WLFI ที่ได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ ซื้อ ETH, LINK และ AAVE มูลค่า 12 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ยอดถือ ETH รวม 56 ล้าน

Author

Anuchit Laemsing

Author

Anuchit Laemsing

About Author

นักเขียนด้านคริปโตและเทคโนโลยี...

Read Author

แชร์

Copied

Fact Checked by

Amy

Crypto Writer

Amy

Read Author

Last updated:

ธันวาคม 12, 2024 10:04 UTC

ทำไมจึงไว้วางใจ Cryptonews

เป็นเวลามากว่า 10 ปีที่ Cryptonews ได้รายงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเรา ทีมงานนักข่าวและนักวิเคราะห์ของเรามีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในด้านการวิเคราะห์ตลาดและเทคโนโลยีบล็อกเชน เรามุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานด้านบรรณาธิการให้อยู่ในระดับสูง โดยเน้นความถูกต้องของข้อเท็จจริงและการรายงานอย่างสมดุลในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นคริปโตเคอเรนซี โปรเจกต์บล็อกเชน งานอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือการพัฒนาเทคโนโลยี การที่เราอยู่ในอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ https://cryptonews.com/about-us/">อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cryptonews

การเปิดเผยโฆษณา

เรามุ่งมั่นในการสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่กับผู้อ่านของเรา บางเนื้อหาในเว็บไซต์อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากความร่วมมือเหล่านี้

WLFI ได้ซื้อ ETH เป็นจำนวน 2,631 โทเค็นในราคา 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีราคาเฉลี่ย 3,801 เหรียญสหรัฐฯ ต่อโทเค็น

World Liberty Financial (WLFI) โครงการการเงินแบบกระจายอำนาจที่สนับสนุนโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทำการซื้อ Ethereum (ETH), Chainlink (LINK) และ Aave (AAVE) เป็นจำนวนมากโดยใช้ USD Coin (USDC) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา กระเป๋าเงินแบบ Multisignature ของ WLFI ได้บันทึกรายการธุรกรรมมูลค่า 12 ล้านดอลลาร์ที่ส่วนใหญ่ใช้จ่ายกับ Ethereum

ข้อมูลบล็อกเชนจาก Etherscan แสดงให้เห็นว่า WLFI ได้ซื้อ 2,631 ETH ในราคา 10 ล้านดอลลาร์ ด้วยราคาเฉลี่ย 3,801 ดอลลาร์ต่อโทเค็น การซื้อครั้งนี้ทำให้ Ethereum ที่ถูกถือครองในโครงการมีมากกว่า 14,500 ETH หรือมูลค่ามากกว่า 56 ล้านดอลลาร์ และหลังจากทำธุรกรรมดังกล่าว ส่งผลให้ราคาของ Ethereum พุ่งสูงขึ้น 6.86% ภายใน 24 ชั่วโมง

LINK และ AAVE ราคาพุ่งขึ้นหลังจาการซื้อของทรัมป์

นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังลงทุนอีก 1 ล้านเหรียญสหรัฐใน Chainlink และ Aave โดย WLFI ซื้อโทเค็น LINK จำนวน 41,335 โทเค็นในราคา 24.2 เหรียญสหรัฐต่อหน่วย และโทเค็น AAVE จำนวน 3,357 โทเค็นในราคา 297 เหรียญสหรัฐต่อหน่วย ส่งผลให้หลังจากการซื้อโทเค็นทั้งสองมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดย LINK เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% และ AAVE เพิ่มขึ้นมากกว่า 33% ภายใน 1 วัน

การซื้อคริปโตครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ก่อตั้ง TRON อย่าง Justin Sun ลงทุน 30 ล้านเหรียญสหรัฐใน WLFI ซึ่งต่อมาได้เข้าร่วมโครงการในฐานะที่ปรึกษา และ Sun ได้ประกาศการสนับสนุนของเขาบนโซเชียลมีเดีย โดยเน้นย้ำถึงความเชื่อของเขาว่าสหรัฐฯ จะกลายเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมบล็อกเชนภายใต้การนำของทรัมป์

WLFI เปิดตัวในเดือนกันยายน และวางตำแหน่งตัวเองเป็นตลาดเงินแบบกระจายอำนาจที่ให้ผู้ใช้สามารถยืม ให้ยืม และรับดอกเบี้ยจากสินทรัพย์คริปโต แม้จะปรับลดเป้าหมายการระดมทุนเริ่มต้นลง แต่โครงการนี้สามารถระดมทุนได้มากกว่า 55 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้รับการสนับสนุนจากการรับรองและการลงทุนจากบุคคลที่มีชื่อเสียง