Circle ได้รับใบอนุญาตในการออก USDC และ EURC ภายใต้กฏ MiCA ในยุโรป

Circle กลายมาเป็นผู้ออก Stablecoin ระดับโลกรายแรกที่ได้รับใบอนุญาตสถาบันเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Money Institution หรือ EMI) ภายใต้กรอบกฎระเบียบ Markets in Crypto Assets (MiCA) ของสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ใบอนุญาต EMI ของ Circle ซึ่งออกโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการธนาคารของประเทศฝรั่งเศส อนุญาตให้ Circle ออกเหรียญ USDC และ EURC ได้ ซึ่งช่วยเสริมความสามารถในการยึดครองส่วนแบ่งในตลาดยุโรป

ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ Circle

Jeremy Allaire ซีอีโอของ Circle ได้ประกาศ

ถึงความพร้อมของบริษัทในการเปิดตัว Stablecoin ที่มีความสอดคล้องกับกฏระเบียบ MiCA ในยุโรปผ่านโพสต์บน X เขาอธิบายว่านี่เป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบการเงินแห่งโลกอินเทอร์เน็ตที่กำลังดำเนินอยู่ เขายังกล่าวด้วยว่า เพื่อให้วิสัยทัศน์นี้ดำเนินต่อไปได้ มันจะต้องการความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีบล็อกเชนและการจัดตั้งกรอบกำกับการดูแลในระดับโลก

BREAKING NEWS: @Circle announces that USDC and EURC are now available under new EU stablecoin laws; Circle is the first global stablecoin issuer to be compliant with MiCA. Circle is now natively issuing both USDC and EURC to European customers effective July 1st.

Details… pic.twitter.com/isNBumoi3e

— Jeremy Allaire – jda.eth (@jerallaire) July 1, 2024

กรอบการกำกับดูแล MiCA ซึ่งได้รับการอนุมัติจากสภายุโรปในเดือนเมษายน 2023 เป็นความพยายามที่จะสร้างมาตรฐานให้กับกฎระเบียบคริปโตอย่างครอบคลุมทั่วสหภาพยุโรป แนวทางการกำกับดูแลนี้เกิดขึ้นจากความกังวลด้านเสถียรภาพทางการเงินและการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเกิดขึ้นจากโปรเจกต์อย่าง Diem ของ Meta กรอบการกำกับดูแลของ MiCA ที่เริ่มใช้ไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนนั้นรวมไปถึง ข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ออกเหรียญ Stablecoin เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเต็มรูปแบบภายในสิ้นปี

Dante Disparte หัวหน้าฝ่ายนโยบายของ Circle เน้นย้ำถึงบทบาทของ MiCA ในการทำให้อุตสาหกรรมคริปโตถูกต้องตามกฎหมายไปพร้อมๆ กับการขจัดแหล่งหลบเลี่ยงด้านกฎระเบียบ Allaire ยังได้กล่าวถึงความเป็นปฏิปักษ์ในช่วงแรกของภาคการเงินกระแสหลัก และลักษณะเฉพาะของคอนเซปต์ของสกุลเงินดิจิทัลที่อิงมูลค่ากับสกุลเงินเฟียต

“MiCA เป็นทั้งข้อพิสูจน์ของอุตสาหกรรมและความยั่งยืนของมัน แต่ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าจะไม่มีทางลัดอีกต่อไป” เขากล่าว “วันที่คุณสามารถดำเนินการในแหล่งหลบเลี่ยงด้านกฎระเบียบหรือในเงามืดและคาดหวังว่าจะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคและผู้เล่นในตลาดได้อย่างเสรีและเปิดกว้างนั้นผ่านไปแล้ว”

MiCA Framework: ศักราชใหม่สำหรับ Stablecoins

Allaire ยังได้กล่าวเน้นย้ำถึงผลกระทบของ MiCA ที่มีต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อ Stablecoins กลายเป็นรากฐานสำคัญของตลาดเหล่านี้ การมี USDC และ EURC พร้อมใช้งานอยู่ภายใต้ระบบของ MiCA แสดงให้เห็นถึงความชัดเจนและเสถียรภาพด้านกฎระเบียบ

พัฒนาการนี้ทำให้ USDC กลายเป็นเหรียญ Dollar Stablecoin (เหรียญ Stablecoins ที่ตรึงมูลค่าไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ) ชั้นนำในสหภาพยุโรป และเป็นแบบอย่างให้กับเขตอำนาจศาลที่สำคัญอื่นๆ อาทิเช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ ฮ่องกง และบราซิล ในการนำกฎระเบียบที่คล้ายคลึงกันมาใช้งาน

ที่น่าสนใจก็คือ USDC ของ Circle นั้นมีปริมาณการทำธุรกรรมแซงหน้า USDT ของ Tether ไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ไล่ตามมาเป็นหนึ่งในเหรียญ Dollar Stablecoin ชั้นนำ

Allaire ยังได้มีการคาดการณ์ว่าจะมีการเร่งในการนำเอา Stablecoin ไปใช้งานทั่วโลกและแสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับการเติบโตที่อาจจะเกิดขึ้นในการนำเอาสกุลเงินยูโรดิจิทัลไปใช้งาน กรอบกฎระเบียบที่ชัดเจนสำหรับ Euro Stablecoins (เหรียญ Stablecoins ที่ตรึงมูลค่าไว้กับสกุลเงินยูโร) ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันในตลาด ช่วยให้ธนาคารและ EMI สามารถผสานรวมเหรียญเข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการของตนได้

การยอมรับนี้จะช่วยขยายขอบเขตประโยชน์การใช้งานของ Stablecoins ทั้งในเชิงพาณิชย์และการเงิน ซึ่งจะได้รับความสนใจอย่างมากจากทั้งองค์กร สถาบันการเงิน และบริษัทรับชำระเงินมากมาย

แม้ว่า MiCA จะทำให้เกิดความตื่นเต้นมากมาย แต่ผู้เล่นบางรายในอุตสาหกรรมก็ได้แสดงถึงความกังวลเช่นกัน Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether วิพากษ์วิจารณ์ถึงความซับซ้อนของ MiCA และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากการประกาศถอด USDT ออกจาก Bitstamp โดยกล่าวว่า มันอาจจะทำให้การดำเนินงานของผู้ออก Stablecoins ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น Binance เองก็ได้ปรับแนวทางของตนเช่นกัน โดยการจำกัดการเข้าถึง Stablecoins ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตในยุโรป ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถอดเหรียญเหล่านั้นทั้งหมดออกจากกระดานเทรดก็ตาม