วิเคราะห์เจาะลึก: ทําไมคริปโตร่วงแรง?

ข่าวคริปโตวันนี้
Last updated:
Last updated:
ทำไมจึงไว้วางใจ Cryptonews
Cryptonews ได้รายงานข่าวในวงการคริปโตเคอเรนซีมานานกว่า 10 ปี ทีมงานที่เชี่ยวชาญของเรามุ่งเน้นการวิเคราะห์ตลาด เทคโนโลยีบล็อกเชน และการรายงานอย่างถูกต้องและสมดุล ครอบคลุมคริปโต บล็อกเชน และการพัฒนาในอุตสาหกรรม เรามุ่งมั่นในการให้ความโปร่งใสกับผู้อ่าน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มโปรดอ่านรายละเอียดในเพจ Affiliate Disclosure

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเผชิญกับความผันผวนอย่างหนักในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยมูลค่าตลาดรวมลดลงกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากการประกาศ US Crypto Reserve แม้ว่าในช่วงแรกตลาดจะตอบรับในเชิงบวก แต่ในเวลาต่อมากลับมีการเทขายอย่างหนักจนทำให้ราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลหลายสกุลร่วงลงอย่างมาก บทความนี้จะวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ คริปโตร่วง ครั้งนี้และสิ่งที่นักลงทุนควรพิจารณา

Trade War คือตัวการสาเหตุคริปโตร่วงครั้งใหญ่

มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมลดลงอย่างมากในช่วงเวลาอันสั้นทันทีหลังจากการประกาศเก็บภาษีนำเข้า 25% จากแคนาดาและเม็กซิโกโดย Trump ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายในวันนี้ 4 มีนาคม 2568 และการเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนเป็น 20% เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความไม่แน่นอนและความกังวลในตลาด

ตามข้อมูลจาก The Kobeissi Letter ผลกระทบของ Trade War ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในตลาด Crypto เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกอีกด้วย ดัชนี S&P 500 ร่วงลงอย่างหนัก สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจาก Trade War

การที่ตลาดหุ้นและตลาด Crypto ต่างได้รับผลกระทบจาก Trade War แสดงให้เห็นว่าตลาดการเงินมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด และความไม่แน่นอนในตลาดหนึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

สถานการณ์นี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการติดตามข่าวสารและวิเคราะห์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างรอบคอบและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ย้อนรอย 36 ชั่วโมง: คริปโตร่วง หลัง US Crypto Reserve

ในช่วง 36 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากที่ Trump ได้ประกาศ US Crypto Reserve เมื่อเวลา 10:24 AM ET ของวันอาทิตย์ ตลาดคริปโตได้ตอบสนองในเชิงบวกอย่างมาก โดยมูลค่าตลาดรวมเพิ่มขึ้นจากประมาณ 2.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 3.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในเวลา 8:30 PM ET

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กลับพลิกผันอย่างรวดเร็ว ในช่วง 24 ชั่วโมงต่อมา มูลค่าตลาดคริปโตได้ลดลงมาอยู่ที่ 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการกลับตัวอย่างรุนแรงและความไม่แน่นอนที่ปกคลุมตลาด ณ ขณะนั้น การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนและผู้ที่ติดตามตลาดคริปโตอย่างใกล้ชิด

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Ethereum ($ETH) ก่อนการประกาศ US Crypto Reserve ราคาของ $ETH อยู่ที่จุดต่ำสุดที่ 2,173 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันที่ 2 มีนาคม หลังจากนั้น ราคาสูงขึ้นไปถึง 2,550 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนที่จะร่วงลงมาอยู่ที่ 2,002 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่าราคาปัจจุบันของ $ETH ต่ำกว่าระดับก่อนการประกาศถึงประมาณ 8% แสดงให้เห็นถึงการกลับตัวที่รุนแรง

ดัชนี Fear & Greed ชี้: กับดัก คริปโตร่วง ครั้งใหญ่?

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในความรู้สึกของนักลงทุน ซึ่งอาจเป็นกับดักครั้งใหญ่สำหรับนักลงทุนรายย่อย ก่อนการประกาศ US Crypto Reserve ดัชนี Crypto Fear & Greed อยู่ที่ประมาณ 20 ซึ่งบ่งชี้ถึงความกลัวอย่างมากในตลาด

หลังจากนั้น ดัชนีได้พุ่งสูงขึ้นไปถึงประมาณ 55 ซึ่งเข้าใกล้ระดับความโลภ ก่อนที่จะร่วงกลับลงมาอยู่ที่ประมาณ 24 ในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของความรู้สึกของนักลงทุนและความไม่แน่นอนที่ปกคลุมตลาด

Bitcoin, XRP, ETH, SOL, ADA ก็หนีไม่พ้น: คริปโตร่วงทุกตัว

Bitcoin ก็เผชิญกับแรงเทขายเช่นกัน โดยราคาซื้อขายปัจจุบันต่ำกว่าระดับก่อนการประกาศ US Crypto Reserve ถึง 3% ในช่วง 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา Bitcoin เพียงสกุลเดียวได้สูญเสียมูลค่าตลาดไปเกือบ 250 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

คำถามสำคัญคือ ทำไมเงินทุนถึงไหลออกจากตลาดคริปโต แม้ว่าจะมีข่าวดีจากการประกาศ US Crypto Reserve ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์นี้คือการเคลื่อนไหวทั่วโลกไปสู่การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง (risk-off trade)

เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นและความไม่แน่นอนทางนโยบายเศรษฐกิจขยายวงกว้าง สินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมดจึงปรับตัวลดลง ซึ่งเห็นได้จากราคาหุ้น คริปโต และน้ำมันที่ร่วงลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัย (safe havens) เช่น ทองคำกลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

ทองคำ vs. Bitcoin: มุมมองใหม่เมื่อ คริปโตร่วง

สถานการณ์ปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าคริปโตถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยง ลองพิจารณาความแตกต่างอย่างมากระหว่างผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ของทองคำและ Bitcoin ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น +10% ในขณะที่ Bitcoin ลดลง -10% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม

สรุป: โอกาสท่ามกลางความผันผวน

แม้ว่าตลาดคริปโตและหุ้นเทคโนโลยี เช่น Nvidia ($NVDA) จะได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสงครามการค้า (Trade War) แต่สิ่งสำคัญคือ นี่ไม่ใช่จุดจบของตลาดกระทิง—แต่เป็นเพียงอีกหนึ่งช่วงพักฐานในวัฏจักรของตลาด

Raoul Pal เน้นย้ำว่า ความผันผวนเป็นเรื่องปกติของตลาด และเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ การปรับฐานเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอในตลาดกระทิง และเมื่อฝุ่นหายตลบ สินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโตและหุ้นเทคโนโลยี จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

“อย่าตื่นตระหนกในช่วงขาลง และอย่าใช้เลเวอเรจเกินตัว” Pal กล่าว “ตราบใดที่คุณมีมุมมองระยะยาวและลงทุนอย่างชาญฉลาด คุณจะสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ และอาจเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างผลตอบแทนมหาศาลในอนาคต”

หากคริปโตสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน มันอาจกลายเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศและความผันผวนของตลาดการเงินแบบดั้งเดิม

ดังนั้น แทนที่จะมองว่านี่คือจุดสิ้นสุดของโอกาส อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ที่จะมาถึง

ข่าวเด่นห้ามพลาด

ข่าวคริปโต
83% ของสถาบันจ่อเพิ่มการลงทุนในสกุลเงินคริปโตปี 2025 — ลุ้นเปิด Altcoin ETF หลายตัว
Natharika Bumroongroj
Natharika Bumroongroj
2025-03-19 15:23:52
วงการคริปโต
ราคา Solana อาจร่วงหนักถึง 30 ดอลลาร์ในปี 2025 ท่ามกลางวิกฤติสภาพคล่อง
Anuchit Laemsing
Anuchit Laemsing
2025-03-19 14:05:51
Crypto News in numbers
editors
Authors List + 66 More
2M+
มีผู้ใช้งานรายเดือนทั่วโลกมากกว่า
250+
มีบทความรีวิวและคู่มือมากกว่า
8 ปี
อยู่ในตลาดมาแล้ว
70 คน
มีทีมงานนักเขียนนานาชาติกว่า