ค่าธรรมเนียมบน Ethereum ลดเหลือ $0.41 โดยเฉลี่ย หมายความว่า?

ข้อมูลจาก Santiment ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชนชื่อดัง เปิดเผยว่า ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum (ETH) ลดลงมาอยู่ที่ค่าเฉลี่ยเพียง $0.41 ต่อการทำธุรกรรม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
การที่ค่าธรรมเนียมลดลงนี้สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับค่าธรรมเนียมที่เคยพุ่งขึ้นสูงสุดถึง $15.21 ในรอบสองปีที่ผ่านมา โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจสะท้อนถึงสัญญาณบวกต่อแนวโน้มราคาของ ETH ในระยะยาว
ค่าธรรมเนียมต่ำชี้ถึงความแออัดในเครือข่ายที่ลดลง
ในอดีต ค่าธรรมเนียมที่ลดลงบนเครือข่ายอีเธอเรียมมักสะท้อนถึง “ความแออัดที่ลดลง” ซึ่งหมายความว่ามีผู้ใช้งานแข่งขันกันทำธุรกรรมน้อยลง
สถานการณ์เช่นนี้สามารถตีความได้ว่าเครือข่ายอยู่ในสถานะที่มั่นคง และมีศักยภาพต่อการเติบโตในระยะยาวนั่นเอง
ค่าธรรมเนียมที่ต่ำช่วยส่งเสริมการใช้งาน
Santiment ได้ชี้ว่า ค่าธรรมเนียมที่ต่ำลงช่วยลดอุปสรรคสำหรับผู้ใช้งานใหม่ และทำให้แอปพลิเคชันที่อยู่บนอีเธอเรียมเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นการยอมรับในวงกว้าง
“เมื่อค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของอีเธอเรียมอยู่ในระดับต่ำ แสดงให้เห็นว่าเครือข่ายไม่ได้มีความแออัดมากเกินไป ค่าใช้จ่ายที่ลดลงนี้สามารถดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น”
ค่าธรรมเนียมที่ลดลงมักเกิดขึ้นในช่วงที่ราคา ETH ถูกมองว่าอยู่ในแนวโน้ม “ขาลง” หรือ “ต่ำ” ซึ่งอาจช่วยเปิดโอกาสให้ตลาดฟื้นตัว เนื่องจากผู้ใช้งานใหม่สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ถูกกว่านั่นเอง
ในทางตรงกันข้าม ช่วงที่ค่าธรรมเนียมสูง มักจะสะท้อนถึงกิจกรรมในเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงที่ราคาพุ่งสูงขึ้นหรือมีการใช้งาน dApps (decentralized applications) เพิ่มขึ้น
แม้ว่ากิจกรรมที่เพิ่มขึ้นจะบ่งบอกถึงความต้องการที่แข็งแกร่ง แต่ค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไปก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ใช้งานบางส่วนถอยออกไป และนำไปสู่การปรับราคาลงในระยะสั้น
จากข้อมูลของ Santiment ค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้ใช้งานกลับมายังเครือข่าย ซึ่งช่วยเพิ่มการใช้งานโดยรวม และสร้างพื้นฐานให้กับการเพิ่มมูลค่าในอนาคต
การลดค่าธรรมเนียมในครั้งนี้บ่งชี้ว่า Ethereum อยู่ในช่วงที่กิจกรรมการทำธุรกรรมลดลง ซึ่งช่วยให้การโอนเงินทำได้ในต้นทุนที่ต่ำลง
และสถานการณ์นี้อาจสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มนักพัฒนา ตลาด NFT และแพลตฟอร์ม DeFi ซึ่งล้วนพึ่งพาค่าธรรมเนียมที่ไม่สูงเกินไปเพื่อการดำเนินงานในชีวิตประจำวัน
เมื่อพิจารณาจากรูปแบบค่าธรรมเนียมในอดีตของอีเธอเรียม การลดลงของค่าธรรมเนียมในลักษณะนี้มักเกิดขึ้นก่อนที่ราคาจะฟื้นตัว
นักเทรดและนักลงทุนระยะยาวมักจะมองช่วงเวลาดังกล่าวว่าเป็นโอกาสในการสะสม ETH โดยเฉพาะเมื่อเครือข่ายเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากขึ้น
การลดค่าธรรมเนียมลงเหลือ $0.41 ในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับระดับราคาที่พบในเดือนสิงหาคม 2024 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ ETH จะมีการปรับราคาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าค่าธรรมเนียมเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถกำหนดทิศทางราคาที่แน่ชัดได้ แต่ค่าธรรมเนียมก็ยังคงเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญต่อความเชื่อมั่นในตลาด
ปริมาณ Ethereum บน Exchange ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนแนวโน้มระยะยาวของ ETH คือปริมาณของ ETH ที่อยู่ใน Exchange ซึ่งลดลงอย่างรวดเร็ว
ขณะนี้ มีเพียง 6.38% ของปริมาณ ETH ทั้งหมดที่ยังคงอยู่ใน Exchange แบบรวมศูนย์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่อีเธอเรียมเริ่มต้นใช้งาน
แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนกำลังย้าย ETH ไปยังกระเป๋าเงินคริปโตแบบเย็น หรือ Cold Storage มากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะถือครองเหรียญในระยะยาว แทนที่จะขายออก
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ETH มีการขายชอร์ตในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยสัญญาฟิวเจอร์สบน Chicago Mercantile Exchange (CME) พุ่งขึ้นถึง 11,341 สัญญา
การเพิ่มขึ้นของสถานะ Short ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 40% ภายในสัปดาห์เดียว และสูงขึ้นถึง 500% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปีก่อน แสดงถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มระยะสั้นของ Ethereum






