Bitcoin ร่วง 10% จากแรงกดดันนโยบายภาษี – เทรดเดอร์แห่ขาย BTC

Bitcoin (BTC) ร่วงราว 10% สู่ระดับต่ำกว่า $75K! ตลาดสหรัฐฯ ผันผวนจากนโยบายทรัมป์ จับตาสถานการณ์และผลกระทบต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
ข้อมูลจาก Coinglass ระบุว่า มูลค่าการล้างพอร์ตในตลาดคริปโตสูงถึง 976 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมง โดยในจำนวนนี้ 842.2 ล้านดอลลาร์มาจาก long positions
BTC ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงสุดสัปดาห์ โดยร่วงลงกว่า 10% เหลือเพียงไม่ถึง 75,000 ดอลลาร์ สาเหตุหลักมาจากความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลก ที่เกิดขึ้นหลังจากการประกาศมาตรการภาษีใหม่โดยประธานาธิบดี Donald Trump ของสหรัฐฯ
การเทขายสินทรัพย์ที่เริ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อนส่งผลกระทบต่อดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ จนเกิดการปรับตัวลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 โดยผลกระทบดังกล่าวได้ลุกลามมาถึงตลาดคริปโตเช่นกัน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ราคา BTC มีการซื้อขายอยู่เหนือระดับ 80,000 ดอลลาร์มาอย่างต่อเนื่องในปี 2025 แต่ขณะนี้ได้ปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 75,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์
การร่วงของ Bitcoin เชื่อมโยงกับการเทขายหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก!
การปรับตัวลงครั้งนี้ทำให้ BTC ลดลงจากจุดสูงสุดในเดือนมกราคมถึง 31% นอกจากนี้ เหรียญคริปโตตัวอื่นก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน โดย Ethereum ร่วง 20% เหลือ 1,435 ดอลลาร์, XRP ลดลง 20% เหลือ 1.68 ดอลลาร์ และ Solana ปรับตัวลดลงกว่า 18% เหลือ 97.52 ดอลลาร์
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา BTC มีพฤติกรรมการเคลื่อนไหวราคาที่คล้ายคลึงกับหุ้นเทคโนโลยีมากขึ้น โดยมักจะเคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกับดัชนีอย่าง S&P 500 และ Nasdaq
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นักวิเคราะห์บันทึกความสัมพันธ์รายสัปดาห์ระหว่าง BTC และตลาดหุ้นไว้ที่ 0.88 ซึ่งบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ที่สูง แนวโน้มดังกล่าวยังคงปรากฏชัดในสัปดาห์นี้ เมื่อการเทขายใน Wall Street ที่เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าทั่วโลกดึงราคาของ BTC ลงไปด้วย
$77,500 is a critical support level in Bitcoin and if that fails, it should plunge sharply from there…$BTC $IBIT pic.twitter.com/G2GyFOHCv1
— Jesse Colombo (@TheBubbleBubble) April 7, 2025
ตลาดหุ้นฮ่องกงทรุดหนักที่สุด นับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008 เกิดอะไรขึ้น?
ความตึงเครียดในตลาดไม่ได้จำกัดอยู่เพียงสหรัฐฯ เท่านั้น เมื่อวันจันทร์ ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงร่วงลงกว่า 10% ในช่วงการซื้อขายเช้า ซึ่งถือเป็นการลดลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกในปี 2008
ตลาดหุ้นจีนก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน เนื่องจากประเทศต้องเผชิญกับภาษีจากสหรัฐฯ ที่สูงถึง 50% ในการตอบโต้ รัฐบาลปักกิ่งได้ประกาศมาตรการภาษีใหม่ต่อสินค้านำเข้าจากอเมริกาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าครั้งใหญ่ที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
Goldman Sachs ได้ปรับเพิ่มโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็น 45% ภายใน 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับคำเตือนจากธนาคารขนาดใหญ่อื่น ๆ
การล้างพอร์ตพุ่งสูง แต่มุมมองระยะยาวยังคงเป็นบวก
แม้สถานการณ์ในตลาดจะสร้างความตื่นตระหนก แต่ผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโตบางส่วนยังคงแสดงความมั่นใจ “ความผันผวนของราคาแบบนี้อาจสร้างความกังวลให้กับนักเก็งกำไร แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นเพียงเสียงรบกวนเท่านั้น” Gadi Chait ผู้จัดการการลงทุนจาก Xapo Bank กล่าว
“Bitcoin เป็นการลงทุนระยะยาวเสมอ คุณค่าของมันอยู่ที่ความเป็นอิสระ การกระจายศูนย์กลาง และจำนวนที่จำกัด ไม่ใช่การเคลื่อนไหวระยะสั้น เราเคยผ่านจุดนี้มาแล้ว และก็คงจะเจออีกในอนาคต แต่แนวโน้มระยะยาวของ BTC ยังคงชัดเจนและน่าเชื่อถือ”
อย่างไรก็ตาม สัญญาณความตึงเครียดในตลาดตราสารอนุพันธ์ (derivatives) ก็ปรากฏชัดเจน โดยข้อมูลจาก Coinglass เผยว่ามีการล้างพอร์ตในตลาดคริปโตสูงถึง 976 ล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดย long positions คิดเป็น 842.2 ล้านดอลลาร์จากยอดรวมทั้งหมด
ในช่วงเวลาดังกล่าว มีนักเทรดกว่า 318,000 คนถูกล้างพอร์ต ซึ่งสะท้อนถึงความเปราะบางของตลาดในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง
อย่างไรก็ตาม ฝั่งกระทิงยังคาดหวังว่านี่อาจเป็นเพียงการปรับฐานชั่วคราวในตลาดที่มีความแข็งแกร่งในระยะยาว
โดยสรุปแล้ว Bitcoin ประสบกับความผันผวนอย่างมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลก อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยังคงมองสถานการณ์นี้ในแง่ดีในระยะยาว






