Top 10 บริษัทที่ถือ “บิทคอยน์” มากที่สุด – Metaplanet ไต่อันดับอย่างไว!

บิทคอยน์ (Bitcoin) กลายเป็นสินทรัพย์จำเป็นสำหรับบริษัทและองค์กรจำนวนมาก และล่าสุดบริษัทญี่ปุ่น Metaplanet Inc. ได้สร้างความฮือฮาในวงการคริปโตเคอร์เรนซี หลังจากทะยานขึ้นสู่อันดับที่ 5 ของบริษัทมหาชนที่ถือครองบิทคอยน์มากที่สุดในโลก
ข้อมูลล่าสุดจาก BitcoinTreasuries.net ยืนยันว่าการเข้าซื้อบิทคอยน์อย่างต่อเนื่องของบริษัทได้ส่งผลให้ปริมาณการถือครอง BTC แซงหน้าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Tesla และ Galaxy Digital ไปแล้ว
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเทรนด์การนำบิทคอยน์ ลเข้ามาเป็นสินทรัพย์สำรองของบริษัทกำลังขยายตัวไปทั่วโลก
เปิดโผ 5 อันดับบริษัทมหาชนที่ถือครอง BTC มากที่สุด
จากการจัดอันดับล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นของบริษัทต่าง ๆ ในการใช้บิทคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์ โดย 5 อันดับแรกของบริษัทที่ถือครอง BTC มากที่สุด ได้แก่:
MicroStrategy: ยังคงครองตำแหน่งผู้นำ บิทคอยน์ ในมือมีจำนวนมหาศาลถึง 592,345 BTC ซึ่งตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ Michael Saylor ที่มองว่าบิทคอยน์คือสินทรัพย์สำรองที่ดีที่สุด และยังคงเดินหน้าซื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
MARA Holdings: บริษัทเหมืองขุดบิทคอยน์รายใหญ่ ตามมาเป็นอันดับสองด้วยจำนวน 49,859 BTC ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการดำเนินงานขุดบิทคอยน์ของตนเอง
XXI: ถือครองอยู่ที่ 37,230 BTC ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มองเห็นศักยภาพของบิทคอยน์
Riot Platforms: อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ในวงการเหมืองขุดบิทคอยน์ มีเหรียญในครอบครอง 19,225 BTC
Metaplanet: ผู้เล่นหน้าใหม่จากญี่ปุ่นที่ไต่อันดับขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยการถือครอง บิทคอยน์ จำนวน 13,350 BTC แซงหน้าบริษัทชั้นนำมากมายที่เคยถือครองบิทคอยน์มาก่อน
- Galaxy Digital – 12,830 BTC
- CleanSpark – 12,502 BTC
- Tesla – 11,509 BTC
- Hut 8 Mining – 10,273 BTC
- Coinbase – 9,267 BTC

วิเคราะห์กลยุทธ์เชิงรุกของ Metaplanet ในการสะสม “บิทคอยน์”
ความก้าวหน้าของ Metaplanet ในการขึ้นสู่อันดับที่ 5 เกิดขึ้นจากกลยุทธ์การซื้อสะสมอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2025 โดยล่าสุดบริษัทได้ซื้อเพิ่มอีก 1,005 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณบิทคอยน์ที่ถือครองทั้งหมดมีมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์
การเคลื่อนไหวดังกล่าวตอกย้ำเป้าหมายของบริษัทในการวางตัวเป็น “MicroStrategy แห่งเอเชีย” โดยมุ่งเน้นการจัดสรรสินทรัพย์ในงบดุลไปยังบิทคอยน์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดค่าเงินและภาวะเงินเฟ้อในระยะยาว
แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของบริษัทมหาชนที่เข้ามาถือครองบิทคอยน์ในงบดุลของตน สะท้อนถึงการยอมรับในระดับสถาบันและการกระจายความเสี่ยงในระดับนานาชาติที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล





