10 อันดับ Crypto Wallet น่าใช้สำหรับมือใหม่ ปี 2025

Last updated:
Somchai Wang
หมวดหมู่ของนักเขียนท่านนี้
เกี่ยวกับนักเขียน

สมชายเป็นนักเขียนคอนเทนต์ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ในด้านคริปโต...

Last updated:
ทำไมจึงไว้วางใจ Cryptonews
เป็นเวลามากว่า 10 ปีที่ Cryptonews ได้รายงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเรา ทีมงานนักข่าวและนักวิเคราะห์ของเรามีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในด้านการวิเคราะห์ตลาดและเทคโนโลยีบล็อกเชน เรามุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานด้านบรรณาธิการให้อยู่ในระดับสูง โดยเน้นความถูกต้องของข้อเท็จจริงและการรายงานอย่างสมดุลในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นคริปโตเคอเรนซี โปรเจกต์บล็อกเชน งานอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือการพัฒนาเทคโนโลยี การที่เราอยู่ในอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ https://cryptonews.com/about-us/">อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cryptonews
การเปิดเผยโฆษณาเรามุ่งมั่นในการสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่กับผู้อ่านของเรา บางเนื้อหาในเว็บไซต์อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากความร่วมมือเหล่านี้

เทรดเดอร์ผู้มีประสบการณ์จะรู้ดีว่าควรเลือกเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนที่สุดอย่างไร แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการลงทุนเท่านั้น เพราะการมีกระเป๋าเงินคริปโตที่ปลอดภัยก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของเหรียญคริปโตใหม่ๆ ก็ทำให้กระเป๋าดิจิทัลกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน ทั้งในเรื่องของการเก็บรักษาสินทรัพย์ให้ปลอดภัย และการทำธุรกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ

บทความนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่ากระเป๋าคริปโต หรือที่หลายคนชอบเรียกกันว่ากระเป๋าดิจิทัล หรือ Crypto Wallet หรือ Bitcoin Wallet อันไหนดี อันไหนเหมาะกับมือใหม่ โดยจะแนะนำ Crypto Wallet ที่ดีที่สุด 10 อันดับแรก รวมถึงอธิบายว่า Crypto Wallet คืออะไร แล้วประเภทของกระเป๋าดิจิทัลที่มีอยู่ในตลาดมีอะไรบ้าง พร้อมทั้งให้คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับการตั้งค่ากระเป๋าคริปโตให้ปลอดภัย

10 อันดับกระเป๋าดิจิทัลที่ดีที่สุดในขณะนี้มีอะไรบ้าง:

  1. Best Wallet – หนึ่งใน Crypto Wallet ที่ดีที่สุดโดยรวม เหมาะสำหรับมือใหม่
  2. OKX – กระเป๋าเก็บเหรียญดิจิตอลที่ใช้งานง่ายพร้อมการรองรับ NFT และ DEX Aggregator
  3. Binance – กระดานแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมแอป Crypto Wallet ใช้ฟรี
  4. eToro – กระเป๋าคริปโตยอดนิยม ที่ได้รับการสนับสนุนจาก แพลตฟอร์มเทรดระดับโลก
  5. MetaMask – กระเป๋าเก็บเหรียญดิจิตอลที่ดีที่สุด สำหรับการรองรับ Multi-Chain
  6. Ledger – หนึ่งในก hardware wallet ที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่
  7. Coinbase Wallet – Crypto Wallet ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ พร้อมการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์
  8. Trust Wallet – ผู้ให้บริการที่มี Binance เป็นเจ้าของ ที่มีผู้ใช้มากกว่า 25 ล้านคน
  9. Crypto.com DeFi Wallet – DeFi Crypto Wallet ที่รองรับ NFT เต็มรูปแบบ
  10. Exodus – กระเป๋าเก็บเหรียญคริปโตยอดนิยม พร้อมอินเทอร์เฟซที่ปรับแต่งได้

1. Best Wallet – หนึ่งใน Crypto Wallet ที่ดีที่สุดโดยรวม เหมาะสำหรับมือใหม่

Best Wallet เป็นหนึ่งใน Crypto Wallet ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักเทรดมือใหม่ แม้จะเป็นผู้ให้บริการที่ค่อนข้างใหม่ในวงการ แต่ Best Wallet ก็ได้สร้างชื่อเสียงด้วยฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์และมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด

นอกจากจะรองรับจำนวนคริปโตกว่า 1,000 สกุลแล้ว ยังรองรับการทำงานแบบ Multi-chain ด้วย ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับหลายๆ เครือข่ายบล็อกเชนได้ เช่น Ethereum และ Binance Smart Chain ทำให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการสินทรัพย์คริปโตที่หลากหลายได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึง dApps ได้หลายพันรายการ รวมถึงการ stake คริปโตได้ง่ายๆ

Best Wallet

อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Best Wallet ก็คือแชทบอท AI อัจฉริยะ ที่ช่วยให้การโต้ตอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตลาดคริปโต รวมถึงสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับวิธีการใช้ฟังก์ชันต่างๆ ของกระเป๋าดิจิทัลได้อย่างครอบคลุม

Best Wallet มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มแข็ง รวมถึงการรับรองความถูกต้องแบบ Multi-factor มีโปรโตคอลการเข้ารหัสขั้นสูง และการระบุตัวตนแบบไบโอเมตริก เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บ ส่ง และรับเหรียญโทเค็น รวมถึง NFT ได้อย่างปลอดภัย

ยิ่งไปกว่านั้น Best Wallet ยังมี Utility Token ของตัวเองชื่อว่า $BEST โดยผู้ที่เป็นเจ้าของสามารถ stake $BEST เพื่อรับรางวัลพิเศษมากมาย และไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแก๊ส ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ทำการโอนเหรียญเป็นประจำ

โดยรวมแล้ว ฟีเจอร์ที่ทันสมัยและการผสมผสานการทำงานของ AI ทำให้ Best Wallet เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนคริปโตทั่วโลก คุณสามารถลงทะเบียนกับ Best Wallet ได้แล้ววันนี้ เพื่อเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานกลุ่มแรกๆ ที่จะสามารถเข้าถึงกระเป๋าดิจิทัลนี้ได้ทันทีที่เปิดตัว

2. OKX – กระเป๋าคริปโตที่ใช้งานง่าย รองรับ NFT และ DEX Aggregator

OKX คือหนึ่งในกระเป๋าคริปโตยอดนิยมที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมในการใช้งาน Web3 ด้วยประโยชน์มากมาย เช่น การจัดเก็บสินทรัพย์คริปโต การรองรับ NFT และการใช้กระดานแลกเปลี่ยนแบบ Decentralized (DEX)

OKX รองรับการเชื่อมต่อข้ามเครือข่ายจากมากกว่า 50 เครือข่าย เช่น Ethereum, Polygon, Avalanche และ OKTC โดยมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่ ไม่มีการใช้ศัพท์เฉพาะที่ซับซ้อน

กระเป๋าดิจิทัล OKX สามารถใช้งานได้ดีกับอุปกรณ์หลากหลายประเภท ดาวน์โหลดได้ฟรีบนสมาร์ทโฟน iOS และ Android รวมถึงคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows และ MacOS โดยฟีเจอร์ของกระเป๋าเงินจะซิงค์กับทุกอุปกรณ์ ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนจากอุปกรณ์หนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งได้อย่างสะดวกสบาย

OKX

นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนใน NFT OKX ก็เป็นหนึ่งใน Crypto Wallet ชั้นนำ เนื่องจากมีแพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์รวม NFT แบบครบวงจร รองรับเครือข่ายมากกว่า 11 เครือข่าย ให้บริการสร้างและเทรดฟรี และมีคอลเลกชันที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก เช่น DeGods และ Bored Ape Yacht Club (BAYC)

นอกจากการค้นหา NFT แล้ว ยังสามารถรับผลตอบแทนจากสินทรัพย์ผ่านฟีเจอร์ Earn ซึ่งมีหมวดหมู่ย่อยต่างๆ เช่น Save และ Farm โดยฟีเจอร์นี้ใช้โปรโตคอล DeFi เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ถือ ETH สามารถรับผลตอบแทน (APY) ได้มากกว่า 5%

อีกอย่างที่น่าสนใจคือ OKX มี DEX และบริการบริดจ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับโทเค็นข้ามบล็อกเชนได้ทันที ด้วยความสามารถนี้ OKX จึงเป็นหนึ่งใน Crypto Wallet ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

ในส่วนของค่าธรรมเนียม จะขึ้นอยู่กับปริมาณการซื้อขายภายใน 30 วัน ยิ่งซื้อขายไปมาก ค่าธรรมเนียมก็จะยิ่งถูก

3. Binance – กระดานแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมแอป Crypto Wallet ใช้ฟรี

Binance เป็นตลาดแลกเปนคริปโตเคอเรนซี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองรับปริมาณการเทรดรายวันมากกว่า 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าดิจิตอลที่เชื่อมโยงกับ BNB Chain ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนของ Binance ด้วย

Binance แตกต่างจากวอลเลทคริปโตชั้นนำอื่นๆ และมีโครงสร้างเป็นส่วนขยายเบราว์เซอร์ ผู้ใช้งานจึงสามารถดาวน์โหลดบน Google Chrome และแพลตฟอร์มชั้นนำอื่นๆ ได้ฟรี ทำให้ผู้ใช้งาน Binance สามารถจัดเก็บและถือครองเหรียญของตัวเองได้บน BNB Chain และ Ethereum

Binance

Binance มาพร้อมแอป Crypto Wallet ฟรี และเนื่องจากวอลเลทนี้เชื่อมต่อกับกระดานแลกเปลี่ยน Binance ผู้ใช้จึงสามารถโอนเหรียญข้ามไปมาได้ทันที ทั้งยังรองรับคริปโตเคอเรนซี่มากกว่า 350 สกุล และยังอนุญาตให้ซื้อคริปโตได้ทันที โดยใช้การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือบัตรเครดิต/เดบิต โดยมีค่าธรรมเนียมถูกเป็นพิเศษ เช่นเมื่อซื้อ Bitcoin จะมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายอยู่ที่ 0.1% เท่านั้น

นอกจากนี้ Binance ยังเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ซื้อขายบ่อย เนื่องจากสามารถตั้งค่าคำสั่งซื้อล่วงหน้าซ้ำๆ ในช่วงเวลาที่ต้องการได้ แถมยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถส่งและรับคริปโตด้วย QR Code ได้ในทันที ซึ่งเหมาะกับมือใหม่ เพราะช่วยลดความเสี่ยงในการใช้แบบผิดๆ และลดการสูญเสียเงินได้

4. eToro – กระเป๋าคริปโตยอดนิยม ที่ได้รับการสนับสนุนจาก แพลตฟอร์มเทรดระดับโลก

eToro เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีฐานลูกค้ามากกว่า 28 ล้านราย จุดเด่นของ eToro มาจากโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่คุ้มค่า และมีทางเลือกสินทรัพย์คริปโตเคอเรนซี่กว่า 80 รายการ

eToro Money เป็นกระเป๋าดิจิทัล XRP ที่รองรับเหรียญและโทเค็นมากกว่า 120 เหรียญ สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีบนอุปกรณ์ iOS และ Android อินเทอร์เฟซของกระเป๋าเงินนี้เรียบง่ายและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นในตลาดคริปโต

eToro จะจัดเก็บเหรียญของผู้ใช้งานไว้ในที่เก็บข้อมูลที่เรียกว่า Hot Storage ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้ eToro ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม รวมถึงคีย์ส่วนตัวที่ไม่สามารถสูญหายได้ ผู้ใช้งานสามารถกู้คืนการถือครองกระเป๋าเงินได้หากข้อมูลการเข้าสู่ระบบสูญหาย

นอกจากนี้ยังใช้ฟีเจอร์แลกเปลี่ยนภายในกระเป๋าเงิน eToro ที่ผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยนเหรียญและโทเค็นได้ทันทีภายในกระเป๋าเงินโดยตรง เช่น หากต้องการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ใหม่ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการกดเพียงไม่กี่ปุ่ม โดยไม่ต้องใช้แอปเทรดของ eToro

eToro

คุณสามารถซิงค์กระเป๋าคริปโต eToro เข้ากับอุปกรณ์ทั้งหมดได้ เพื่อความสะดวกในการจัดการสินทรัพย์คริปโตบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต นอกจากนี้ eToro ยังใช้กระเป๋าเงิน ERC20 ที่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับสูง เช่น การป้องกัน DDoS และโปรโตคอลมาตรฐานขั้นสูง

ทั้งนี้ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล แต่ค่าใช้จ่ายที่ผู้ใช้งานต้องจ่ายคือค่าธรรมเนียมเครือข่าย ซึ่งถูกเรียกเก็บโดยบล็อกเชนที่เกี่ยวข้อง ค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามระดับความแออัดของเครือข่าย ดังนั้นควรคำนึงถึงเรื่องนี้ก่อนทำการโอนทุกครั้ง

ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง และไม่มีค่าธรรมเนียม ทำให้ eToro เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป รวมถึงมือใหม่

5. MetaMask – กระเป๋าเก็บเหรียญดิจิตอลที่ดีที่สุด สำหรับการรองรับ Multi-Chain

หนึ่งในกระเป๋าดิจิทัลที่น่าสนใจมากที่สุดคือ MetaMask ซึ่งมีผู้ใช้งานมากกว่า 30 ล้านคนทั่วโลก คริปโตวอลเลทนี้ทำหน้าที่เป็น “ประตู” เข้าสู่โลก Web3 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง dApps ได้นับพัน รวมถึงสามารถจัดเก็บ NFT และมีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มเกมต่างๆ ได้ด้วย

หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ MetaMask คือการรองรับเครือข่ายหลายประเภท เช่น Ethereum, BNB Chain, Avalanche และ Polygon นอกจากนี้ กระเป๋าคริปโตนี้ยังสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีและรองรับทั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์และแอปสมาร์ทโฟน

MetaMask มีฟีเจอร์กระดานแลกเปลี่ยนโทเค็นที่ช่วยให้คุณค้นพบสินทรัพย์ใหม่ได้ง่ายดาย นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถซื้อ จัดเก็บ และแลกเปลี่ยนเหรียญได้ทันทีผ่านกระเป๋าคริปโตดังกล่าว

MetaMask

MetaMask มาพร้อมกับเบราว์เซอร์ DeFi ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จาก dApps และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

MetaMask ให้ตัวเลือก “การจัดการด้วยตนเอง” ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานสามารถควบคุมคีย์ส่วนตัวของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์กลาง

จึงไม่น่าแปลกใจที่หนึ่งในสุดยอด crypto wallet คือ MetaMask ซึ่งเป็นกระเป๋าคริปโตแบบ decentralized ที่ดีที่สุด แถมยังไม่จัดเก็บข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับกระเป๋าเงิน ลดความเสี่ยงจากการถูกแฮ็ก

ส่วนค่าธรรมเนียมในการซื้อสินทรัพย์อย่าง Bitcoin จะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ เช่น หากซื้อด้วยบัตรธนาคารจะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 3%

6. Ledger – หนึ่งใน hardware wallet ที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่

Ledger เป็นกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นกระเป๋าดิจิทัลที่ปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บคริปโตเคอเรนซี่หรือ NFT เนื่องจากใช้ระบบ “Cold Storage” ซึ่งหมายความว่าคีย์ส่วนตัวของผู้ใช้งานจะถูกเก็บไว้แบบออฟไลน์ และปลอดภัยจากภัยคุกคาม

กระเป๋าเงินนี้มีให้เลือก 2 ประเภท ได้แก่ Ledger Nano X และ Ledger Nano S Plus แบบแรกมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่ได้มีเพียงฟังก์ชัน USB เท่านั้น แต่ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่าน Bluetooth ได้อีกด้วย แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบใด กระเป๋าเงิน Ledger ก็รองรับสินทรัพย์คริปโตได้มากกว่า 5,500 รายการ และอนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน และ stake เหรียญได้อย่างง่ายดาย

Ledger

นอกจากนี้ยังมีแอป Ledger Live ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานจัดการคริปโตของตัวเองได้แบบ “ออนไลน์” ในขณะที่ยังใช้ประโยชน์จากกระเป๋าดิจิทัลแบบ Cold Storage อยู่

แอปนี้สามารถตรวจสอบยอดคงเหลือได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงติดตามประวัติการทำธุรกรรม และเข้าถึงโอกาสการ stake ได้ด้วย

ส่วนค่าธรรมเนียมในการซื้อเหรียญคริปโตยอดฮิตอย่างบิทคอยน์ จะขึ้นอยู่กับกระดานแลกเปลี่ยนที่ใช้

7. Coinbase Wallet – Crypto Wallet ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ พร้อมการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์

Coinbase เป็นหนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้ด้วยคริปโตเคอเรนซี่ เนื่องจากมีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัย การเลือกสินทรัพย์ และการได้รับอนุมัติตามกฎระเบียบ

นอกจากนี้ Coinbase ยังมีกระเป๋าดิจิทัลที่ใช้งานได้ฟรีบนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือส่วนขยายของ Google Chrome เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจัดการสินทรัพย์ได้อย่างสะดวกง่ายดาย

Crypto Wallet นี้เป็นกระเป๋าเงินที่ผู้ใช้งานจัดการได้ด้วยตนเอง ผู้ใช้จะสามารถควบคุมทรัพย์สินได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังรองรับเหรียญมากกว่า 100,000 เหรียญ และเป็นกระเป๋าคริปโตสำหรับการจัดเก็บ Ethereum และ Polygon NFT ไว้ในที่เดียวกันได้อย่างปลอดภัย

Coinbase Wallet

Coinbase เพิ่มระดับความปลอดภัยโดยการเปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองขั้นตอน (2FA) และการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ นอกจากฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยแล้ว กระเป๋าเงินยังทำหน้าที่เป็นกระดานแลกเปนคริปโตบนมือถือ ผู้ใช้งานสามารถซื้อและขายเหรียญได้ทันที โดยใช้บัตรเครดิตหรือเดบิต และยังสามารถถอนเงินไปยังบัญชีธนาคารภายนอกได้อีกด้วย

เนื่องจากกระเป๋าเงิน Coinbase ให้การเข้าถึงเว็บแบบ decentralized ผู้ใช้จึงสามารถใช้ประโยชน์จากแอป DeFi ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น การใช้กองทุนเพื่อสภาพคล่องสำหรับสร้างผลตอบแทน หรือแม้แต่การมีส่วนร่วมใน DAO ซึ่งโดยรวมแล้วถือเป็นกระเป๋าคริปโตที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคดิจิทัลอย่างมาก

สำหรับการซื้อ Bitcoin จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 0.3% สำหรับธุรกรรมบน DEX

8. Trust Wallet – ผู้ให้บริการที่มี Binance เป็นเจ้าของ ที่มีผู้ใช้มากกว่า 25 ล้านคน

Trust Wallet เป็นกระเป๋าคริปโตที่มี Binance เป็นเจ้าของ สนับสนุนบล็อกเชนมากกว่า 40 รายการ รวมถึงคริปโตเคอเรนซี่มากกว่า 160,000 รายการ กระเป๋าคริปโตนี้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานกว่า 25 ล้านคน และถูกออกแบบมาเพื่อปรับปรุงกระบวนการซื้อ การขาย และการจัดเก็บสำหรับผู้เริ่มต้น

ผู้ใช้งาน Trust Wallet สามารถสำรองและกู้คืนบัญชีได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ Recovery Phrase นอกจากนี้ กระเป๋าดิจิทัลนี้จะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน และสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีบนอุปกรณ์ Android หรือ iOS

Trust Wallet

อีกคุณสมบัติที่น่าดึงดูดของกระเป๋าดิจิทัลชั้นนำอย่าง Trust Wallet คือความง่ายในการใช้งาน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อคริปโตได้ทันทีโดยใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตภายในแอป

สำหรับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมซื้อบิทคอยน์จะอยู่ที่ 0.1% เท่านั้น และกระเป๋าเงินยังมีฟีเจอร์กระดานแลกเปลี่ยนโทเค็นและโปรโตคอลการรับรายได้ เป็นการช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากการถือครองคริปโตที่ไม่ได้ใช้ได้

เช่นเดียวกับกระเป๋าดิจิทัลชั้นนำหลายๆ ตัว Trust Wallet ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง NFT และ dApps ได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการจัดเก็บ NFT และการตรวจสอบ dApps รวมถึงเกมที่ใช้บล็อกเชนด้วยกัน ซึ่งมอบความปลอดภัยและความมั่นคงแก่ผู้ใช้

9. Crypto.com DeFi Wallet – DeFi Crypto Wallet ที่รองรับ NFT เต็มรูปแบบ

Crypto.com เป็นหนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตอันดับต้นๆ ของโลก และมีแอปกระเป๋าเงิน DeFi ฟรีของตัวเอง โดย Crypto.com นี้เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-custodial และสามารถดาวน์โหลดได้บนแอปสมาร์ทโฟน หรือส่วนขยายเบราว์เซอร์ ที่รองรับเหรียญมากกว่า 700 เหรียญ และเข้าถึงเครือข่ายบล็อกเชนได้ 20 เครือข่าย

Crypto.com เป็นกระเป๋าคริปโต DeFi ที่รองรับ NFT อย่างเต็มรูปแบบ กระเป๋าเงินนี้มุ่งเน้นไปที่การเงินแบบ Decentralized เป็นหลัก ผู้ใช้สามารถเรียกดู dApps และเพิ่มการถือครองคริปโตได้สูงสุด โดยใช้โปรโตคอล lending หรือ yield farming

Crypto.com DeFi Wallet

ในส่วนของ NFT Crypto.com ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูและแชร์สินทรัพย์ดิจิทัลของตัวเองบนโซเชียลมีเดียได้ นอกจากนี้ กระเป๋าเงิน DeFi ของ Crypto.com ยังสามารถเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ Ledger ซึ่งเพิ่มการป้องกันอีกชั้นสำหรับการทำธุรกรรม และการโต้ตอบกับ dApps

การเลือกกระเป๋าดิจิทัลที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การจัดการคริปโตเคอเรนซี่ของคุณเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ Crypto.com ถือเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มองหากระเป๋าคริปโตดีๆ สักตัวที่มีค่าธรรมเนียมไม่แพง โดยค่าธรรมเนียมในการซื้อ Bitcoin อยู่ที่ 0.4% ต่อธุรกรรม

10. Exodus – กระเป๋าเก็บเหรียญคริปโตยอดนิยม พร้อมอินเทอร์เฟซที่ปรับแต่งได้

Exodus เป็นแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บและจัดการคริปโตเคอเรนซี่ รวมถึง NFT ได้มากกว่า 260 รายการ กระเป๋าดิจิทัลนี้รองรับหลายเครือข่าย เช่น Solana, Ethereum และ BNB Chain เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานบนเครือข่ายเหล่านี้เป็นประจำ

นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานฟังก์ชั่นการซื้อคริปโตได้ทันที ผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต และการโอนเงินผ่านธนาคาร ทำให้การลงทุนในคริปโตเป็นเรื่องง่ายๆ รวมถึงสามารถถอนเงินไปยังบัญชีธนาคารภายนอก หรือบัญชี PayPal ของผู้ใช้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ทั้งนี้สำหรับการซื้อ BTC จะมีค่าสเปรด + ค่าธรรมเนียมดำเนินการ 2%

Exodus

ที่น่าสนใจคือ Exodus อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นหนึ่งเป็นอีกโทเค็นหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการ KYC อย่างละเอียด

กระเป๋าเงิน Exodus มีอินเทอร์เฟซที่สวยงามและสามารถปรับแต่งธีมและสกินได้หลากหลาย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนตามความชอบได้ อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ของ Trezor เพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์คริปโตของผู้ใช้

นอกจากนี้ Exodus ยังให้การเข้าถึงโลกของ DeFi ด้วย ผู้ใช้งานจึงสามารถสร้างผลตอบแทนจากสินทรัพย์คริปโตของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กระเป๋าคริปโตคืออะไร


กระเป๋าคริปโต หรือกระเป๋าดิจิทัล หรือ crypto wallet คือโปรแกรมซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บ จัดการ และโอนคริปโตเคอเรนซี่ เช่น BTC และ ETH ได้อย่างปลอดภัย

กระเป๋าเงินเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นประตูเข้าสู่ตลาดคริปโต ช่วยให้ผู้ถือสินทรัพย์สามารถถือครองสินทรัพย์คริปโตได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว มีหลายประเภทให้เลือกใช้ เช่น กระเป๋าเงิน Hot และ Cold ซึ่งมีระดับความปลอดภัยและฟังก์ชันที่แตกต่างกัน

สิ่งสำคัญคือทุกกระเป๋าเงินจะมีคีย์สาธารณะและคีย์ส่วนตัว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพิสูจน์ความเป็นเจ้าของและการส่งหรือรับเงินคริปโตอย่างปลอดภัย

กระเป๋าคริปโตคืออะไร

ตามรายงานของ TripleA พบว่ามีผู้คนมากกว่า 420 ล้านคนทั่วโลกที่เป็นเจ้าของคริปโต โดยส่วนใหญ่อยู่อาศัยในเอเชียและอเมริกาเหนือ ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นทุกเดือน ส่งผลให้ความสำคัญของการใช้กระเป๋าดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นนี้ยังขาดการควบคุมอยู่ เมื่อเทียบกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิม

Crypto Wallet จึงมีหน้าที่สำคัญในการจัดเก็บคริปโตอย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องเก็บไว้ในบัญชีแลกเปลี่ยนหรือผ่านโบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์

ทำให้กระเป๋าคริปโตเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการจัดการสินทรัพย์คริปโตของคุณนั่นเอง

ทำไมต้องใช้กระเป๋าดิจิทัล


การเลือกใช้กระเป๋าคริปโตที่ดีที่สุดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เริ่มต้นในการเทรดคริปโตเคอเรนซี่ กระเป๋าเงินเหล่านี้ทำหน้าที่ในการจัดเก็บ ส่ง และรับคริปโตอย่างปลอดภัย ซึ่งเปรียบเสมือน “บัญชีเงินฝากคริปโต” ของคุณ

เทรดเดอร์จำเป็นต้องมีกระเป๋าเงินดิจิทัลที่สามารถเก็บคีย์ส่วนตัวได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากคีย์ส่วนตัวเป็นวิธีเดียวที่บุคคลอื่นสามารถเข้าถึงเงินทุนของคุณได้

ทั้งนี้ การซื้อขายควรทำผ่านผู้ให้บริการกระเป๋าเงินที่มีชื่อเสียงเท่านั้น กระเป๋าเงินคริปโตช่วยให้การชำระเงินด้วยคริปโตเป็นเรื่องง่าย ซึ่งมีความสำคัญต่อการซื้อสินค้าและบริการออนไลน์

ทำไมต้องใช้กระเป๋าดิจิทัล

คุณสมบัติที่สำคัญของกระเป๋าเงินดิจิทัลคือช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมทรัพย์สินดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากคริปโตเคอเรนซี่มีการจัดการแบบ decentralized จึงไม่ต้องผ่านคนกลาง เช่น ธนาคาร การมีกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบ Self-custody จะมั่นใจได้ว่าคุณเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณเท่านั้น

กระเป๋าคริปโตมีความสำคัญต่อการเข้าถึงตลาดคริปโต เนื่องจากกระเป๋าเงินคริปโตส่วนใหญ่ออนไลน์อนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อหรือขายคริปโตได้ทันทีภายในกระเป๋าเงิน นอกจากนี้ ผู้ให้บริการหลายรายยังสนับสนุนโปรโตคอล NFT และ DeFi ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ในการลงทุนและทำให้การเข้าถึงตลาดคริปโตเป็นเรื่องง่าย

กระเป๋าเก็บเหรียญคริปโตทำงานอย่างไร?


เชื่อว่าทุกคนต้องการลงทุนในเหรียญคริปโตที่มีศักยภาพการเติบโตสูงหรือมีประวัติมั่นคง ดังนั้น การเข้าใจวิธีการทำงานของกระเป๋าคริปโตจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าบัญชีจะถูกเก็บไว้ที่ใด การใช้กระเป๋าคริปโตจะช่วยปกป้องสินทรัพย์คริปโตจากการโจมตีทางไซเบอร์และผู้ไม่ประสงค์ดี

วิธีที่ง่ายที่สุดในการดูแลกระเป๋าดิจิทัลคือการปกป้องด้วยคีย์สาธารณะและคีย์ส่วนตัว ดังนี้:

  • คีย์สาธารณะ: เปรียบเสมือนหมายเลขบัญชีของกระเป๋าเงิน ใช้รับเงินจากบุคคลหรือธุรกิจอื่น
  • คีย์ส่วนตัว: เป็นรหัสตัวอักษรและตัวเลขที่ไม่ซ้ำกันสำหรับกระเป๋าเงินแต่ละใบ ใช้พิสูจน์ความเป็นเจ้าของ เปรียบเสมือนรหัสผ่านที่ไม่ควรแชร์ให้ผู้อื่นรู้ โดยสินทรัพย์คริปโตจะถูกเก็บไว้บน blockchain ซึ่งต้องใช้คีย์ส่วนตัวในการเข้าถึง

กระเป๋าเงินดิจิทัลจึงมีความสำคัญสูง และมีการใช้เทคนิคการเข้ารหัสขั้นสูงเพื่อปกป้องคีย์ส่วนตัวของผู้ใช้งาน กระเป๋าเงินแต่ละประเภทมีแนวทางการรักษาความปลอดภัยที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การป้องกัน DDoS ไปจนถึงการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ และการสแกนใบหน้า 3 มิติ

กระเป๋าเก็บเหรียญคริปโตทำงานอย่างไร?

นอกจากนี้กระเป๋าเงินคริปโตดีๆ มักจะมีตัวเลือกในการสำรองข้อมูลและการกู้คืน เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะไม่สูญเสียการเข้าถึงเงินดิจิทัลของตัวเอง ในอดีต หากผู้ใช้ทำคีย์ส่วนตัวหาย จะไม่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้อีกต่อไป แต่ตอนนี้ ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินหลายรายใช้ Recovery Seed Phrases และฟีเจอร์อื่นๆ ที่สามารถช่วยกู้คืนได้

แต่ไม่ว่าผู้ใช้จะเลือกใช้กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ การเลือกผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือก็เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานควรปฏิบัติตามหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัย เช่น การดูแลคีย์ส่วนตัว หรือการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น

ประเภทของกระเป๋าคริปโต มีอะไรบ้าง


การตัดสินใจซื้อ altcoin หรือเหรียญอื่นๆ ถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ แต่การเลือกสถานที่จัดเก็บเหรียญหลังซื้อก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เรามาดูประเภทของกระเป๋าเงินคริปโตแบบต่างๆ กันดีกว่า

กระเป๋าคริปโตแบบซอฟต์แวร์

กระเป๋าคริปโตแบบซอฟต์แวร์

กระเป๋าวอลเลทแบบซอฟต์แวร์เป็นโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับสินทรัพย์คริปโต แพลตฟอร์มดิจิทัลเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้จัดเก็บและบริหารจัดการคริปโตได้อย่างง่ายดาย โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งแตกต่างจากกระเป๋าวอลเลทแบบฮาร์ดแวร์

กระเป๋าวอลเลทแบบซอฟต์แวร์มี 2 ประเภทหลัก:

กระเป๋าบนมือถือ เป็นแอปสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถเข้าถึงคริปโตได้ทุกที่ทุกเวลา กระเป๋าเงินบนมือถือมักจะให้บริการฟรี เช่น eToro

กระเป๋าบนเดสก์ท็อป เป็นแอปที่ดาวน์โหลดและติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ กระเป๋าเงินแบบเดสก์ท็อปมีความปลอดภัยกว่าบนมือถือเล็กน้อย เนื่องจากเก็บคีย์ส่วนตัวไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์

ไม่ว่าจะใช้วิธีใด กระเป๋าเงินประเภทนี้ถูกเรียกว่า “Hot” เนื่องจากมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์มากกว่ากระเป๋าแบบ “Cold”

กระเป๋าคริปโตแบบฮาร์ดแวร์

กระเป๋าคริปโตแบบฮาร์ดแวร์

ผู้ถือคริปโตสามารถจัดเก็บทรัพย์สินของตนไว้ในกระเป๋าคริปโตแบบฮาร์ดแวร์ ซึ่งเป็นการเก็บคีย์ส่วนตัวในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์คล้าย USB และเป็นการเก็บคีย์ส่วนตัวแบบออฟไลน์ ซึ่งแฮกเกอร์ไม่สามารถเข้าถึงได้

ตามที่ Kraken เคยกล่าวไว้ กระเป๋าวอลเลทแบบฮาร์ดแวร์เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องคีย์ส่วนตัว อย่างไรก็ตาม กระเป๋าเงินเหล่านี้จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น เช่น แล็ปท็อปหรือสมาร์ทโฟน เพื่อเริ่มการทำธุรกรรม ดังนั้น แม้ว่าจะมีความปลอดภัยที่สูงกว่ามาก แต่ก็ไม่ได้ใช้งานสะดวกเท่ากระเป๋าวอลเลทแบบซอฟต์แวร์

กระเป๋าคริปโตแบบกระดาษ

กระเป๋าคริปโตแบบกระดาษ

กระเป๋าคริปโตแบบกระดาษเป็นการจัดเก็บแบบ “Cold” ซึ่งแตกต่างจากกระเป๋าเงินดิจิทัลออนไลน์ โดยผู้ใช้จะเขียนคีย์สาธารณะและคีย์ส่วนตัวลงบนกระดาษ และเก็บกระดาษแผ่นนี้ไว้ในที่ปลอดภัย โดยไม่มีใครเข้าถึงได้

แต่ข้อเสียคือ ยังจำเป็นต้องใช้แอปกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อโอนสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนั้น กระเป๋าคริปโตแบบกระดาษจึงไม่สะดวกและไม่แพร่หลาย

วิธีเลือก Crypto Wallet ที่ดีที่สุด


การเลือกกระเป๋าเก็บเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อมีตัวเลือกมากมายในตลาด อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำเกณฑ์ในการเลือก ที่นักเทรดสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:

เลือกผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงพิจารณาฟีเจอร์ความปลอดภัยทดสอบก่อนโอนเงินจำนวนมากประเภทของกระเป๋าเงินเหรียญคริปโตที่รองรับฟีเจอร์และฟังก์ชันการทำงานค่าธรรมเนียมความง่ายในการใช้งาน

เลือกผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียง

กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดคือควรเลือกกระเป๋าตังดิจิตอลจากผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงเท่านั้น ซึ่งควรจะอ่านรีวิวและตรวจสอบประวัติของผู้ให้บริการ ก่อนที่จะดาวน์โหลดกระเป๋าเงินมาใช้ ผู้ให้บริการหลายรายอาจจะได้รับการรับรองจากบุคคลหรือธุรกิจที่มีชื่อเสียง ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้

พิจารณาฟีเจอร์ความปลอดภัย

เมื่อเลือก Crypto Wallet จำเป็นที่จะต้องศึกษาฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยอย่างละเอียด ซึ่งโดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบประเภทของกระเป๋า ว่าเป็น Hot Wallet หรือ Cold Wallet

ทดสอบก่อนโอนเงินจำนวนมาก

ควรมีการทดสอบกระเป๋าเงินอย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการสูญเสียได้ โดยผู้ใช้งานควรทดสอบฟังก์ชันการทำงาน และฟีเจอร์ความปลอดภัยของกระเป๋าเงินให้ครอบคลุม

ประเภทของกระเป๋าเงิน

อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือประเภทของกระเป๋าเงินที่จะใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเงินแบบ Hot ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต หรือกระเป๋าเงินแบบ Cold ที่ไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

แต่โดยทั่วไปแล้ว กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด แต่เมื่อใช้งานจริงอาจจะไม่สะดวก และหลายคนมองว่ากระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์เหมาะสมกว่า

เหรียญคริปโตที่รองรับ

ตามข้อมูลของ CoinMarketCap ตลาดคริปโตมีมูลค่ามากกว่า 1.25 ล้านล้านดอลลาร์และมีเหรียญและโทเค็นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้น การเลือกกระเป๋าคริปโตที่รองรับหลายสินทรัพย์จึงได้เปรียบกว่า กระเป๋าที่รองรับเหรียญคริปโตส่วนใหญ่จะรองรับเหรียญหลักๆ เช่น Bitcoin และ Ethereum อย่างไรก็ตาม กระเป๋าเงินชั้นนำหลายเจ้ายังสนับสนุนโทเค็นที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักและ Stablecoin ด้วย ซึ่งมีประโยชน์อย่างมาก

ฟีเจอร์และฟังก์ชันการทำงาน

ผู้ใช้งานควรตรวจสอบฟีเจอร์และฟังก์ชันการทำงานของกระเป๋าเงินด้วย หากต้องการลงทุนในเหรียญ DeFi ก็ควรตรวจสอบว่ากระเป๋าเงินนั้นให้การเข้าถึงเว็บแบบ Decentralized หรือไม่

กระเป๋าเงินจำนวนมากมีฟังก์ชันสำหรับการจัดเก็บ NFT ควบคู่ไปกับตัวเลือกการจัดเก็บคริปโต ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่สนใจทั้งคริปโตเคอเรนซี่และ NFT เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่ครบครัน

ค่าธรรมเนียม

ผู้ใช้งานควรพิจารณาค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการใช้คริปโตวอลเลท โดยซอฟต์แวร์วอลเลทส่วนใหญ่สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรี และมักมีค่าธรรมเนียมเพียงอย่างเดียวคือค่าธรรมเนียมเครือข่ายที่เกิดขึ้นระหว่างการโอน

สำหรับผู้ที่เลือกใช้ฮาร์ดแวร์วอลเลท ควรทราบว่ากระเป๋าเงินประเภทนี้มีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าตั้งแต่ตอนซื้อ ซึ่งราคาของอุปกรณ์มีความหลากหลายมาก ตั้งแต่ 50 ไปจนถึง 300 ดอลลาร์

ความง่ายในการใช้งาน

สำหรับมือใหม่ การพิจารณาความง่ายในการใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ใช้ควรตรวจสอบการออกแบบอินเทอร์เฟซและความสะดวกในการตั้งค่า ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าถึงกระบวนการซื้อขาย อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาคือการให้ความช่วยเหลือหรือฝ่ายสนับสนุนลูกค้า ผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ เช่น eToro และ OKX จะมีศูนย์ช่วยเหลือเพื่อตอบคำถามที่พบบ่อย ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับนักลงทุนมือใหม่

How to สมัครกระเป๋าคริปโต และซื้อโทเค็นแบบง่ายๆ


ทีนี้เรามาดูวิธีสมัครกระเป๋าเงินคริปโตกัน โดยจะยกตัวอย่างวอลเลทที่ใช้งานง่าย และขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยสูงอย่าง Best Wallet ที่มีโทเค็นหลักคือ Best Wallet Token ($BEST)

ขั้นตอนที่ 1 : ดาวน์โหลดแอป Best Wallet

คุณสามารถซื้อ $BEST ด้วยการดาวน์โหลดแอปกระเป๋าเงิน “Best Wallet” และทำการติดตั้งลงบนอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บแล็ต

คุณสามารถค้นหาแอปพลิเคชั่นผ่าน Google Play หรือ Play Store หรือจะสแกนคิวอาร์โค้ดบนหน้าเว็บไซต์ก็ได้เช่นเดียวกัน (ตามรูป) จากนั้นให้ทำการลงทะเบียนบัญชี ซึ่งเลือกได้ว่าจะลงทะเบียนด้วยอีเมล บัญชี Google หรืออื่นๆ ตามความสะดวก

เมื่อเริ่มต้นใช้งานแอป คุณสามารถตั้งค่า 2FA (optional) และรหัสผ่านได้ทันที

ดาวน์โหลดแอป Best Wallet

ขั้นตอนที่ 2 : เติมเงินและซื้อ ETH หรือ USDT

ทำการเติมเงินเข้าบัญชีของคุณ เราแนะนำให้เป็นสกุลเงินยอดฮิตอย่าง ETH หรือ USDT เพื่อให้ง่ายต่อการแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะ USDT ที่มีมูลค่าผันแปรตามสกุลเงินดอลลาร์ ทำให้ง่ายต่อการคำนวณปริมาณโทเค็นที่ต้องการได้ หรือใครสะดวกจะตัดผ่านบัตรธนาคารก็ได้

ขั้นตอนที่ 3 : ซื้อ $BEST

ไปที่หน้า “Upcoming Token” แล้วเลือก “Best Wallet” หรือเหรียญที่ต้องการซื้อ

จากนั้นกรอกจำนวนที่ต้องการซื้อหรือแลกเปลี่ยนด้วยสกุลเงินที่มีอยู่ในบัญชี ระบบจะแสดงค่าธรรมเนียมและราคาโทเค็น รวมถึงจำนวนโทเค็น $BEST ที่จะได้รับ โปรดตรวจสอบอย่างละเอียด

ซื้อ $BEST

ขั้นตอนที่ 4 : รอรับโทเค็น

คุณจะได้รับโทเค็นหลังจากการระดมทุนเสร็จสิ้น ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในช่วงแรก และสามารถระดมทุนได้มากถึง 1.4 ล้านดอลลาร์แล้ว คาดว่าอีกไม่นานการพรีเซลก็จะสิ้นสุดลง เนื่องจากมีผู้สนใจเป็นจำนวนมากนั่นเอง

บทสรุป Crypto Wallet


คู่มือนี้ได้แนะนำกระเป๋าเงินคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและมือใหม่ในปัจจุบัน พร้อมข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้การลงทุนในตลาดคริปโตเป็นไปอย่างปลอดภัยและคุ้มค่า

สำหรับผู้ที่ต้องการตัวเลือกที่ทั้งใช้งานง่ายและปลอดภัย แนะนำให้พิจารณากระเป๋าเงินคริปโตที่เป็นโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่มีนวัตกรรมใหม่ ใช้เทคโนโลยี AI หรือโปรโตคอลความปลอดภัยขั้นสูง และรองรับการใช้งานข้ามเครือข่าย (Multi-chain)

คำถามที่พบบ่อย


Bitcoin wallet อันไหนดี?

Crypto Wallet อันไหนปลอดภัยที่สุด?

Hardware Wallet คืออะไร

Cold Wallet ราคาแพงไหม

Hardware Wallet เก็บเหรียญอะไรได้บ้าง?

Crypto News in numbers
editors
รายชื่อนักเขียน + 66 More
2M+
มีผู้ใช้งานรายเดือนทั่วโลกมากกว่า
250+
มีบทความรีวิวและคู่มือมากกว่า
8 ปี
อยู่ในตลาดมาแล้ว
70 คน
มีทีมงานนักเขียนนานาชาติกว่า