ใครตามไม่ทัน มารวมกันทางนี้! BTC และ Crypto ไปถึงไหนแล้ว สรุปสั้น ๆ

หลัง Bitcoin (BTC) อ่อนกำลังอยู่นาน ล่าสุดเราได้เห็นการฟื้นตัวแบบก้าวกระโดดและกลับมาทะลุ $100K อีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากหลายๆ ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมือง สำหรับใครที่ตามไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับคริปโตและบิทคอยน์ เราสรุปมาให้แล้วแบบครบจบใน 3 นาที!
ราคา Bitcoin เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาได้ทะยานขึ้นเกิน $100,000 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ หลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับสหราชอาณาจักร
ในขณะเดียวกัน Coinbase ก็ได้บรรลุข้อตกลงมูลค่า $2.9 พันล้าน เพื่อเข้าซื้อ Deribit แพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตออปชัน อย่างไรก็ตาม Coinbase รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้หลังปิดตลาด
และในอีกด้านหนึ่ง รัฐ Arizona ได้ผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับ Bitcoin เมื่อวันพุธ หลังจากที่รัฐ New Hampshire ได้ผ่านร่างกฎหมายทุนสำรองเชิงกลยุทธ์บิทคอยน์ หรือ Strategic Bitcoin Reserve เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมในวันพฤหัสบดี วุฒิสภาสหรัฐฯ ยังมีกำหนดที่จะลงมติในร่างกฎหมายเกี่ยวกับ Stablecoin อีกด้วย
ตลาดคึกคัก หลัง Bitcoin ยืนเหนือ 100K อย่างมั่นคง – Ethereum ฟื้นตัว
ราคา Bitcoin ทะยานขึ้นสู่ระดับ $103,000 แล้ว โดยข้อมูลจาก CoinGecko แสดงให้เห็นว่าราคา BTC ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 3.7% ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการหารือกับประเทศจีนที่กำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง ทั้งนี้ Bitcoin ไม่ได้ซื้อขายเกินระดับ $100,000 มาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์
ณ เวลานี้ Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 9% ในปี 2025 แม้ว่าจะยังต่ำกว่าสถิติสูงสุดในเดือนมกราคมที่มากกว่า $109,000 แต่ตลาดก็ดูจะกลับมาเชื่อมั่นอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน Ethereum ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีใหญ่อันดับสอง ก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 22% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $2,300 แล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ ETH กลับมาเกิน $2,000 อีกครั้ง นับตั้งแต่เดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม กราฟราคา ETH ยังคงลดลงเกือบ 35% ตั้งแต่ต้นปีนี้
Coinbase ใจใหญ่! ควัก 2.9 พันล้านซื้อ Deribit

ในอีกด้านหนึ่ง Coinbase ได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม ว่าได้ตกลงซื้อกิจการ Deribit แพลตฟอร์มเทรดคริปโตออปชันที่ตั้งอยู่ในดูไบ ด้วยมูลค่ารวม $2.9 พันล้าน
Deribit ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับการซื้อขายออปชันของ BTC และ ETH และยังให้บริการการซื้อขายฟิวเจอร์สและตลาดสปอตอีกด้วย
Greg Tusar รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับนักลงทุนสถาบันของ Coinbase ให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่าดีลดังกล่าวจะทำให้ Coinbase กลายเป็นผู้เล่นที่ครบวงจรที่สุดในตลาดอนุพันธ์ ทั้งนี้ ราคาดีลรวมถึงเงินสดมูลค่า $700 ล้าน และหุ้น COIN จำนวน 11 ล้านหุ้น
อย่างไรก็ตาม Coinbase รายงานผลประกอบการและรายได้ในไตรมาสแรกต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
หลายรัฐลุยแล้ว! เร่งออกกฎหมาย Bitcoin & Stablecoin

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผู้ว่าการรัฐ Arizona Katie Hobbs ได้ลงนามในกฎหมายใหม่ ซึ่งอนุญาตให้รัฐสามารถถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีการอ้างสิทธิ์ได้ โดยกฎหมายฉบับนี้ปรับปรุงกฎเกณฑ์เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ไม่มีการอ้างสิทธิ์ให้ครอบคลุมถึงคริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัล
ตามข้อกำหนดของกฎหมาย รัฐสามารถถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีการเคลื่อนไหวหรือไม่มีการตอบสนองจากเจ้าของเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยสินทรัพย์ดังกล่าวจะถูกจัดเก็บไว้ในกองทุนสำรอง Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลที่จัดตั้งขึ้นใหม่ กฎหมายยังระบุให้มีการโอน 10% ของสินทรัพย์เหล่านี้ไปยังกองทุนทั่วไปของรัฐ ทั้งนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากสภานิติบัญญัติ
ก่อนหน้านี้ ร่างกฎหมายที่เสนอโดยวุฒิสมาชิกรัฐ Wendy Rogers ซึ่งเป็นพรรครีพับลิกัน ถูกยับยั้งโดย Hobbs เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงและความผันผวนของตลาด อย่างไรก็ตาม Rogers วางแผนที่จะนำร่างกฎหมายนี้กลับมาเสนออีกครั้งในสมัยประชุมหน้า
ในขณะเดียวกัน รัฐ New Hampshire ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นรัฐแรกที่ผ่านร่างกฎหมาย Strategic Bitcoin Reserve โดยกฎหมายฉบับนี้อนุญาตให้รัฐซื้อ BTC และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นที่มีมูลค่าตลาดรวมเกิน $5 แสนล้าน ซึ่งปัจจุบันมีเพียง Bitcoin เท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ โดยกำหนดให้การถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลไม่เกิน 5% ของเงินทุนรวมของรัฐ
สินทรัพย์ในกองทุนสำรองนี้จะต้องถูกเก็บรักษาในระบบที่ควบคุมโดยรัฐ ผ่านกระเป๋าเงินที่ได้รับการรับรอง ผู้ควบคุมสินทรัพย์ที่ผ่านคุณสมบัติ หรือผลิตภัณฑ์การซื้อขายที่ได้รับการควบคุมในสหรัฐฯ กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ 60 วันหลังจากผ่านการอนุมัติ
วุฒิสภาสหรัฐฯ เตรียมลงมติร่างกฎหมาย Stablecoin
ในวันพฤหัสบดี วุฒิสภาสหรัฐฯ มีกำหนดลงมติในร่างกฎหมายเกี่ยวกับ Stablecoin ที่มีชื่อว่า “Guiding and Establishing National Innovation for U.S. Stablecoins” หรือ “GENIUS Act” ร่างกฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อกำหนดกรอบการกำกับดูแล Stablecoin ในสหรัฐฯ อย่างชัดเจน
GENIUS Act ระบุว่าผู้ที่จะออกเหรียญ Stablecoin ได้ จะต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น โดยสถาบันที่ต้องการออกเหรียญ Stablecoin สามารถลงทะเบียนกับทางการในระดับรัฐหรือรัฐบาลกลางได้ ร่างกฎหมายกำหนดให้ผู้ออก Stablecoin ต้องมีเงินสำรองในอัตรา 1:1 กับสินทรัพย์ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ หรือพันธบัตรระยะสั้น และต้องเปิดเผยข้อมูลเงินสำรองและนโยบายการไถ่ถอนต่อสาธารณะเพื่อเพิ่มความโปร่งใส
นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังให้ความคุ้มครองผู้ถือ Stablecoin โดยกำหนดให้พวกเขาได้รับสิทธิ์ลำดับแรกในกรณีที่ผู้ออก Stablecoin ประสบปัญหาทางการเงิน อีกทั้งยังยกเว้น Stablecoin ที่ใช้ในการชำระเงินไม่ให้ถูกจัดอยู่ในหมวดของหลักทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ หรือบริษัทลงทุนภายใต้กฎหมายของรัฐบาลกลาง
Bitcoin พุ่ง หุ้นคริปโตตาม
เมื่อวันพฤหัสบดี หุ้น ETF ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin อย่าง IBIT พุ่งขึ้น 5.4% โดยหุ้นกลุ่มนี้ รวมถึง ARK 21Shares Bitcoin ETF (ARKB) และ Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) ซื้อขายสูงกว่าจุดเข้าซื้อที่ระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม
หุ้นของ Strategy (MSTR) พุ่งขึ้น 5.5% ในวันเดียว ทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 43% ตั้งแต่ต้นปี ทั้งนี้ MSTR ซื้อขายอยู่ในกรอบที่อาจเป็นจุดซื้อใหม่ที่ราคา $403.90
Coinbase (COIN) เพิ่มขึ้น 5% ในวันพฤหัสบดี ก่อนการประกาศผลประกอบการ อย่างไรก็ตาม COIN ยังคงลดลงประมาณ 21% ตั้งแต่ต้นปีนี้
ในส่วนของหุ้นกลุ่มนักขุด Bitcoin เช่น Hut 8 (HUT), Marathon Digital (MARA), Riot Platforms (RIOT) และ Iris Energy (IREN) เพิ่มขึ้นเกือบ 5% หรือมากกว่าในวันเดียว แม้ว่าหุ้นกลุ่มนี้ยังคงซื้อขายต่ำกว่าระดับสูงสุดในเดือนธันวาคม
Hut 8 นำทีมด้วยการเพิ่มขึ้นกว่า 12% หลังจากรายงานผลขาดทุนในไตรมาสแรกที่ $1.30 ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับกำไร $2.76 ต่อหุ้นในปีที่แล้ว รายได้ทั้งหมดลดลงเหลือ $21.8 ล้าน จาก $51.7 ล้านในปีที่ผ่านมา โดยนักวิเคราะห์จาก FactSet คาดการณ์ว่าบริษัทจะขาดทุนเพียง $0.11 ต่อหุ้น และมีรายได้ $32.2 ล้าน
สำหรับ Bitcoin Reserve ของ Hut 8 ณ วันที่ 31 มีนาคม มีทั้งหมด 10,264 BTC เพิ่มขึ้นจาก 9,102 BTC ในปีที่แล้ว
โดยสรุป ราคา Bitcoin ทะลุ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางข้อตกลง COINBASE-Deribit และความเคลื่อนไหวทางกฎหมายที่เกิดขึ้นในรัฐต่างๆ ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้น ความสนใจใน Ethereum เพิ่มขึ้น และหุ้น crypto ก็กำลังทดสอบจุดซื้อ นักลงทุนควรติดตามพัฒนาการเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อทำความเข้าใจภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาด cryptocurrency












