Bitcoin ตึงจัด! บ. UK ไม่หวั่นดัชนีความโลภสูงปรี้ด ยันถือ BTC กันเงินเฟ้อ

Bitcoin (BTC) ได้รักษาระดับราคาเหนือ 109,000 อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้ทะลุ 110,000 แล้ว โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 1.58% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และแม้ว่าดัชนีความโลภจะพุ่งสูงถึง 71 ก่อนหน้านี้ บริษัทใหญ่จาก UK ก็ยังสู้ราคาและซื้อเหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งนี้เพิ่มอีก 45 BTC

The Smarter Web Company ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหราชอาณาจักร ได้ตัดสินใจซื้อ BTC เพิ่มจำนวน 45 เหรียญ มูลค่าราว 4.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 153 ล้านบาท) เข้าสู่คลังของบริษัท โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาว 10 ปี

นับเป็นอีกหลักฐานว่า Bitcoin ถูกนำมาใช้ในภาคองค์กรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนจำนวน 126 แห่งทั่วโลกที่ถือ BTC รวมกว่า 800,000 เหรียญ

ไม่ธรรมดา! เผยนโยบายคลังดิจิทัลของ The Smarter Web Company

บริษัท The Smarter Web Company เปิดเผยการเข้าซื้อ BTC จำนวน 45.32 เหรียญ โดยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายคลังที่เรียกว่า “The 10 Year Plan” ซึ่งมุ่งเน้นการสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่ออนาคต

แม้ว่ากลยุทธ์การสะสม BTC ของบริษัทนี้จะเพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน (เพิ่งเริ่มเข้าซื้อครั้งแรกในเดือนเมษายนที่ผ่านมา) แต่การซื้อครั้งล่าสุดช่วยเพิ่มจำนวน BTC ที่บริษัทถือครองขึ้นเกือบ 55%

The Smarter Web Company (#SWC) RNS Announcement: Bitcoin Purchase.

Purchase of additional Bitcoin as part of "The 10 Year Plan" which includes an ongoing treasury policy of acquiring Bitcoin.

Please read the RNS on our website: https://t.co/z59Xf4oBRU pic.twitter.com/vmtFzjsQeY

— The Smarter Web Company (@smarterwebuk) June 10, 2025

จากเอกสาร Regulatory News Service (RNS) เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พบว่าบริษัทใช้เงิน 4,736,000 ดอลลาร์ในการซื้อครั้งนี้ โดยราคาเฉลี่ยต่อ 1 BTC อยู่ที่ 104,935 ดอลลาร์

หลังการซื้อครั้งนี้ บริษัทมี BTC รวมทั้งสิ้น 168.08 เหรียญ ด้วยต้นทุนรวม 17,703,000 ดอลลาร์ และราคาต้นทุนเฉลี่ย (DCA) อยู่ที่ 105,779 ดอลลาร์ต่อ 1 เหรียญ

The Smarter Web มุ่งเดิมพันอนาคตกับ Bitcoin ตามรอย Strategy

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ The Smarter Web Company แสดงความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดังกล่าว บริษัทได้เริ่มรับชำระเงินด้วย BTC ตั้งแต่ปี 2023 โดยเน้นย้ำว่า BTC จะเป็นส่วนสำคัญของระบบการเงินโลกในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทกำลังมองหาโอกาสทั้งในด้านการเติบโตภายในและการควบรวมกิจการ พร้อมบุกเบิกการผสานนโยบายคลังสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่กลยุทธ์ธุรกิจ โดยมี Bitcoin เป็นแกนหลัก

ทุกวันนี้บริษัทหลายแห่งได้นำกลยุทธ์การสะสม BTC มาใช้กันมากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มระดับโลกที่นำโดยบริษัทอย่าง Strategy ในสหรัฐอเมริกา และ Metaplanet ในญี่ปุ่น

ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัท Abraxas Capital ซึ่งจดทะเบียนในอังกฤษ ก็ได้ซื้อ BTC จำนวนเกือบ 3,000 เหรียญ มูลค่าราว 250 ล้านดอลลาร์

⛏️ UK-based gold miner Bluebird Mining @bluebirdIR said it will convert future revenue into Bitcoin, becoming the country’s first listed miner with a Bitcoin treasury strategy.#GoldMining #BitcoinTreasury https://t.co/OiBjiLEHi0

— Cryptonews.com (@cryptonews) June 5, 2025

ขณะที่ Bluebird Mining Ventures Ltd บริษัทเหมืองแร่ทองคำในอังกฤษ ประกาศเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ถึงแผนการเปลี่ยนรายได้ในอนาคตให้เป็น BTC โดยตั้งเป้าที่จะเป็นบริษัทเหมืองแร่แรกในอังกฤษที่ใช้กลยุทธ์คลัง Bitcoin-first

ในเดือนเดียวกัน IG Group บริษัทการค้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ยังได้เปิดบริการใหม่ที่ช่วยให้นักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) และ Ripple (XRP)

ตลาด BTC คึกคัก ดัชนี Fear and Greed Index พุ่งสูงสุด

กระแสการนำ Bitcoin มาใช้ในอังกฤษกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว บริษัทด้านสินทรัพย์ดิจิทัลต่างระดมทุนจากตลาดทุนเพื่อเข้าซื้อ BTC ในปริมาณมาก โดยได้รับแรงหนุนจากราคาที่พุ่งสูงขึ้น

ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา BTC ทำสถิติใหม่ที่ 111,965 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากต้นเดือนเมษายน ซึ่งส่งผลให้เกิดการจดทะเบียนบริษัทใหม่และการควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมนี้

ปัจจุบัน มีบริษัทจดทะเบียน 126 แห่งที่ถือครอง BTC ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 89 แห่งในเดือนเมษายน รวมกันมีสินทรัพย์กว่า 800,000 BTC หรือมูลค่าราว 8.8 หมื่นล้านดอลลาร์

ราคา BTC ในช่วงเวลานี้ฟื้นตัวขึ้นกว่า 1.58% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยซื้อขายอยู่ที่เหนือ 110,000 ดอลลาร์แล้ว หลังจากแตะจุดสูงสุดไปในวันที่ 110,561.42 ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนี Fear and Greed Index ก็พุ่งสูงถึงระดับ 71 ก่อนจะลดลงมาเล็กน้อยเหลือประมาณ 64 ซึ่งอยู่ในโซน “Greed” สะท้อนถึงความโลภในตลาดที่เพิ่มขึ้น

นักวิเคราะห์หลายคนยังคงเชื่อมั่นว่า “ทองคำดิจิทัล” นี้ยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก Jesse Myers หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์บิทคอยน์ของ Moon Inc. ชี้ว่า BTC เหลือให้ขุดเพียง 5.4% ของจำนวนทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ และเมื่อถึงปี 2028 หลังการ Halving ครั้งถัดไป จะเหลือเพียง 3.125% เท่านั้น

นอกจากนี้ Myers ยังกล่าวว่า ในปัจจุบัน มีประชากรโลกเพียง ~0.1% ที่ใช้ BTC ในฐานะสินทรัพย์ออมหลัก ซึ่งหมายความว่า 99.9% ของประชากรยังต้องแข่งขันเพื่อให้ได้ครอบครองส่วนที่เหลืออยู่

ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์อย่าง Scott Melker และนักลงทุนพันล้านอย่าง Tim Draper จึงเชื่อว่า BTC อาจแตะระดับ 250,000 ดอลลาร์เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้

การเข้าซื้อของ The Smarter Web Company และแนวโน้มการยอมรับในหมู่บริษัทจดทะเบียนทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งในสกุลเงินดิจิทัลนี้ แม้ว่าตลาดจะอยู่ในสภาวะ ‘ความโลภ’ แต่การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า BTC ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความหายากที่เพิ่มขึ้นหลังการ halving แต่ละครั้ง