Vitalik Buterin เปิดเผยแผนใหม่หวังดัน Ethereum ทะยาน!

วีตาลิค บูเจริน (Vitalik Buterin) ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของบล็อกเชนและยังได้เปิดเผยแผนใหม่ในบล็อกโพสต์เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 เพื่อพัฒนาเครือข่ายและกระตุ้นราคาเหรียญ
Layer-2 เทคโนโลยีจะเปลี่ยนเกม Ethereum อย่างไร?
นับตั้งแต่ก่อตั้ง Ethereum มีเป้าหมายที่จะเป็นบล็อกเชนระดับโลก
บูเจรินเน้นย้ำว่าเทคโนโลยี Layer-2 มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการทำธุรกรรมถึง 17 เท่า และลดค่าธรรมเนียมลง ทำให้ Ethereum กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ปรับขนาดได้สำหรับ DeFi, เครือข่ายสังคมออนไลน์ และ Metaverse
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดที่ต้องแก้ไข เช่น การปรับแต่งทางเทคนิคของ “Blobs” และการประสานงานที่ดีขึ้นระหว่าง Layer-2
เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ Ethereum วางแผนที่จะอัปเกรดเครือข่าย โดยล่าสุดนี้นักพัฒนาได้ประกาศกำหนดการเริ่มต้นการทดสอบ Ethereum Pectra ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2025 ซึ่งจะเพิ่มจำนวน Blob จาก 3 เป็น 6 ต่อช่วงในระยะยาว
เทคโนโลยีอย่าง PeerDAS และ 2D-Sampling สามารถเพิ่มจำนวนการทำธุกรรรมได้ถึง 100,000 ธุรกรรมต่อวินาที
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Rollups รอบที่ 1 และรอบที่ 2 ซึ่งจะช่วยให้ Ethereum ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เจาะลึก “Triple-Point Asset” กลยุทธ์ใหม่ของ Ethereum เพื่อดึงดูดนักลงทุน?

อีกประเด็นสำคัญในแผนของบูเจรินคือการเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Ethereum ในฐานะ “Triple-Point Asset” หรือ “สินทรัพย์ที่มีคุณสมบัติครบทั้ง 3 ด้านพร้อมกัน” ที่หมายถึงสินทรัพย์เก็บมูลค่า สินทรัพย์สร้างผลตอบแทน และสินทรัพย์ที่ใช้ประโยชน์ได้
ข้อเสนอหนึ่งคือการอัปเกรดเครือข่ายเป็น Layer-2 ที่จะสนับสนุนให้ Ethereum มีค่าธรรมเนียมการ Stake ลดลง วิธีนี้จะช่วยรักษามูลค่าของเหรียญแม้ว่าการใช้งาน Layer-2 จะเพิ่มขึ้นก็ตาม
นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงความสามารถของบล็อกเชนหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในการสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล และทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นระหว่างโซลูชัน Layer-2 ที่แตกต่างกันเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
พลังชุมชนเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จของ Ethereum ในอนาคต?
นอกเหนือจากความก้าวหน้าทางเทคนิค บูเจรินยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของชุมชน Ethereum นักพัฒนาผู้พัฒนากระเป๋าคริปโตและนักลงทุนควรมีส่วนร่วมในการพัฒนาแพลตฟอร์มต่อไป
Ethereum ได้พัฒนาไปทั้งในฐานะ Technology Stack และระบบนิเวศทางสังคม ทำให้เราเข้าใกล้สู่อนาคตที่อิสระและเปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งผู้คนหลายร้อยล้านคนสามารถได้รับประโยชน์จากสินทรัพย์และ DeApps ได้
“ยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องทำ และตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเพิ่มความพยายามของเราเป็น 2 เท่า อนาคตของ Ethereum ขึ้นอยู่กับว่าพวกเราแต่ละคนว่ามีบทบาทอย่างแข็งขันอย่างไร” บูเจรินกล่าวเรียกร้องให้มีความร่วมมือมากขึ้นระหว่างทีมต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้วยความตั้งมั่นเหล่านี้ บูเจรินไม่เพียงต้องการแก้ไขปัญหาปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังต้องการผลักดันราคา Ethereum ให้หลุดพ้นจากแนวโน้ม Sideway จากปัจจัยต่าง ๆ เช่น แรงเทขายจากนักลงทุนรายใหญ่ และเสริมสร้างเครือข่าย Ethereum ให้เป็นบล็อกเชนชั้นนำต่อไป
อีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเป็นตัวตัดสินว่า Ethereum จะสามารถปลดล็อกศักยภาพในระยะยาวได้อย่างเต็มที่หรือไม่






