XRP มีลุ้นทดสอบระดับ 3 ดอลลาร์! จับตาแรงหนุนจากตลาดฟื้นตัว

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2025 ตลาดการเงินทั่วโลกยังคงเผชิญความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ซึ่งเคยแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ต่างปรับตัวลงมากกว่า 16% ภายในต้นเดือนเมษายน ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นกว่า 13% ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน ขณะที่ดัชนี Nasdaq ที่เน้นหุ้นเทคโนโลยีกลับผันผวนรุนแรงยิ่งกว่า โดยร่วงลงถึง 23% ก่อนดีดกลับขึ้นถึง 25% ในช่วงเวลาเดียวกัน

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเองก็ไม่ต่างกัน โดย Bitcoin ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งในเดือนมกราคม ก่อนจะร่วงลงเกือบ 30% แล้วพลิกกลับมาเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จนราคาทะยานทะลุ 111,000 ดอลลาร์ในปลายเดือนพฤษภาคม

ขณะเดียวกัน เหรียญ XRP ของบริษัท Ripple Labs ก็เริ่มต้นปีด้วยราคาในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 ก่อนจะร่วงลงเกือบ 50% แม้ปัจจุบันจะฟื้นตัวมาบ้าง แต่ราคายังห่างไกลจากจุดสูงสุด โดยล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ราว 2.40 ดอลลาร์ ทำให้เกิดคำถามว่า XRP จะสามารถกลับไปแตะระดับ 3 ดอลลาร์อีกครั้งได้หรือไม่

พื้นฐานแกร่ง! XRP กับโอกาสเติบโตจากการใช้งานจริงระดับโลก

XRP ถือเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่มีการใช้งานจริงในภาคธุรกิจ แตกต่างจากเหรียญเก็งกำไรที่ไม่มีพื้นฐานรองรับ โดย Ripple Labs ผู้อยู่เบื้องหลัง XRP ได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้การโอนเงินระหว่างประเทศของสถาบันการเงินมีความรวดเร็วและประหยัดต้นทุนมากขึ้น

บริษัทมีความร่วมมือกับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ อาทิ Bank of America และ JPMorgan Chase ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มีจุดที่นักลงทุนจำนวนมากมักเข้าใจผิด นั่นคือการที่ธนาคารร่วมมือกับ Ripple Labs ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะถือครองหรือใช้งานเหรียญ XRP เสมอไป

Ripple มีผลิตภัณฑ์หลัก 2 แบบ คือ RippleNet และ On-Demand Liquidity (ODL) โดยมีเพียง ODL เท่านั้นที่ต้องใช้ XRP ในการทำธุรกรรม ส่วน RippleNet ซึ่งเป็นโซลูชันที่ธนาคารใช้กันอย่างแพร่หลาย กลับไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเหรียญ XRP เลย

ดังนั้น แม้จะมีการพูดกันว่าการใช้งาน Ripple ที่เพิ่มขึ้นจะกระตุ้นให้ธนาคารซื้อ XRP มากขึ้นและดันราคาขึ้น แต่ในความเป็นจริง กลับมีสถาบันไม่มากที่ใช้ ODL โดยส่วนใหญ่เลือกใช้ RippleNet ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเหรียญ XRP โดยตรง

Stablecoin มาแรง! แต่ XRP ยังมีที่ว่างในตลาดการเงินโลก

แม้ XRP จะมีผู้ใช้งานจริงในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใช้ ODL แต่ในปัจจุบันกำลังเผชิญแรงกดดันจากคู่แข่งอย่าง Stablecoin ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น Stablecoin มีจุดเด่นสำคัญคือความผันผวนของราคาที่ต่ำ ทำให้เหมาะกับการใช้งานทางการเงินมากกว่า โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ธนาคารไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงจากราคาคริปโตที่สามารถร่วงลงเป็นสองหลักภายในวันเดียว

ด้วยเหตุนี้ หลายธนาคารรวมถึงรัฐบาลของหลายประเทศจึงหันไปให้ความสนใจกับการพัฒนา Stablecoin ของตัวเอง ซึ่งอาจลดความจำเป็นในการใช้ XRP ลงไปอีกในอนาคต

XRP ยังมีโอกาสแตะ $3! แรงเก็งกำไร-กระแสคริปโตยังหนุน

ในภาพรวม XRP ถือเป็นเหรียญที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่าเหรียญคริปโตประเภท “มีม” หรือเหรียญเก็งกำไรอื่น ๆ เพราะมีการใช้งานจริงและได้รับการยอมรับในบางภาคส่วน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่เคยเป็นข้อได้เปรียบ เช่น ความร่วมมือกับธนาคาร หรือการใช้งานในระบบโอนเงิน กลับถูกจำกัดด้วยข้อเท็จจริงเรื่องการใช้ RippleNet แทน ODL และการแข่งขันจาก Stablecoin ที่น่าเชื่อถือมากขึ้น

ดังนั้น แม้ในทางเทคนิคแนวโน้มราคา XRP อาจจะสามารถพุ่งกลับไปแตะ 3 ดอลลาร์ได้อีกในช่วงภาวะตลาดคริปโตเฟื่องฟู แต่การเพิ่มขึ้นนั้นน่าจะมาจากแรงเก็งกำไรและกระแสความนิยมมากกว่าการเติบโตจากการใช้งานจริงในระบบการเงิน

หากมองในมุมของการลงทุนระยะยาว XRP จึงอาจไม่ใช่ทางเลือกที่น่าดึงดูดมากนักสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนจากพื้นฐานธุรกิจที่มั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืน