Cantor Fitzgerald ซื้อหุ้น Tether เสริมแกร่งวงการ Stablecoin
ทำไมจึงไว้วางใจ Cryptonews
Cantor Fitzgerald บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินยักษ์ใหญ่ ได้เข้าซื้อหุ้น 5% ใน Tether บริษัทผู้ออก Stablecoin รายใหญ่ที่สุดในโลก ในดีลที่มีมูลค่าสูงถึง 600 ล้านดอลลาร์
การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมานี้ ทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะใช้อิทธิพลทางการเมืองผ่าน CEO Howard Lutnick ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของว่าที่ประธานาธิบดีที่พึ่งจะได้รับเลือกตั้งใหม่ของสหรัฐฯ อย่าง Donald Trump
Wall Street Journal รายงานเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนว่า การที่ Cantor Fitzgerald เข้ามาเกี่ยวข้องกับ Tether อาจจะช่วยเสริมสถานะของผู้ออก Stablecoin ท่ามกลางการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้นได้
Tether ยังคงเผชิญกับความขัดแย้ง
Tether กำลังเผชิญกับการสอบสวนอย่างต่อเนื่องจากสำนักงานอัยการสหรัฐฯ ประจำเขตทางตอนใต้ของนิวยอร์ก ในข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ USDT ในกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
ท่ามกลางปัญหาต่างๆ เหล่านี้ อิทธิพลทางการเมืองของ Lutnick อาจจะมีบทบาทสำคัญในการจัดการกับอุปสรรคด้านกฎระเบียบดังกล่าวได้
Giancarlo Devasini ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Tether ได้แสดงความมั่นใจในความสามารถของ Lutnick ในการ “คลี่คลายภัยคุกคามที่ Tether กำลังเผชิญอยู่” ตามแหล่งข่าวที่อ้างอิงใน WSJ
Lutnick ซึ่งกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Trump ในฐานะที่ปรึกษาด้านการเปลี่ยนผ่าน กำลังคัดเลือกผู้สมัครสำหรับตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐบาล ซึ่งบางตำแหน่งอาจจะส่งผลโดยตรงต่อการกำกับดูแล Tether ได้
มีการคาดการณ์ว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ Cantor Fitzgerald เมื่อได้รับการยืนยันจากวุฒิสภาในตำแหน่งคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว
Cantor Fitzgerald เป็นหนึ่งในพันธมิตรด้านการธนาคารรายใหญ่ของ Tether ในช่วงเวลาที่สถาบันการเงินหลายแห่งได้แยกตัวออกห่างจากผู้ออก Stablecoin
บริษัทได้ถือครองเงินทุนสำรองส่วนใหญ่ของ Tether ที่มีมูลค่า 1.34 แสนล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของ USDT ที่ตรึงมูลค่าอยู่กับสกุลเงินดอลลาร์
Lutnick ได้ออกมาปกป้องความมั่นคงทางการเงินของ Tether ต่อสาธารณะ และยังได้เน้นย้ำถึงประโยชน์ของ Stablecoin ที่ได้รับการสนับสนุนด้วยสกุลเงินดอลลาร์ในประเทศที่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูง เช่น อาร์เจนตินา ตุรกี และเวเนซุเอลา
นอกจากนี้ การที่ Cantor Fitzgerald เพิ่งเริ่มให้บริการปล่อยกู้ Bitcoin ตามที่ประกาศในงาน Bitcoin 2024 ยังแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมเพิ่มมากยิ่งขึ้นในวงการคริปโตอีกด้วย
Lutnick เปิดเผยแผนที่จะเปิดตัวโครงการปล่อยกู้ Bitcoin เป็นมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สินเชื่อแก่เหล่าผู้ถือ Bitcoin
ตลาด Stablecoin ยังคงไม่มีการควบคุมในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ตลาด Stablecoin ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 1.4 แสนล้านดอลลาร์ ยังคงไม่มีการควบคุมในสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด
เมื่อไม่นานมานี้ วุฒิสมาชิก Cynthia Lummis และ Kirsten Gillibrand ได้ร่วมมือกันเสนอร่างกฎหมายใหม่ที่มีจุดมุ่งหมายในการควบคุม Stablecoin
ภายใต้ร่างกฎหมายที่พวกเขานำเสนอ ผู้ออก Stablecoin จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านเงินสำรองและการดำเนินงาน รวมถึง การจัดตั้งบริษัทย่อยที่ทำหน้าที่ออก Stablecoin โดยเฉพาะ
ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ Stablecoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่อิงมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นวิธีการชำระเงินหรือการชำระบัญชี
การแปลงสินทรัพย์เป็นสกุลเงินดอลลาร์จะเป็นภาระผูกพันสำหรับผู้ออก และสินทรัพย์นี้จะไม่ถูกจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์
บริษัททรัสต์ที่ไม่รับฝากเงินที่จดทะเบียนกับคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ หรือสถาบันรับฝากเงินที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ออก Stablecoin สำหรับการชำระเงินระดับประเทศจะมีสิทธิ์เป็นผู้ออกได้ โดยมีทั้งหน่วยงานกำกับดูแลระดับรัฐและระดับประเทศคอยดูแลการดำเนินงานดังกล่าว
นอกจากนี้ คาดว่าสหราชอาณาจักรก็จะนำกฎระเบียบสำหรับ Stablecoin มาใช้งานภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ตามคำกล่าวของ Dante Disparte หัวหน้าฝ่ายนโยบายระดับโลกของ Circle
ในขณะเดียวกัน สิงคโปร์ได้ออกกฎหมายอย่างเป็นทางการสำหรับอุตสาหกรรม Stablecoin เรียบร้อยแล้ว
ข่าวเด่นห้ามพลาด
in numbers
