญชีธนาคาร:
- โอนคริปโตจาก Trust Wallet ไปยังตลาดซื้อขายคริปโต (ทำตามขั้นตอน 1-3 ของวิธีที่ 1)
- เลือกใช้บริการ P2P บนแพลตฟอร์ม
- ไปที่ส่วน P2P Trading บนแพลตฟอร์ม เลือกเหรียญที่ต้องการขาย และสกุลเงินที่ต้องการรับ เช่น เลือกขาย BTC รับเป็น THB
- เลือกข้อเสนอที่เหมาะสม
- เลือกผู้ซื้อที่ให้ราคาดีและมีวิธีการชำระเงินที่สะดวกสำหรับคุณ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือจากคะแนนและรีวิวของผู้ซื้อ
- ทำการซื้อขาย
- กดปุ่ม “ขาย” เพื่อเริ่มการซื้อขาย ระบบจะล็อคคริปโตของคุณไว้ในระบบ escrow จนกว่าการซื้อขายจะเสร็จสิ้น
- รับเงินและยืนยันการชำระเงิน
- เมื่อผู้ซื้อโอนเงินเข้าบัญชีคุณแล้ว ตรวจสอบบัญชีของคุณและกดยืนยันการรับเงิน จากนั้นระบบจะปล่อยคริปโตให้ผู้ซื้อ
การแก้ไขปัญหาเมื่อถอนเงินไม่ได้
นี่คือปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไขแบบง่ายๆ:
1. มีเงินไม่พอจ่ายค่าธรรมเนียม (Gas Fee)
- ปัญหา: ส่งคริปโตไม่ได้เพราะมีเงินไม่พอจ่ายค่าธรรมเนียมเครือข่าย
- วิธีแก้: ตรวจสอบว่ามีเหรียญหลักของเครือข่ายนั้นๆ เพียงพอ เช่น ต้องมี ETH ถ้าใช้เครือข่าย Ethereum หรือต้องมี BNB ถ้าใช้เครือข่าย Binance Smart Chain ถ้าไม่พอให้ซื้อเพิ่ม
2. เลือกเครือข่ายผิด
- ปัญหา: ส่งคริปโตไปที่อยู่ถูกต้อง แต่เลือกเครือข่ายผิด
- วิธีแก้: ตรวจสอบว่าเลือกเครือข่ายเดียวกันทั้งใน Trust Wallet และเว็บแลกเปลี่ยน ถ้าเลือกผิดแล้ว ให้ติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของเว็บแลกเปลี่ยนทันที
3. ยังไม่ได้เพิ่มเหรียญให้แสดงในหน้าหลัก
- ปัญหา: มีเหรีบญคริปโตในกระเป๋า แต่ไม่เห็นในหน้าหลัก
- วิธีแก้: ไปที่หน้าหลัก Trust Wallet กดเครื่องหมาย “+” มุมบนขวา แล้วเลือกเหรียญที่ต้องการให้แสดง
4. ปัญหาการยืนยันตัวตน
- ปัญหา: เว็บแลกเปลี่ยนบางแห่งต้องยืนยันตัวตน (KYC) ก่อนถอนเงิน
- วิธีแก้: ทำการยืนยันตัวตนให้เสร็จ โดยส่งเอกสารแสดงตัวตน เช่น บัตรประชาชน และหลักฐานยืนยันที่อยู่ตามที่เว็บกำหนด
ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการถอนเงิน
เมื่อถอนเงินจาก Trust Wallet คุณจะพบค่าธรรมเนียม 3 ประเภท:
- ค่าธรรมเนียมเครือข่าย (Gas Fee): จ่ายให้เครือข่ายบล็อกเชนเพื่อประมวลผลการทำธุรกรรม ราคาขึ้นลงตามความแออัดของเครือข่าย
- ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน: จ่ายให้ตลาดซื้อขายคริปโตเมื่อแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตเป็นสกุลเงินบาทหรือสกุลเงินเฟียตอื่นๆ
- ค่าธรรมเนียมการถอน: จ่ายเมื่อถอนเงินจากตลาดซื้อขายคริปโตไปยังบัญชีธนาคาร
เพื่อประหยัดค่าธรรมเนียม ลองทำธุรกรรมช่วงที่เครือข่ายไม่แออัด ใช้เครือข่ายที่ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า หรือเลือกเว็บแลกเปลี่ยนที่ค่าธรรมเนียมถอนต่ำสำหรับสกุลเงินของคุณ
เมื่อเข้าใจขั้นตอนการถอนเงินจาก Trust Wallet อย่างถูกต้อง และรู้วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น คุณจะสามารถจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น
เปรียบเทียบ Trust Wallet กับ BestWallet.com ทางเลือกที่ดีกว่า
การเลือกกระเป๋าเงินคริปโตที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักลงทุนในยุคดิจิทัล ขณะที่ trust wallet review จากผู้ใช้ทั่วโลกมักให้คะแนนในระดับดี แต่มีอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ BestWallet.com ซึ่งเป็น กระเป๋าเงิน Web3 ที่มาพร้อมคุณสมบัติครบครันและออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ ต่อไป เราจะมาเปรียบเทียบ Trustwallet กับ BestWallet.com เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกกระเป๋าเงินที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด
ถ้าคุณกำลังมองหากระเป๋าเงินคริปโตที่ใช้งานง่าย มีความปลอดภัยสูง และรองรับความต้องการในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณอย่างครบวงจร การเปรียบเทียบระหว่าง Trust Wallet และ BestWallet.com จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าแพลตฟอร์มใดเหมาะกับคุณมากกว่า โดยทั้งสองแพลตฟอร์มมีจุดแข็งที่แตกต่างกันไปตามการใช้งานและความต้องการเฉพาะของแต่ละคน
เปรียบเทียบคุณสมบัติหลักๆ
คุณสมบัติ | Trust Wallet | BestWallet.com |
จำนวนบล็อกเชนที่รองรับ | 100+ | 60+ |
จำนวนสินทรัพย์ที่รองรับ | 10 ล้าน+ | 1,000+ |
ต้องการ KYC | ไม่ | ไม่ |
รูปแบบกระเป๋า | Non-custodial | Non-custodial |
ความปลอดภัย | ระบบยืนยันตัวตนแบบไบโอเมตริก | Fireblocks, ไบโอเมตริกขั้นสูง, 2FA |
รองรับภาษาไทย | มี | มี |
แอปมือถือ | iOS, Android | iOS, Android |
ส่วนขยายเบราว์เซอร์ | มี | กำลังพัฒนา |
DEX ในตัว | มี | มี (เชื่อมต่อกับ 200+ ตลาด) |
ฟีเจอร์พิเศษ | DApp Browser, NFT Support | ระบบค้นหาโทเค็นใหม่ๆ, สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือโทเค็น BEST |
ดาวน์โหลดบน App Store ดาวน์โหลดบน Google Play
ฟีเจอร์เด่นของ Trust Wallet
Trust Wallet มีจุดแข็งที่โดดเด่นในหลายด้านซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เริ่มจากการสนับสนุนบล็อกเชนมากกว่า 100 เครือข่ายและรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 10 ล้านรายการ ทำให้ผู้ใช้งานมีอิสระในการจัดการพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย นอกจากนี้ DApp Browser ในตัวยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ได้โดยตรงจากกระเป๋าเงิน
Trust Wallet ยังมีประวัติการใช้งานที่ยาวนานกว่าและได้รับการสนับสนุนจาก Binance ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก การอัปเดตและปรับปรุงระบบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องหลังจากเหตุการณ์ช่องโหว่ในปี 2022 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม Trust Wallet อาจมีอินเทอร์เฟซที่ซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้เริ่มต้น
ฟีเจอร์เด่นของ BestWallet.com
BestWallet.com คือ Web3 Wallet ที่ดีที่สุดที่มาพร้อมกับความสามารถที่น่าประทับใจหลายประการ ระบบความปลอดภัยระดับองค์กรจาก Fireblocks พร้อมการยืนยันตัวตนด้วยระบบไบโอเมตริกขั้นสูงและ 2FA ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้ DEX ในตัวที่เชื่อมต่อกับตลาดซื้อขายมากกว่า 200 แห่งช่วยให้ผู้ใช้งานได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดในตลาด
จุดเด่นที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือฟีเจอร์ “Upcoming Tokens” ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานค้นพบและลงทุนในโทเค็นที่กำลังจะเปิดตัวได้ล่วงหน้า ช่วยให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสในการลงทุนตั้งแต่ช่วงแรก โทเค็น BEST ยังมอบสิทธิประโยชน์พิเศษแก่ผู้ถือ เช่น ค่าธรรมเนียมที่ลดลง รางวัลจากการ Staking ที่สูงขึ้น และสิทธิในการกำกับดูแล
ข้อดีข้อเสียของ Trust Wallet และ BestWallet.com
แพลตฟอร์ม | ข้อดี | ข้อเสีย |
Trust Wallet | • รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมากบนหลากหลายบล็อกเชน • การสนับสนุนจาก Binance ทำให้มั่นใจได้ในความน่าเชื่อถือ • มีประวัติการใช้งานที่ยาวนานและชุมชนผู้ใช้ขนาดใหญ่ • มี Trust Wallet Security Scanner ช่วยตรวจสอบความเสี่ยงก่อนทำธุรกรรม |
• เคยมีประวัติการถูกแฮกในส่วนขยายเบราว์เซอร์ (พฤศจิกายน 2022) • อินเทอร์เฟซอาจซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น • ไม่มีระบบค้นหาโทเค็นใหม่ที่มีแนวโน้มดี • ไม่มีโทเค็นเฉพาะของแพลตฟอร์มที่ให้สิทธิประโยชน์พิเศษ |
BestWallet.com | • ระบบความปลอดภัยระดับสถาบันจาก Fireblocks • ไม่เคยมีประวัติการถูกแฮก • มีฟีเจอร์ค้นพบโทเค็นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว • โทเค็น BEST มอบสิทธิประโยชน์พิเศษแก่ผู้ถือ • DEX ในตัวเชื่อมต่อกับตลาดซื้อขายมากกว่า 200 แห่ง |
• รองรับบล็อกเชนและสินทรัพย์น้อยกว่า Trust Wallet • เป็นแพลตฟอร์มที่ค่อนข้างใหม่ ยังไม่มีประวัติการใช้งานยาวนาน • ส่วนขยายเบราว์เซอร์ยังอยู่ในช่วงการพัฒนา • อาจต้องเรียนรู้ระบบโทเค็น BEST เพิ่มเติมเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุด |
3 เหตุผลที่ควรเลือก BestWallet.com
- ความปลอดภัยระดับสถาบัน: BestWallet.com ใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยจาก Fireblocks ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสถาบันการเงิน พร้อมการยืนยันตัวตนด้วยระบบไบโอเมตริกขั้นสูงและ 2FA ไม่เคยมีประวัติการถูกแฮก ทำให้มั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ของคุณจะปลอดภัย
- ฟีเจอร์ค้นหาโทเค็นใหม่: แท็บ Upcoming Tokens เป็นจุดเด่นที่ให้คุณค้นพบโอกาสการลงทุนในโทเค็นที่กำลังจะเปิดตัว ทีมงานของ BestWallet.com คัดสรรและตรวจสอบโครงการใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มดี ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงโอกาสตั้งแต่ช่วงแรกและหลีกเลี่ยงโครงการหลอกลวง
- สิทธิประโยชน์จากโทเค็น BEST: การถือครองโทเค็น BEST มอบสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น ค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ลดลง รางวัลจากการ Staking ที่สูงขึ้น สิทธิในการกำกับดูแล และโอกาสได้รับแอร์ดรอปจากโครงการพันธมิตร เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับประสบการณ์การใช้งานคริปโตของคุณ
ความคุ้มค่าในการใช้งาน
เมื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่า BestWallet.com มีข้อได้เปรียบในแง่ของการลดค่าใช้จ่าย โทเค็น BEST ช่วยลดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และการเชื่อมต่อกับตลาดซื้อขายมากกว่า 200 แห่งช่วยให้ผู้ใช้ได้อัตราที่ดีที่สุดในการแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ ฟีเจอร์ค้นหาโทเค็นใหม่ยังเพิ่มโอกาสในการลงทุนที่มีศักยภาพสูง
Trust Wallet อาจจะมีความคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการสินทรัพย์หลากหลายบนบล็อกเชนจำนวนมาก แต่สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยระดับสูง การใช้งานที่ง่าย และโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ BestWallet.com อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า
ทั้งนี้ การเลือกใช้กระเป๋าเงินคริปโตใดขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล ผู้ที่คุ้นเคยกับ Trust Wallet อาจรู้สึกสะดวกที่จะใช้งานต่อไป ขณะที่ผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ใหม่ๆ และระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยอาจพบว่า BestWallet.com ตอบโจทย์ความต้องการได้ดีกว่า
สรุปส่งท้าย
Trust Wallet ได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะกระเป๋าเงินคริปโตที่ได้รับความนิยมด้วยเหตุผลที่ชัดเจน การรองรับบล็อกเชนมากกว่า 100 เครือข่ายและสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 10 ล้านรายการ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับนักลงทุนทุกประเภท การสนับสนุนจาก Binance ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ขณะที่อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่งทำให้เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์
แม้จะเคยมีช่องโหว่ในส่วนขยายเบราว์เซอร์ในปี 2022 แต่ Trust Wallet ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการแก้ไขปัญหาและชดเชยผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าคุณจะต้องการจัดการคริปโต NFT ใช้งาน DApps หรือ Staking Trust Wallet ให้เครื่องมือที่จำเป็นในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ