บริษัท Web3 ในสิงคโปร์ เรียกร้องให้มีการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเพิ่มความสามารถและความปลอดภัย

การประกาศงบประมาณในปี 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้่ชุมชน web3 ของสิงคโปร์ออกมาเรียกร้องการสนับสนุนที่สำคัญจากรัฐบาลมากขึ้น
ตามรายงานล่าสุดโดย The Straits Times หลายบริษัทในสิงคโปร์กำลังมองหาความช่วยเหลือพิเศษใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ การพัฒนากลุ่มผู้มีความสามารถที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน และการส่งเสริมการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์
Web3 firms in S’pore hope for Budget help to grow talent pool, build cyber crime defences https://t.co/340TCaCRke
— ST Business Desk (@stbusinessdesk) February 12, 2024
ความต้องการของสิงคโปร์ที่อยากให้มีผู้สนับสนุน Web3 เพิ่มเติม
การขาดผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะในโดเมนบล็อกเชน ถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตของภาคส่วน web3 ในประเทศสิงคโปร์ Danny Lim ผู้สนับสนุนหลักใน MarginX กระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralized เชื่อว่า ความต้องการนักพัฒนาที่มีประสบการณ์อาจเป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
เพื่อรักษาตำแหน่งการเป็นศูนย์กลางของโครงการบล็อกเชนเชิงนวัตกรรม Lim กล่าวว่า การสนับสนุนนักพัฒนา web2 ให้เปลี่ยนมาใช้ web3 ตามงบประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถูกไล่ออกถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง
Elaine Zhu จาก Parity Asia ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการศึกษาบล็อคเชน โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนนักพัฒนาใหม่ที่ลดลงเรื่อย ๆ“
จากรายงานของ Electric Capital ฉบับล่าสุด ที่บ่งชี้กิจกรรมของนักพัฒนาทั่วทั้ง Web3 พบว่า จำนวนนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ยังคงมีอยู่ในเกณฑ์ที่ดี” Zhu กล่าว “แต่จำนวนนักพัฒนาใหม่ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกลับลดลงถึง 52% ในปี 2023”
การสนับสนุนให้มีการป้องกันทางไซเบอร์
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยังเรียกร้องให้มีการป้องกันทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อลดภัยคุกคามต่อสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยรวมถึงความท้าทายในวงกว้าง ก็เพื่อรับรองการขยายตัวของเทคโนโลยี web3 และสกุลเงินดิจิทัลอย่างปลอดภัย ภายใต้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศสิงคโปร์
Ong Chengyi จาก Chainalysis มองว่า web3 เป็นหัวใจสำคัญสำหรับการเติบโตในระยะยาว และการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ยั่งยืนจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของภาคส่วนนี้ ในการจัดการกับความเสี่ยงด้วยโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงได้
Ong กล่าวว่า “เราหวังว่าจะเห็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่มากขึ้น เพื่อสร้างเกราะป้องกันต่อการเกิดอาชญากรรมคริปโตของสิงคโปร์ และภัยคุกคามทางไซเบอร์โดยทั่วไป ผ่านการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด”
การส่งเสริมการป้องกันทางไซเบอร์โดย Angela Ang จาก TRM Labs เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสนับสนุนด้านกฎระเบียบ เพื่อผลักดันการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
Ang กล่าวว่า “เพื่อสร้างความชัดเจนให้แก่ธุรกิจในวงกว้าง ไม่ว่าจะผ่านการตัดสินใจ การออกใบอนุญาต หรือคำแนะนำในการดำเนินการ รัฐบาลจะต้องลงทุนทั้งในมนุษย์และเทคโนโลยี ตลอดกระบวนการกำกับดูแล”
ทั้งนี้ The Straits Times รายงานว่า Lawrence Wong รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของประเทศสิงคโปร์ จะมีการนำเสนองบประมาณปี 2024 ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ และเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป






