วุฒิสมาชิก Lummis เสนอ ‘Bitcoin Act’ อีกครั้ง: สหรัฐฯ เตรียมซื้อ BTC 1 ล้านจริงหรือ?
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2025 วุฒิสมาชิก Cynthia Lummis ได้ยื่นเสนอร่างกฎหมาย ‘Bitcoin Act’ ในวุฒิสภาสหรัฐฯ อีกครั้ง โดยกฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายที่จะอนุญาตให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถซื้อ Bitcoin ได้สูงถึง 1 ล้าน BTC หากร่างกฎหมายผ่านการอนุมัติ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการนำ Bitcoin เข้าสู่กระบวนการทางเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ ก่อนหน้านี้เพียงไม่นาน ในวันที่ 6 มีนาคม 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศจัดตั้ง Strategic Bitcoin Reserve ผ่านคำสั่งบริหาร ซึ่งเป็นอีกเครื่องยืนยันถึงแผนการเสริมสร้างบทบาท Bitcoin ในระบบการเงินของประเทศ
โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อซื้อ Bitcoin ประมาณ 5% ของอุปทานทั้งหมด ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศอย่างมาก
กฎหมายเสนอให้ใช้กำไรสุทธิของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) และการออกใบรับรองใหม่สำหรับทองคำสำรองของ Federal Reserve โดยสะท้อนราคาตลาดปัจจุบันเป็นแหล่งเงินทุน
ใครจะเป็นผู้ดำเนินการ Bitcoin Act?
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (Treasury Secretary) จะประสานงานการได้มาซึ่ง Bitcoin และดูแลรักษากองทุนสำรอง
โดยกฎระเบียบของโครงการระบุว่า Bitcoin ที่เพิ่มเข้ามาในทุนสำรองจะต้องถูกถือไว้อย่างน้อย 20 ปี ก่อนที่จะสามารถขายได้ อีกทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทั้งในปัจจุบันและอนาคต จะถูกจำกัดให้ขาย Bitcoin ได้ไม่เกิน 10% ของทุนสำรองในช่วงเวลาใดๆ ที่ต่อเนื่องกันสองปี
ข้อกำหนดเหล่านี้สะท้อนถึงความตั้งใจในการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลระยะยาว ซึ่งไม่เพียงแต่เน้นย้ำถึงศักยภาพของ Bitcoin แต่ยังชี้ให้เห็นถึงโอกาสการลงทุนในเหรียญคริปโตอื่นๆ ที่มีศักยภาพที่น่าลงทุนระยะยาว
‘Bitcoin Act’ มีความสำคัญอย่างไร?
การเสนอ ‘Bitcoin Act’ อีกครั้งนี้ เป็นพัฒนาการที่สำคัญในการบูรณาการ Bitcoin เข้าสู่ระบบการเงินของสหรัฐฯ
วุฒิสมาชิก Lummis เป็นผู้สนับสนุน Bitcoin มาโดยตลอด มองว่าเป็นโอกาสทางเทคโนโลยี และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความเป็นผู้นำทางการเงินของอเมริกาในศตวรรษที่ 21
กฎหมายนี้พยายามที่จะใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของประเทศ ในขณะเดียวกันก็รักษาความสามารถในการแข่งขันในเศรษฐกิจโลก
นโยบาย Strategic Bitcoin Reserve ของ Trump มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร?
ทุนสำรอง Bitcoin เชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Bitcoin Reserve) เริ่มต้นจากคำสั่งพิเศษ (Executive Order) ที่ลงนามโดยประธานาธิบดี Trump ซึ่งทุนสำรองนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ Bitcoin ที่รัฐบาลยึดมา ซึ่งคาดว่าปัจจุบันมีจำนวน 198,109 BTC (อ้างอิง Bitcointreasuries.net) เพื่อสร้างทุนสำรองของประเทศ

ข้อแตกต่างจากนโยบาย Strategic Bitcoin Reserve คือหาก ‘Bitcoin Act’ นี้มีผลบังคับใช้ จะเป็นการกระตุ้นครั้งใหญ่ให้กับทุนสำรองนี้ โดยกำหนดให้สหรัฐฯ ซื้อ Bitcoin เพิ่มสูงสุด 1 ล้าน BTC
ในขณะที่มีจำนวน BTC ทั้งหมดกว่า 21 ล้านเหรียญ มีเพียงราว 3 ล้านเหรียญเท่านั้นที่ทราบเจ้าของและติดตามได้ (เช่น กองทุน ETFs, บริษัทต่าง ๆ และรัฐบาล) การที่สหรัฐฯ จะถือ Bitcoin จำนวน 1 ล้าน BTC จึงเทียบได้กับประมาณหนึ่งในสามของส่วนที่ติดตามได้ทั้งหมด และมีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในตลาดปัจจุบัน ซึ่งย่อมตอกย้ำบทบาทในฐานะผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่ที่สุดของโลกอย่างเป็นทางการอีกด้วย

สิ่งนี้จะไม่เพียงเพิ่มการถือครอง Bitcoin ของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความชอบธรรมให้กับทุนสำรอง Bitcoin เชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อประเทศอื่นๆ ให้ทำตาม
โดยสรุป การกลับมาของ ‘Bitcoin Act’ และความพยายามในระดับรัฐ แสดงให้เห็นถึงความพยายามร่วมกันในการวางตำแหน่ง Bitcoin เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย






