Bitcoin จ่อพุ่งต่อหลัง Trump เผยดีลการค้าสหรัฐฯ-จีนลุล่วง
ราคา Bitcoin (BTC) พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงเข้าใกล้การสร้างสถิติสูงสุดใหม่ (All-time high) หลังจาก Donald Trump อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่าข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้ข้อสรุปแล้ว ข่าวดังกล่าวได้จุดประกายความหวังและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
การเคลื่อนไหวของ Donald Trump มีผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญเสมอมา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์ที่ ราคา BTC ผันผวนจากนโยบายภาษีของทรัมป์ มาแล้วเช่นกัน
Trump ประกาศดีลการค้าสำเร็จ ดันราคา Bitcoin พุ่งแรง
Donald Trump ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า “ข้อตกลงของเรากับจีนเสร็จสิ้นแล้ว รอเพียงการอนุมัติขั้นสุดท้ายร่วมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” พร้อมระบุรายละเอียดว่าสหรัฐฯ จะได้กำแพงภาษีรวม 55% ในขณะที่จีนจะได้ 10%

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่เกือบ $110,300 ก่อนจะย่อตัวลงมาเล็กน้อยที่ $109,560

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนยังคงมองสถานการณ์ด้วยความระมัดระวัง โดย Iliya Kalchev นักวิเคราะห์จาก Nexo ชี้ว่าตลาดฟิวเจอร์สของ Wall Street กลับปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังข่าวนี้ ขณะที่ Raoul Pal ซีอีโอของ Global Macro Investor มองว่าการเจรจาที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียง “การแสดงท่าที” เพื่อให้ได้ข้อตกลงกับจีนแผ่นดินใหญ่ในท้ายที่สุด
วิเคราะห์ผลกระทบสงครามการค้าต่อ Bitcoin และตลาดทุน
ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนถือเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจมหภาคที่ใหญ่ที่สุดต่อตลาดหุ้นและตลาดคริปโตในปี 2025 ที่ผ่านมา การประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้กันส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างรุนแรง ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ราคา Bitcoin ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดของปีที่ $74,434 เพียง 5 วันหลังจาก Trump ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า ซึ่งส่งผลให้ดัชนี S&P 500 สูญเสียมูลค่าไปกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความผันผวนนี้ กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่หรือ Smart Money ก็กำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีการวิเคราะห์ว่า Bitcoin กำลังฟื้นตัวและมีแนวรับสำคัญที่น่าสนใจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัว
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนจากกำแพงภาษียังส่งผลกระทบต่อการลงทุนของกลุ่ม Venture Capital (VC) ในตลาดคริปโต โดยข้อมูลจาก Cointelegraph ระบุว่ายอดการลงทุนในเดือนพฤษภาคมลดลงสู่ระดับต่ำสุดของปี 2025 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการคลี่คลายของสงครามการค้าครั้งนี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้ Bitcoin และตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกลับมาคึกคักอีกครั้ง
นอกเหนือจากปัจจัยด้านสงครามการค้าแล้ว ปัจจัยด้านกฎระเบียบก็เป็นอีกเรื่องที่น่าจับตามอง โดยมีการวิเคราะห์ว่า กฎหมายโครงสร้างตลาดใหม่จะส่งผลดีต่อ Bitcoin และอาจช่วยปลดล็อกเงินทุนจำนวนมหาศาลให้ไหลเข้าสู่ตลาดได้
สรุป: ดีลการค้าสหรัฐฯ-จีน ปลดล็อกขาขึ้นรอบใหม่ของ Bitcoin?
การประกาศความสำเร็จของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนโดย Donald Trump ได้กลายเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยลดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค และส่งผลให้ราคา Bitcoin ดีดตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนกำลังจับตามองว่าแรงส่งนี้จะแข็งแกร่งพอที่จะผลักดันให้ Bitcoin ทะลุแนวต้านสำคัญและสร้างสถิติสูงสุดใหม่ได้สำเร็จหรือไม่ ซึ่งหากข้อตกลงนี้ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดกระทิงรอบใหม่ได้
เมื่อมองไปในอนาคต นักวิเคราะห์หลายคนมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาของ Bitcoin ในระยะยาว ซึ่งมี บทวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าราคา BTC อาจพุ่งสูงถึง $250,000 ภายในปี 2025 หากปัจจัยต่างๆ เอื้ออำนวย






บทความ Bitcoin ที่เกี่ยวข้อง
- วิธีซื้อบิทคอยน์ (Bitcoin)
- รีวิว 10 กระเป๋า Bitcoin อันไหนดีที่สุด
- แนวโน้มราคาบิทคอยน์
- วิธีซื้อบิทคอยน์ด้วย Credit Card
- คู่มือลงทุนบิทคอยน์ฉบับมือใหม่
- คริปโตกับบิทคอยน์ ต่างกันยังไง
- Strategic Bitcoin Reserves คืออะไร