Tesla จับ BTC แน่นไม่ปล่อย ไม่หวั่นแม้ธุรกิจรถยนต์กำไรร่วง 20% ใน Q1

BTC ในมือบริษัท Tesla ยังไม่สั่นคลอน แม้ว่าบริษัทจะเผชิญกับความท้าทายจากรายได้ในธุรกิจรถยนต์ที่ลดลงถึง 20% ในไตรมาสแรกของปีนี้ก็ตาม ติดตามความเคลื่อนไหว Bitcoin และ Elon Musk กัน!

Tesla ยังคงรักษาสถานะที่แข็งแกร่งในตลาด crypto โดยรายงานล่าสุดแสดงให้เห็นว่าบริษัทยังคงถือครอง Bitcoin มูลค่าสูงถึง 951 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของ Tesla ต่อศักยภาพระยะยาวของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัล แม้จะมีความผันผวนในตลาด crypto และผลประกอบการที่ไม่แน่นอนในธุรกิจหลักของบริษัท

Tesla พลาดเป้า Q1 รายได้รวมลดลง 9% เหลือ $1.93 หมื่นล้าน

Tesla เปิดเผยว่า ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี บริษัทถือครอง Bitcoin มูลค่า $951 ล้าน โดยยังคงเป็นหนึ่งในองค์กรขนาดใหญ่ที่ถือครองคริปโตเคอร์เรนซีในปริมาณมากที่สุด

ตัวเลขดังกล่าวซึ่งเปิดเผยในรายงานผลประกอบการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ลดลงจากระดับ $1.076 พันล้านในช่วงปลายเดือนธันวาคม สาเหตุหลักมาจากราคาของ Bitcoin ที่ลดลงในช่วงไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม จากข้อมูล on-chain ของ Arkham Intelligence พบว่า Tesla ไม่ได้ขาย BTC ใด ๆ ออกไปในช่วงเวลาดังกล่าว

Tesla ยังคงถือครอง Bitcoin จำนวน 11,509 เหรียญ ซึ่งบริษัทเริ่มสะสมมาตั้งแต่ต้นปี 2021 และกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่นำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาในงบดุลขององค์กร

การเปลี่ยนแปลงกฎของ FASB เปิดเผยกำไร BTC ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผลประกอบการของ Tesla ได้รับผลกระทบจากมาตรฐานการบัญชีใหม่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ตัวเลขล่าสุดได้รับการบันทึกภายใต้กฎใหม่ของ Financial Accounting Standards Board (FASB) ซึ่งกำหนดให้บริษัทต้องบันทึกมูลค่าของสินทรัพย์ crypto ตามราคาตลาดในแต่ละไตรมาส

ก่อนหน้านี้ บริษัทต่าง ๆ ต้องบันทึกมูลค่าต่ำสุดของสินทรัพย์ในช่วงเวลารายงาน ซึ่งทำให้กำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงถูกบดบังไว้ แต่กฎใหม่นี้ช่วยให้บริษัทอย่าง Tesla สามารถแสดงภาพรวมของมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความเชื่อมั่นของสถาบันการเงินที่มีต่อ Bitcoin กำลังเพิ่มขึ้น แม้จะยังมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในระดับมหภาคอยู่บ้าง

รายได้ไตรมาสแรกต่ำกว่าคาดการณ์ Tesla เผชิญแรงกดดันด้านต้นทุนและความต้องการที่ลดลง

รายได้รวมของ Tesla ลดลง 9% เหลือ $1.93 หมื่นล้าน จาก $2.13 หมื่นล้านในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รายได้จากธุรกิจรถยนต์ลดลงถึง 20% เหลือ $1.4 หมื่นล้าน จาก $1.74 หมื่นล้านเมื่อปีที่ผ่านมา

กำไรสุทธิของบริษัทลดลงเหลือ $409 ล้าน หรือเทียบเท่ากับ $0.12 ต่อหุ้น ซึ่งลดลงอย่างมากจาก $1.39 พันล้าน หรือ $0.41 ต่อหุ้นในปีที่แล้ว ทั้งนี้ Tesla ยังไม่ได้ออกคำแนะนำใหม่เกี่ยวกับการเติบโตในปีนี้ แต่ระบุว่าจะพิจารณาเป้าหมายปี 2025 อีกครั้งในไตรมาสถัดไป

ขณะที่ CEO อย่าง Elon Musk ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในกรุงวอชิงตันเพื่อหารือกับรัฐบาล Trump เกี่ยวกับแผนการลดขนาดของหน่วยงานรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ตาม นโยบายภาษีศุลกากรของทำเนียบขาวได้สร้างความกังวลแก่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าวัสดุสำคัญ เช่น ส่วนประกอบแบตเตอรี่ แผงวงจร และกระจกพิเศษที่เพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของบริษัท

นอกจาก Tesla แล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ ก็มีการลงทุนใน Bitcoin เช่นกัน รวมถึง Strategy และ Metaplanet ที่สะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง และเพิ่งซื้อเพิ่มไปสดๆ ร้อนๆ

เมื่อบริษัทใหญ่ๆ แสดงความเชื่อมั่นที่มีต่อ Bitcoin จึงไม่น่าแปลกใจที่แม้แต่โครงการเล็กๆ ที่เกี่ยวกับ Bitcoin จะได้รับความสนใจไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นเหรียญใหม่อย่าง BTC Bull Token ($BTCBULL) ที่แจกแอร์ดรอปเป็น Bitcoin จริงเมื่อราคา Bitcoin แตะเป้าหมายต่างๆ เช่น 150K, 200K, 250K ฯลฯ ซึ่งขณะนี้ช่วง presale ของโปรเจกต์สามารถระดมทุนได้ราว 5 ล้านดอลลาร์แล้ว แม้จะเพิ่งเปิดขาย presale ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ก็ตาม

ขณะนี้ราคา Bitcoin ทะลุ 94,000 ดอลลาร์แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 6.22% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 12% ในสัปดาห์นี้ โดยมีปัจจัยมาจากการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับลำและกล่าวว่าจะไม่มีการปลดประธาน Fed ออก ประกอบกับการที่องค์กรใหญ่ๆ กลับมาสะสม BTC เพิ่ม และข่าวที่ว่าอาจมีการลดภาษีนำเข้าจากจีน ซึ่งสร้างความหวังให้กับตลาด Crypto อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เราควรติดตามความเคลื่อนไหวเหล่านี้อย่างใกล้ชิด และลงทุนอย่างระมัดระวังเสมอ

สรุปแล้ว Tesla ยังคงถือครอง Bitcoin มูลค่า 951 ล้านดอลลาร์ แม้ว่ารายได้จากธุรกิจรถยนต์จะลดลงในไตรมาสแรก การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของ Tesla ต่อศักยภาพระยะยาวของ Bitcoin แม้จะมีความท้าทายต่างๆ เช่น การแข่งขันที่สูงขึ้นและปัญหา supply chain แต่ Tesla ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมและใช้ประโยชน์จาก Bitcoin และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อสร้างมูลค่าในอนาคต