Ethereum พุ่ง 3% หลัง EF ประกาศวันอัปเกรด Pectra บน Testnet

Ethereum ปรับตัวขึ้น 3% ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2025 หลังจาก Ethereum Foundation ประกาศวันอัปเกรด Pectra บน Testnet
หลังจากประกาศดังกล่าว Ethereum ได้ทดสอบระดับ 2,817 ดอลลาร์ โดยตัวชี้วัดทางเทคนิคแสดงสัญญาณกระทิงเล็กน้อย
Pectra ตัวเปลี่ยนเกมสำหรับ Ethereum?
Fxstreet รายงานว่าการอัปเกรด Pectra จะเกิดขึ้นบน Testnet Holesky และ Sepolia โดยมีกำหนดการในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และ 5 มีนาคม 2025 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามข้อตกลงในการประชุม All Core Developers Consensus (ACDC) เมื่อเร็ว ๆ นี้
หากการอัปเกรด Testnet เป็นไปตามแผน นักพัฒนาอาจตัดสินใจที่จะเปิดตัว Pectra บน Mainnet ในช่วงประมาณวันที่ 8 เมษายน 2025
- การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
การอัปเกรด Pectra ประกอบด้วย Ethereum Improvement Proposals (EIPs) จำนวน 11 รายการ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงกระเป๋าคริปโตธรรมดาหรือ Externally Owned Accounts (EOAs) ให้เป็นบัญชีอัจฉริยะ (Smart Account) ปรับปรุง Validator UX และการขยาย Blob เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการ Data Availability ของ Ethereum
- ผลกระทบต่อค่าแก๊ส
Validator ได้เพิ่มขีดจำกัดแก๊สของ Ethereum จาก 30 ล้านเป็น 36 ล้าน ซึ่งส่งผลให้ค่าธรรมเนียมถูกลงและมีธุรกรรมที่ล้มเหลวน้อยลงสำหรับผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม การลดแก๊สนี้ไม่ได้นำไปสู่ปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นบน Layer-1 อย่างที่คาดไว้
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: Ethereum เตรียมทะลุแนวต้านสำคัญ?

Ethereum พยายามที่จะทดสอบแนวต้านสำคัญของ Rectangular Channel ที่ 2,817 ดอลลาร์ใกล้กับเส้น Exponential Moving Average (EMA) 14 วัน
ตั้งแต่ตลาดร่วงลงเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2025 Ethereum ได้เผชิญกับแนวต้านที่สำคัญที่ 2,817 ดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง
การเคลื่อนไหวบริเวณแนวต้านที่สำคัญนี้อาจเปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้นของ Ethereum ไปสู่ Bullish Relative Strength Index (RSI) และ Stochastic Oscillator (Stoch) ที่ต่างเด้งออกจาก Moving Average Lines ที่เกี่ยวข้อง
ในขณะเดียวกัน เส้น Moving Average Convergence Divergence (MACD) กำลังทดสอบ Red Moving Average Line หลังจาก Histogram Bars ข้ามเหนือระดับ Neutral
ตัวชี้วัดเหล่านี้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยไปสู่แนวโน้มของตลาดกระทิง
Ethereum Pectra อนาคตของ DeFi
การอัปเกรด Pectra ไม่ได้เป็นเพียงการปรับปรุงทางเทคนิค แต่เป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตของ Ethereum ในฐานะแพลตฟอร์ม DeFi ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนยิ่งขึ้น
การปรับปรุง Validator UX และการขยาย Blob จะช่วยลดค่าธรรมเนียม เพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับแอปพลิเคชัน DeFi ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
การเปลี่ยนกระเป๋าคริปโตปกติเป็นบัญชีอัจฉริยะ (Smart Accounts) จะเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้งาน ทำให้สามารถควบคุมสินทรัพย์ของตนเองได้มากขึ้น และเข้าถึงฟังก์ชันการทำงานที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น การทำธุรกรรมแบบมีเงื่อนไข และการสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่ปรับแต่งได้






