สหรัฐฯ มุ่งสู่มหาอำนาจ Bitcoin ตามแผนกองทุนสำรอง BTC ของทรัมป์?

Bo Hines ยกให้สหรัฐฯ เป็น “Bitcoin Superpower” พร้อมเผยแผน BTC Reserve ของโดนัลด์ ทรัมป์
Bo Hines ซึ่งดำรงตำแหน่ง Executive Director ของคณะกรรมการที่ปรึกษาประธานาธิบดีว่าด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล (President’s Council of Advisers on Digital Assets) แสดงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯ กำลังก้าวขึ้นเป็น “มหาอำนาจบิทคอยน์” ระดับโลก โดยเขาได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในบทสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 29 เมษายนกับ Bitcoin Magazine
Bo Hines กับวิสัยทัศน์ “มหาอำนาจ BTC” ของสหรัฐฯ
การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ BTC ในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ cryptocurrency เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณไปทั่วโลก เกี่ยวกับทิศทางที่สหรัฐฯ เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของคริปโตเคอร์เรนซีในอนาคต ซึ่งการสนับสนุนจากนักการเมืองที่มีชื่อเสียงเช่น Hines และ Trump มีส่วนสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือและกระตุ้นการลงทุนใน BTC มากยิ่งขึ้น
Hines กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าเรากำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง และสหรัฐฯ กำลังจะเป็นศูนย์กลางอำนาจของ BTC ในระดับโลก” Hines ให้สัมภาษณ์กับสื่อดังกล่าว
Hines ซึ่งเคยเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลมาก่อน ยังได้กล่าวถึงคำสั่งบริหารที่ออกโดยประธานาธิบดี Donald Trump เมื่อวันที่ 23 มกราคม ซึ่งมีชื่อว่า “Strengthening American Leadership in Digital Financial Technology” โดยคำสั่งนี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนานวัตกรรมการเงินดิจิทัลของประเทศ นอกจากนี้ การจัดตั้งกองทุนสำรอง BTC เชิงกลยุทธ์ยังถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญในนโยบายด้านคริปโต
นอกจากนี้ Hines ยังแสดงท่าทีวิจารณ์การดำเนินงานของ U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) ที่เคยใช้วิธีการ “regulation-by-enforcement” กับอุตสาหกรรมบล็อกเชน โดยเขากล่าวว่า “อุตสาหกรรมนี้ต้องเผชิญกับการถูกใช้กฎหมายโจมตีมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอื่น ๆ” พร้อมเสริมว่า สิ่งที่วงการคริปโตสามารถทำได้ท่ามกลางอุปสรรคนั้น “นับว่าน่าทึ่งอย่างแท้จริง”
Bitcoin ฟื้นตัวจากความผันผวนครั้งล่าสุด
คำให้สัมภาษณ์ของ Hines เกิดขึ้นก่อนถึงเส้นตายวันที่ 5 พฤษภาคม ที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ต้องรายงานผลกระทบของกองทุนสำรอง BTC ต่อด้านกฎหมายและการลงทุน
เส้นตายดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากคำสั่งบริหารอีกฉบับที่ Trump ลงนามเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ซึ่งเขาให้คำมั่นว่าจะพัฒนากองทุนสำรอง BTC เชิงกลยุทธ์ รวมถึงการสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้มาจากการยึดทรัพย์ในคดีอาญาและการริบทรัพย์สินทางแพ่ง
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ราคา BTC ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมูลค่าของคริปโตเคอร์เรนซีรายนี้อยู่ที่ประมาณ $94,000-$96,000 แม้ว่าจะมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันพุธที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน BlackRock ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยกองทุน Bitcoin ETF แบบ Spot ที่ชื่อ iShares Bitcoin Trust (IBIT) โดยสามารถดึงเม็ดเงินไหลเข้าสูงถึงเกือบ $1 พันล้านในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายขึ้นภาษี “Liberation Day” ที่ Trump เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนนี้ก็ตาม
แม้ว่า IBIT จะประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจ แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ BTC ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายคริปโตครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
แม้ว่ารายละเอียดของแผนสำรองของ Trump ยังไม่ชัดเจน แต่คาดว่าจะมีการจัดสรร BTC ในงบประมาณของรัฐบาล และอาจมีการออกพันธบัตร BTC เพื่อระดมทุน การดำเนินการตามแผนนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคา BTC และตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวม
ผลกระทบต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซีและการยอมรับ BTC ในวงกว้าง
การดำเนินการตามแผนสำรอง BTC อาจกระตุ้นให้ประเทศอื่นๆ พิจารณาการถือครอง BTC เป็นสินทรัพย์สำรอง ซึ่งจะเพิ่มความต้องการในสินทรัพย์ดังกล่าว และส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นได้ ซึ่งการยอมรับ BTC ในวงกว้างอาจนำไปสู่การใช้งาน BTC ในชีวิตประจำวันมากขึ้น รวมถึงการชำระเงิน การลงทุน และการทำธุรกรรมอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของตลาดคริปโตอาจมาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงความผันผวนของราคา ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ นักลงทุนและผู้ใช้งานจึงควรตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้และทำการวิจัยอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนหรือใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลใดๆ
ลงทุนใน Bitcoin อย่างชาญฉลาดกับ BTC Bull Token

BTC Bull Token (BTCBULL) เป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการคริปโต โดยเฉพาะในช่วงที่ BTC มีแนวโน้มขาขึ้นในปี 2025 ความพิเศษของโครงการนี้อยู่ที่การมอบรางวัลให้กับผู้ถือโทเค็นในรูปแบบ BTC จริง ซึ่งช่วยดึงดูดนักลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความแตกต่างที่โดดเด่นของ BTC Bull Token คือการตั้งเป้าหมายมูลค่าของ BTC และมอบรางวัล BTC จริงเมื่อราคาถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้
ขณะนี้ BTC Bull Token สามารถระดมทุนได้กว่า $5.2 ล้านแล้ว โดยมีเป้าหมายเริ่มต้นคือการแจก BTC ให้กับผู้ถือโทเค็นเมื่อราคาของ BTC แตะระดับ $150,000 หลังจากนั้น รางวัลจะถูกปล่อยออกมาเมื่อราคาขยับขึ้นทีละ $50,000 เช่น $200,000, $250,000 และเป้าหมายในระดับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าราคาที่ตั้งไว้อาจดูห่างไกลจากความเป็นจริง แต่สถิติในอดีตชี้ให้เห็นว่า BTC มีศักยภาพที่จะทำลายสถิติเดิมได้ในอนาคต
โครงการนี้ได้สร้างชื่อเสียงในเรื่องของความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนมองว่าโครงการนี้น่าสนใจในตลาดที่มีความผันผวนสูง ระบบของ BTC Bull Token ออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับ Bitcoin Wallet โดยตรง
หมายความว่าผลตอบแทนที่ผู้ถือโทเค็นจะได้รับ จะถูกส่งไปยังกระเป๋าบิทคอยน์ในรูปแบบของ BTC จริง โดยกระเป๋าที่เราแนะนำได้แก่ Best Wallet เนื่องจากใช้งานง่าย และรองรับแอร์ดรอป BTC จากโครงการนี้โดยตรง
ซื้อ BTC Bull Tokenโดยสรุปแล้ว การประกาศของ Bo Hines เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ “มหาอำนาจ BTC” ของสหรัฐฯ และแผนสำรอง BTC ของ Donald Trump แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในศักยภาพของ BTC ในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน
การเคลื่อนไหวเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อตลาด crypto และการยอมรับ BTC ในวงกว้าง เหมือนที่เราเห็นได้จากความสำเร็จของ Presale ของ BTC Bull Token ซึ่งเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับ BTC
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนและผู้ใช้งานควรตระหนักถึงความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและใช้งาน BTC และทำการวิจัยอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเสมอ












