Visa เตรียมเปิดตัว VTAP แพลตฟอร์มออก Stablecoins ระดับโลกสำหรับธนาคาร!

Visa เตรียมที่จะเปิดตัว Visa Tokenized Asset Platform (VTAP) ทั่วโลกในปี 2025 ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารต่างๆ สามารถออกโทเค็นที่มีสกุลเงินเฟียตค้ำประกัน (ซึ่งรวมไปถึง Stablecoins) และสามารถจัดการธุรกรรมดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
VTAP จะช่วยให้ธนาคารสามารถสร้าง เผา และโอน Stablecoins และโทเค็นอื่นๆ ที่มีสกุลเงินเฟียตค้ำประกันเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานในรูปแบบดิจิทัล
Visa ยืนยันว่าแพลตฟอร์มนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ และคาดว่าจะเริ่มใช้งานจริงได้ในปีหน้า
Visa จะทดสอบ Stablecoins บน Ethereum ในปี 2025
ตอนนี้ VTAP กำลังอยู่ในช่วงทดสอบและเตรียมพร้อมสำหรับการทดลองใช้งานจริงครั้งแรก ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการบนบล็อกเชน Ethereum ในปี 2025
การทดลองในครั้งนี้จะเป็นการเลือกสถาบันการเงิน โดยทดสอบการออกและโอนโทเค็นในระดับของการใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริง
ช่วงแรก VTAP จะใช้สำหรับการดำเนินงานภายในธนาคารเท่านั้น แต่ Visa วางแผนที่จะอนุญาตให้สถาบันต่างๆ ที่ใช้งานแพลตฟอร์มนี้สามารถทำงานร่วมกันได้ในอนาคต
VTAP มุ่งหวังที่จะช่วยให้ธนาคารจัดการ Stablecoins และ เงินฝากที่อยู่ในรูปแบบของโทเค็นภายในระบบของพวกเขาเองได้ โดยการผสานรวมเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับระบบการเงินแบบดั้งเดิมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้น
BBVA จะออก Stablecoins ตัวแรกผ่าน VTAP ของ Visa
หนึ่งในสถาบันแรกๆ ที่ทำการทดสอบแพลตฟอร์ม VTAP ของ Visa คือธนาคาร BBVA จากสเปน ซึ่งได้ร่วมมือกับ Visa มาตลอดปี 2024
รายงานของ Fortune ระบุว่า BBVA กำลังศึกษาว่าจะใช้ VTAP ในการออก Stablecoins และโทเค็นที่มีสกุลเงินเฟียตค้ำประกันได้อย่างไร
ธนาคารนี้มีส่วนร่วมในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2014 โดยให้บริการซื้อขายและเก็บรักษาคริปโตสำหรับลูกค้าในระดับสถาบัน
Stablecoin ของ BBVA ที่คาดว่าน่าจะค้ำประกันด้วยสกุลเงินยูโรหรือดอลลาร์สหรัฐฯ จะใช้สำหรับธุรกรรมภายในก่อน อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีแผนที่จะขยายขอบเขตการใช้งานไปยังลูกค้าภายนอกเมื่อเทคโนโลยีนี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
BBVA เชื่อว่าบล็อกเชนมีศักยภาพที่มากพอจะเปลี่ยนแปลงการทำธุรกรรมดิจิทัลและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการเงิน
“เราทราบดีว่าบล็อกเชนสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราแลกเปลี่ยนมูลค่าในรูปแบบดิจิทัล และส่งผลต่อการทำงานของระบบการเงินได้” Francisco Maroto หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนของ BBVA กล่าว






