BIS ชี้สภาพคล่อง Uniswap V3 ถูกควบคุมโดยผู้เล่นรายใหญ่
จากการวิเคราะห์กิจกรรมบน Uniswap v3 ซึ่งเป็นหนึ่งในเว็บเทรดแบบกระจายศูนย์ที่ใหญ่ที่สุด นักวิจัยได้พบความจริงที่น่าตกใจ: แม้ว่า DeFi จะถูกออกแบบให้เป็นระบบกระจายศูนย์ แต่ในทางปฏิบัติกลับถูกควบคุมโดยกลุ่มนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญเพียงไม่กี่ราย

การวิจัยในเดือนพฤศจิกายน 2024 โดยธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ได้สร้างข้อสงสัยเกี่ยวกับลักษณะการกระจายศูนย์ของระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) โดยนักวิจัยได้วิเคราะห์บล็อกเชน Ethereum เพื่อศึกษาการทำงานภายในของ Uniswap V3 ซึ่งเป็นหนึ่งในเว็บเทรดแบบกระจายศูนย์ที่ใหญ่ที่สุด
การวิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ Pools สภาพคล่อง 250 อันดับแรกของ Uniswap v3 ซึ่งคิดเป็นประมาณ 96% ของปริมาณการเทรดทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม โดยการวิเคราะห์สถานะของพูลเหล่านี้ในระดับธุรกรรม นักวิจัย Matteo Aquilina, Sean Foley, Leonardo Gambacorta และ William Krekel สามารถเข้าใจพฤติกรรมของผู้ให้สภาพคล่องทั้งรายย่อยและสถาบัน
สภาพคล่องบน Uniswap V3: ใครคือผู้เล่นใหญ่ใน Liquidity Pool?
งานวิจัยนี้เจาะลึกข้อมูลจาก Ethereum blockchain โดยวิเคราะห์การทำงานของ Uniswap V3 ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Decentralized Exchange (DEX) ที่ใหญ่ที่สุดใน 250 Liquidity Pool แรกที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุด (รวมกันถึง 96% ของทั้งหมด) นักวิจัยพบว่า ผู้เล่นรายใหญ่ หรือ “Sophisticated Agents” ถือครองมูลค่ารวม (Total Value Locked – TVL) ถึง 80% พวกเขามุ่งเน้นไปที่ Pool ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงและความผันผวนต่ำ พร้อมใช้กลยุทธ์การซื้อขายขั้นสูงและเงินทุนจำนวนมากเพื่อเอาชนะผู้เล่นรายย่อย
ผลลัพธ์คือผู้ให้สภาพคล่องรายย่อยที่มักขาดความเชี่ยวชาญ และไม่เข้าใจความซับซ้อนเหล่านี้จะได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมเพียงน้อยนิดและผลตอบแทนจากการลงทุนที่ค่อนข้างต่ำกว่ามาก ในความเป็นจริงแล้ว จากการวิเคราะห์พบว่า นักลงทุนรายย่อยกลับกลายเป็น ขาดทุน เมื่อพิจารณาในมุมของ ผลตอบแทนที่ปรับความเสี่ยงแล้ว (Risk-Adjusted Returns)
DeFi จริงๆ แล้วกระจายอำนาจจริงหรือไม่?
DeFi มีจุดมุ่งหมายเพื่อ “กระจายอำนาจ” (Decentralization) และสร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้กับทุกคน แต่งานวิจัยจาก BIS ชี้ว่าแรงผลักดันทางเศรษฐกิจที่คล้ายกับการเงินแบบดั้งเดิมยังคงนำไปสู่การรวมศูนย์ การเข้าถึงโปรโตคอลอย่างอิสระไม่ได้ขจัดปัจจัยที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ แต่ในความเป็นจริง ความสามารถในการให้สภาพคล่องกลับถูกผูกขาดอยู่ในมือของคนกลุ่มเล็กๆ แน่นอนว่าการเปิดเผยนี้ท้าทายหลักการหัวใจสำคัญของ DeFi
อีกมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ
ถึงแม้งานวิจัยของ BIS จะให้มุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับการรวมศูนย์ แต่ Gordon Liao หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ Circle และอดีตหัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Uniswap Labs ได้แสดงข้อโต้แย้ง:
- ผลตอบแทนที่ผู้เล่นใหญ่ได้รับสูงกว่าผู้เล่นรายย่อยเพียงเล็กน้อย (น้อยกว่า 15%)
- ในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม เช่น Central Limit Order Book (CLOB) นักลงทุนรายย่อยต้องเผชิญกับความเสียเปรียบที่มากกว่านี้
Liao ยังแนะนำว่า การปรับการตั้งค่าเริ่มต้น เช่น Default Tick Range และการใช้ Vaults อาจช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานและกระจายโอกาสให้เท่าเทียมมากขึ้น
สรุปบทเรียนที่ได้จากเรื่องนี้
DeFi อาจไม่ได้กระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนทุกคนได้ลองเข้าร่วม สิ่งสำคัญคือ:
- เข้าใจความเสี่ยง: เช่น Impermanent Loss และการแข่งขันกับผู้เล่นใหญ่
- ศึกษากลยุทธ์: รู้ว่าผู้เล่นรายใหญ่ใช้เครื่องมืออะไร และพยายามหาโอกาสในช่องว่างที่ยังแข่งขันได้
- พัฒนากลไกโปรโตคอล: การปรับแต่งระบบ เช่น การปรับ Tick Range หรือใช้ Vaults อาจช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้ในอนาคต






