วงในชี้ จีนตอบโต้มาตรการภาษีสหรัฐ อาจดันเงินเข้าตลาด Crypto & BTC

Arthur Hayes ชี้การตอบโต้ภาษีของจีนอาจผลักดันเงินทุนเข้าสู่ตลาด Crypto โดยเฉพาะ BTC นักลงทุนควรเตรียมรับมือ?
เมื่อความตึงเครียดทางการค้าทวีความรุนแรงขึ้น Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX แสดงความเห็นว่า Bitcoin และสินทรัพย์ crypto อื่น ๆ อาจได้รับประโยชน์จากสงครามการค้าในครั้งนี้อีกครั้ง
ในโพสต์บน X (เดิม Twitter) Hayes เสนอว่าการตอบโต้ของจีนต่อภาษีใหม่ของสหรัฐฯ อาจรวมถึงการลดค่าเงินหยวน ซึ่งจะเปิดประตูให้เกิดกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาด crypto ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ที่เคยหนุนการเติบโตของ Bitcoin ในช่วงที่เศรษฐกิจจีนเผชิญแรงกดดัน
Hayes ยกตัวอย่างจากวัฏจักรตลาดในอดีต ซึ่งการลดค่าเงินหยวนและความตึงเครียดทางการค้าเคยเป็นตัวเร่งให้เกิดการลงทุนใน BTC มาก่อน
Arthur Hayes ชี้: การลดค่าเงินหยวน หนุน BTC และ Crypto?
เมื่อไม่นานมานี้ สหรัฐฯ ได้เพิ่มแรงกดดันในสงครามการค้าด้วยการกำหนดภาษี 34% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทุกประเภท ส่งผลให้จีนตอบโต้ทันทีด้วยการเก็บภาษี 34% ในสินค้าอเมริกัน และประกาศว่าจะ “ต่อสู้จนถึงที่สุด”
การตอบโต้ทางเศรษฐกิจดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นโลกสั่นคลอน ขณะเดียวกันธนาคารกลางจีนเองก็ต้องปรับกลยุทธ์ทางการเงินเพื่อรองรับสถานการณ์
สำหรับ Arthur Hayes การลดค่าเงินหยวนดูจะเป็นทางเลือกที่ชัดเจนที่สุดที่จีนสามารถใช้เพื่อตอบโต้โดยไม่ยกระดับความขัดแย้งในทันที “อาวุธหลักของ Xi คือการใช้นโยบายการเงินอย่างอิสระ ซึ่งหมายถึงการจำเป็นต้องลดค่าเงินหยวน” Hayes กล่าว พร้อมระบุว่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี
Ben Zhou ซีอีโอของ Bybit ยังเสริมว่าการลดค่าเงินหยวนสอดคล้องกับแนวโน้มในอดีต และเคยเป็นปัจจัยที่ผลักดันความต้องการ Bitcoin ในหมู่นักลงทุนชาวจีนมาแล้ว
ตลาดที่แยกตัวออกมา และความผันผวนในโลก Crypto
ในขณะที่ความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจระดับมหภาคยังดำเนินอยู่ Bitcoin เองก็เผชิญกับความผันผวนอย่างหนักเช่นกัน
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคา BTC ปรับตัวลง 9.1% หลุดจากระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน และทดสอบแนวรับที่ $74,500 ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ราคาปิดต่ำกว่าแนวสำคัญที่ $78,500 ซึ่งไม่สามารถยืนเหนือ Bull Market Support Band ได้
Daan Crypto Trades ชี้ว่าแนวเทคนิคนี้เป็นตัวบ่งชี้สำคัญเกี่ยวกับโมเมนตัมของราคา โดยในแต่ละครั้งที่ Bitcoin ร่วงต่ำกว่าระดับนี้ในรอบนี้ ราคามักฟื้นตัวกลับมาภายในกรอบ 20% แต่หากไม่สามารถยืนกลับเหนือแนวดังกล่าวได้เร็ว ๆ นี้ อาจส่งผลให้ราคาปรับตัวลงอีก
นักวิเคราะห์ตลาดชื่อดัง Rekt Capital ยังตั้งข้อสังเกตว่าการปรับฐานในครั้งนี้ใกล้เคียงกับระดับการปรับตัวลง 33% หลังการ Halving ครั้งก่อน โดยตั้งแต่ Bitcoin ทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $108,786 ในเดือนมกราคม ราคาก็ลดลงมาแล้วประมาณ 31% เขาคาดว่าราคามีโอกาสลดลงสู่ระดับ $70,000 ก่อนจะถึงจุดต่ำสุด
การวิเคราะห์จากดัชนี RSI (Relative Strength Index) ก็สนับสนุนมุมมองขาลงนี้ โดย Rekt Capital ระบุว่าราคามักจะแตะจุดต่ำสุดในช่วง 0.3% ถึง 8.4% ต่ำกว่าระดับ RSI ที่ต่ำสุดในครั้งแรก ซึ่งอาจทำให้ราคาของ Bitcoin ลดลงถึง $69,000 หากเงื่อนไขเดิมเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง
นอกจากนี้ Rekt Capital ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการที่ BTC จะต้องกลับมายืนที่ระดับ $78,500 ให้ได้ เพื่อสร้างฐานฟื้นตัว
หากไม่สามารถทำได้และปิดรายวันต่ำกว่าระดับนี้ อาจเป็นสัญญาณว่าการปรับตัวลงจะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งอาจนำไปสู่การทดสอบระดับสูงสุดก่อนการ Halving ที่ $69,000 ถึง $72,000
แม้จะมีการปรับตัวลงล่าสุด แต่ Bitcoin ยังคงซื้อขายเหนือ $78,000 บนกราฟรายวัน (ลดลง 0.02%) ซึ่งหากสามารถยืนเหนือแนวรับได้ ก็อาจเป็นโอกาสสำหรับการฟื้นตัวในระยะสั้น
จีนมองหาโอกาสในช่วงวิกฤต
สำหรับจีน การยืนหยัดในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่สงครามเศรษฐกิจ แต่เป็นการแสดงถึงพลังและความยืดหยุ่น โดยรัฐบาลจีนย้ำผ่านแถลงการณ์และสื่อของรัฐว่าช่วงเวลานี้คือโอกาสในการเติบโตและสร้างความแข็งแกร่งมากกว่าความอ่อนแอ
ท่าทีดังกล่าวเพิ่มความเป็นไปได้ที่จีนจะยังคงใช้การลดค่าเงินหยวนเป็นอาวุธทางการเงินเพื่อรับมือกับแรงกดดันจากสหรัฐฯ และหากสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง ตามที่ Arthur Hayes คาดการณ์ Bitcoin ก็อาจกลายเป็นแหล่งพักพิงสำหรับผู้ที่ที่ต้องการหลีกเลี่ยงความผันผวนจากการลดค่าเงินอีกครั้ง






