ข่าว XRP วันนี้: เทรดเดอร์ของ Ripple เตรียมพร้อมคำตัดสิน ขณะที่ราคา BTC อยู่ที่ $104K

ประเด็นสำคัญ:

• Ripple และ SEC ยื่นคำร้องใหม่เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน เพื่อขอให้ยกเลิกการห้ามขาย XRP และลดค่าปรับ 125 ล้านดอลลาร์
• คำตัดสินที่เป็นบวกจากผู้พิพากษา Torres อาจทำให้ทั้งสองฝ่ายถอนการอุทธรณ์ และช่วยเพิ่มความหวังในการอนุมัติ ETF แบบ XRP-spot
• Bill Morgan เตือนว่าคำตัดสินที่เร็วเกินไปอาจเป็นสัญญาณของการถูกปฏิเสธอีกครั้ง โดยอ้างอิงจากการตัดสินก่อนหน้าที่ใช้เวลาเพียงเจ็ดวัน

XRP ใกล้ขอบเหว? คำตัดสินของผู้พิพากษา Torres อาจวาดภาพใหม่ให้กับวงการคริปโต

วันที่ 19 มิถุนายนเป็นช่วงที่ตึงเครียดเนื่องจากชุมชน XRP และตลาดคริปโตโดยรวมรอคอยคำตัดสินที่สำคัญในคดี SEC กับ Ripple โดยทั้ง Ripple และ SEC ยื่นคำร้องร่วมกันใหม่เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน เพื่อขอให้มีคำตัดสินที่ชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขการชำระหนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทั้งสองฝ่ายขอให้ผู้พิพากษา Torres กลับคำตัดสินที่ห้ามการขาย XRP ให้กับนักลงทุนสถาบัน และขอลดค่าปรับลง

ผู้พิพากษา Torres เคยปฏิเสธคำร้องร่วมครั้งแรกภายในเจ็ดวันหลังจากยื่น โดยระบุว่ามีข้อผิดพลาดในกระบวนการ และการให้เหตุผลว่ายุติคดีจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะและนักลงทุนสถาบันนั้นยังไม่เพียงพอ ซึ่งการที่ศาลยังไม่แสดงท่าทีต่อคำร้องฉบับใหม่นี้ อาจเพิ่มความหวังสำหรับคำตัดสินชี้นำในทางที่ดี

ทนายความที่สนับสนุนคริปโต Bill Morgan แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสำคัญของเวลาในการตัดสิน โดยเตือนว่า:

“ครั้งก่อนผู้พิพากษา Torres ใช้เวลาแค่ 7 วันในการปฏิเสธคำร้องร่วมเพื่อขอแก้ไขคำพิพากษาให้ลดค่าปรับและยกเลิกคำสั่งห้าม ถ้าครั้งนี้เธอตัดสินภายในไม่ถึง 7 วัน อาจไม่ใช่สัญญาณที่ดีว่าเธอจะอนุมัติคำร้องนี้”

XRP ร่วงจาก 2.5712 ดอลลาร์สู่ระดับต่ำสุดในวันที่ 5 มิถุนายนที่ 2.0607 ดอลลาร์ หลังผู้พิพากษาปฏิเสธคำร้องครั้งแรกหลังจากนั้น ราคาก็ทรงตัวอยู่เหนือระดับ 2.1 ดอลลาร์ หลังจากนั้น ราคาก็ทรงตัวอยู่เหนือระดับ

อย่างไรก็ตาม อดีตทนายความของ SEC ชื่อ Marc Fagel เตือนว่า:

“ผมไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไร นี่เป็นกรณีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อาจเป็นครั้งแรกที่ SEC เปลี่ยนฝ่ายบริหารแล้วพยายามจะล้มคำตัดสินของศาลที่ตัวเองชนะ ศาลอาจตัดสินไปได้ทุกทาง หากเธอปฏิเสธคำร้อง Ripple จะต้องตัดสินใจว่าจะดำเนินการอุทธรณ์ต่อหรือไม่”

คำตัดสินของผู้พิพากษา Torres คือกุญแจของการอุทธรณ์จาก SEC และการอนุมัติ ETF แบบ XRP-spot

คำตัดสินชี้นำจากผู้พิพากษา Torres มีบทบาทชี้ขาดในคดีของ Ripple หากผู้พิพากษาตัดสินในทางที่เป็นบวก หาก Ripple และ SEC จะถอนคำอุทธรณ์

การที่ SEC ถอนอุทธรณ์จะช่วยเร่งให้เกิดการอนุมัติคำขอ ETF แบบ XRP-spot ที่ยังรอดำเนินการอยู่ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นความต้องการ XRP มากขึ้น อย่างไรก็ตาม แต่หากผู้พิพากษาปฏิเสธคำร้องเป็นครั้งที่สอง แผนการอุทธรณ์ของ SEC ก็อาจขึ้นอยู่กับว่า Ripple จะเดินหน้าอุทธรณ์ไขว้หรือไม่

ในกรณีเบื้องหลัง SEC ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินของผู้พิพากษา Torres เกี่ยวกับการขาย XRP แบบโปรแกรมเมติก ในปี 2023 ผู้พิพากษา Torres ได้ตัดสินว่าการขาย XRP แบบโปรแกรมเมติกนั้นไม่เป็นไปตามเงื่อนไขข้อที่สามของการทดสอบ Howey

กรณีเลวร้ายที่สุด หากการอุทธรณ์ของ SEC ประสบความสำเร็จ XRP อาจต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของ SEC ซึ่งอาจนำไปสู่การที่ตลาดคริปโตในสหรัฐฯ ถอด XRP ออก ผู้ให้บริการ ETF ก็อาจสูญเสียการเข้าถึงตลาด XRP ที่มีสภาพคล่อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโอกาสการอนุมัติ

แนวโน้มราคา XRP: คำตัดสินจากศาลและข่าวเกี่ยวกับ ETF

XRP ร่วงลง 0.20% ในวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน ซึ่งพลิกกลับจากการเพิ่มขึ้น 0.48% ในวันพุธ โดยปิดที่ 2.1666 ดอลลาร์ โทเค็นเคลื่อนไหวตามตลาดคริปโตโทเค็นเคลื่อนไหวตามตลาดคริปโต 0.18% ทำให้มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 3.21 ล้านล้านดอลลาร์

แนวโน้มราคาของ XRP ในระยะสั้นขึ้นอยู่กับคำตัดสินของผู้พิพากษา Torres และข่าวที่เกี่ยวข้องกับ ETF แบบ XRP-spot

การทะลุผ่าน 2.2 ดอลลาร์และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล 50 วัน (EMA) อาจนำไปสู่จุดสูงสุดในวันที่ 16 มิถุนายนที่ 2.3376 ดอลลาร์ ซึ่งการเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่องผ่าน 2.3376 ดอลลาร์อาจเปิดประตูสู่การทดสอบระดับ 2.50 ดอลลาร์และจุดสูงสุดในวันที่ 12 พฤษภาคมที่ 2.6553 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การทะลุต่ำกว่าเส้น EMA 200 วันอาจเผยให้เห็นระดับแนวรับที่ 1.9299 ดอลลาร์

Bitcoin อ่อนแรงจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางและภาษีที่ยับยั้งฝั่งกระทิง

ในขณะที่ XRP ร่วงลงท่ามกลางความไม่แน่นอนทางกฎหมาย ทาง Bitcoin (BTC) ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทำให้ BTC และตลาดคริปโตโดยรวมเผชิญแรงขายเพิ่มขึ้นหลังมีข่าวว่าสหรัฐฯ อาจโจมตีเป้าหมายยุทธศาสตร์ในอิหร่าน การเข้ามาเกี่ยวข้องของสหรัฐฯ อาจนำไปสู่การหยุดชะงักในการจัดหาน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นและเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน การคาดการณ์เศรษฐกิจของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) และการแถลงข่าวของประธานเฟด พาวเวลล์ ส่งผลให้ความต้องการ BTC ลดลงเช่นกัน ซึ่งเฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2025 โดยพาวเวลล์เตือนว่าภาษีอาจทำให้การปรับลดดอกเบี้ยต้องล่าช้า ท่าทีของเฟดที่ไม่ผ่อนคลายอาจทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยง

แพลตฟอร์มข่าวกรองตลาด Santiment ให้ความเห็นว่า

“ตลาดคริปโต เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก จะได้ประโยชน์หากหรือเมื่อมีการลดดอกเบี้ยอีกครั้ง ปัจจุบัน Bitcoin อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดเมื่อ 22 พฤษภาคมอยู่ 6.8 เปอร์เซ็นต์ และ S&P 500 ต่ำกว่าระดับสูงสุดเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2.6 เปอร์เซ็นต์ คาดว่ารัฐบาลทรัมป์และเฟดจะยังคงขัดแย้งกันในเรื่องทิศทางของนโยบายการเงิน”

Santiment สรุปว่า:

“ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะกดดันให้พาวเวลล์และธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นตลาดและหนุนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม พาวเวลล์อาจยังคงต่อต้านอิทธิพลทางการเมืองต่อไป โดยให้เหตุผลว่าควรใช้วิธีการที่ระมัดระวังมากขึ้นโดยอิงจากข้อมูลเงินเฟ้อและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว”

อย่างไรก็ตาม BTC สามารถหลีกเลี่ยงการร่วงลงต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม กระแสเงินไหลเข้าของ ETF BTC-spot ของสหรัฐฯ ช่วยบรรเทาผลกระทบด้านลบ ในเดือนพฤษภาคม ผู้จัดจำหน่าย ETF ของสหรัฐฯ รายงานกระแสเงินไหลเข้าสุทธิรวม 5,232.1 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ BTC พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 111,917 ดอลลาร์ ในเดือนมิถุนายน กระแสเงินไหลเข้าปัจจุบันอยู่ที่ 1,616.2 ล้านดอลลาร์

Santiment เน้นย้ำถึงความสำคัญของกระแสเงินไหลเข้าของ ETF BTC-spot ของสหรัฐฯ โดยระบุว่ากระแสเงินไหลเข้าที่สม่ำเสมอทำให้ BTC อยู่ในช่วงราคาปัจจุบันที่ 104,000-105,000 ดอลลาร์

แนวโน้มราคา BTC: ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง พัฒนาการด้านการค้า และกระแส ETF

BTC ร่วงลง 0.24% เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน โดยพลิกกลับจากการเพิ่มขึ้น 0.35% ของวันพุธมาปิดที่ 104,631 ดอลลาร์ แนวโน้มราคาในระยะใกล้ขึ้นอยู่กับพัฒนาการในความขัดแย้งในตะวันออกกลาง การอัปเดตที่เกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากร ข่าวทางกฎหมาย และกระแสเงินทุนเข้า ETF

สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น:

• สถานการณ์ขาลง: การมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในสงครามอิสราเอล-อิหร่าน ความล่าช้าในกฎหมาย ภัยคุกคามจากภาษีศุลกากรใหม่ และกระแสเงินทุนเข้า ETF ปัจจัยเหล่านี้รวมกันอาจทำให้ BTC ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล 50 วัน (EMA) ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้น 100,000 ดอลลาร์
• สถานการณ์ขาขึ้น: การหยุดยิงในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน การสนับสนุนร่างกฎหมายคริปโตจากทั้งสองพรรค การลดความขัดแย้งทางการค้า และกระแสเงินทุนเข้า ETF ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ BTC อาจพุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 111,917 ดอลลาร์

สิ่งที่ต้องจับตามอง

นักลงทุนควรติดตามคำตัดสินในคดี Ripple ข่าวกฎหมาย ข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง พัฒนาการเกี่ยวกับภาษี และกระแสเงินไหลเข้าจาก ETF ว่าปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีบทบาทสำคัญต่อแนวโน้มราคาของ XRP และ BTC และอาจกำหนดว่าทั้งสองเหรียญจะสามารถกลับไปแตะระดับสูงสุดอีกครั้งได้หรือไม่

สำรวจการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่า XRP และ BTC จะเคลื่อนไปทางใดต่อไป ท่ามกลางปัจจัยทางกฎหมายและการเมืองที่ยังคงเปลี่ยนแปลง

เฝ้าระวังราคา XRP และลงทุนคริปโตสกุลอื่น ๆ ด้วย Best Wallet

ทั้งการเมืองในตะวันออกกลางและท่าทีของสหรัฐ รวมไปถึงคำตัดสินระหว่าง Ripple กับ SEC ล้วนแล้วส่งผลต่อราคาของ XRP ทั้งสิ้น ซึ่งคุณสามารถติดตามราคาและการขึ้นลงของราคาได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระเป๋าเงินคริปโตที่รวดเร็วและปลอดภัยอย่าง Best Wallet ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถจัดการพอร์ตโทเค็นของคุณได้อย่างอิสระ เนื่องจากทำงานด้วยระบบมัลติเชนที่รองรับได้มากกว่า 60 บล็อกเชนด้วยกัน

ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังมีฟีเจอร์และฟังก์ชันต่าง ๆ ที่เอื้อต่อเทรดเดอร์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการทำนายราคา อ่านอารมณ์ตลาด หรือการแนะนำโครงการพรีเซลใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพเติบโตได้อย่างน่าสนใจ และหากคุณทำการถือครองเหรียญประจำโครงการก็จะได้สิทธิส่วนลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นกระเป๋าเงินที่ครบวงจรเลยทีเดียว