PEPE ทุบสถิติใหม่! พุ่งทะยาน 70% หลังขึ้นเทรดตลาดดัง

ราคาของ Pepe (PEPE) เหรียญมีมธีมกบเขียวชื่อดัง พุ่งขึ้นกว่า 70% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาในวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำสถิติสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบประมาณ 5 เดือน

การพุ่งขึ้นในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่แพลตฟอร์มเทรดชั้นนำของสหรัฐฯ อย่าง Robinhood และกระดานเทรดคริปโตชั้นนำอย่าง Coinbase ได้เปิดให้ซื้อขายโทเค็นนี้ครั้งแรกในวันที่ 13 พฤศจิกายน

การเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของมูลค่าตลาดคริปโตโดยรวม รวมถึง ราคา Bitcoin (BTC) ก็ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาของเหรียญนี้พุ่งสูงขึ้น

เหรียญมีมเริ่มได้รับการลิสต์เร็วยิ่งขึ้น

ในขณะที่ตลาดคริปโตเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้น แพลตฟอร์มต่างๆ ก็เริ่มเปิดให้ซื้อขายเหรียญมีมใหม่ๆ มากยิ่งขึ้นเช่นกัน

เช่นเดียวกับ Coinbase ที่เพิ่งเปิดให้ซื้อขาย PEPE ไป Binance กระดานเทรดคริปโตชั้นนำ ก็เพิ่งเปิดประกาศให้สามารถซื้อขายเหรียญมีมบนเครือข่าย Solana (SOL) อย่าง The AI Prophecy (ACT) และ Peanut the Squirrel (PNUT) ได้เช่นกัน

#Binance will list Act I : The AI Prophecy $ACT and Peanut the Squirrel $PNUT with Seed Tag Applied.

Read more 👉 https://t.co/CmJRyTaS8I pic.twitter.com/1XHISDTOY9

— Binance (@binance) November 11, 2024

โทเค็น ACT เป็นโปรเจกต์ที่ผสานรวมสกุลเงินคริปโตและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าด้วยกัน ส่วน PNUT เป็นโปรเจกต์ที่สร้างโดยใช้ตัวละครกระรอก “Peanut the Squirrel” มาเป็นธีม

การเปิดให้ซื้อขายในครั้งนี้ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาของโทเค็นพุ่งเป็นอย่างมาก โดยแต่ละโทเค็นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า +2700% และ +1400% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ตามลำดับ

เหรียญพรีเซลก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน

ในขณะที่เหรียญมีมที่ถูกลิสต์เริ่มได้รับความนิยม เหรียญที่กำลังอยู่ในช่วงพรีเซลก่อนที่จะลิสต์เข้าสู่กระดานเทรดแบบกระจายศูนย์ (DEXs) และกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (CEXs) ในอนาคตก็ระดมทุนได้เป็นอย่างมากเช่นกัน

เช่นเดียวกับ PEPE ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ในครั้งนี้ Pepe Unchained (PEPU) ที่มีธีมกบเขียวในร่างอัพเกรด ก็กำลังอยู่ในช่วงพรีเซลและได้ระดมทุนไปแล้วกว่า 28 ล้านดอลลาร์ ณ เวลาที่เขียนข่าวนี้

ตอนนี้ รอบพรีเซลเข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว โดยจะนับถอยหลังไปสิ้นสุดในวันที่ 13 ธันวาคม

นี่คือโปรเจกต์คริปโตใหม่ที่จะเปิดตัวเครือข่าย Layer 2 ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าบน Ethereum (ETH)

นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อโทเค็นในช่วงำรีเซลยังสามารถทำการ Staking เพื่อรับโทเค็นเพิ่มเติมได้อีกด้วย