นักวิเคราะห์ชี้ รัฐบาล Trump ควบคุมตลาดหุ้น – กดดันให้ Fed ลดดอกเบี้ย

รัฐบาลทรัมป์กำลังแทรกแซงตลาดหุ้น? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย หลังนักวิเคราะห์ Bitcoin (BTC) กล่าวว่าประธานาธิบดี Donald Trump และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Scott Bessent อาจกำลังสร้างความปั่นป่วนในตลาดสินทรัพย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อบีบให้ Federal Reserve ลดอัตราดอกเบี้ย

Pompliano แจง รัฐบาลทรัมป์ควบคุมตลาดหุ้น

Anthony Pompliano นักวิเคราะห์ด้าน Bitcoin และผู้ก่อตั้ง Professional Capital Management ได้ออกมาชี้ให้เห็นถึงการกระทำของรัฐบาล Trump ที่อาจมีความตั้งใจในการกดดันตลาดการเงินเพื่อผลักดัน Jerome Powell ประธานของ Federal Reserve ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย

Pompliano อ้างว่า ประธานาธิบดี Donald Trump และ Scott Bessent รัฐมนตรีคลัง พยายามทำให้ราคาสินทรัพย์ตกต่ำ เพื่อบังคับให้ Fed ลดอัตราดอกเบี้ย

Pompliano ยังให้ความเห็นว่า การลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการหลีกเลี่ยงการรีไฟแนนซ์หนี้ของสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์ในอนาคต

“Trump และทีมของเขากำลังจงใจทำให้ตลาดพังหรือไม่? นี่เป็นแผนการอันชาญฉลาดหรือเป็นการทำลายล้างแบบไร้การควบคุมกันแน่?” เขาตั้งคำถาม

Powell ยืนกราน ไม่ลดดอกเบี้ย แม้เจอแรงกดดันจาก Trump

ทฤษฎีนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก Powell ปฏิเสธที่จะลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่า Trump จะเรียกร้องให้ลดต้นทุนการกู้ยืมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในเดือนมกราคม Fed คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25% ถึง 4.5% โดยยังคงจุดยืนที่ระมัดระวังเนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

Pompliano โต้แย้งว่า ภาษีที่ทรัมป์เพิ่งประกาศใช้ไม่นานมานี้ มีส่วนทำให้เกิดความตื่นตระหนกในตลาด และส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงจากประมาณ 4.8% ในเดือนมกราคม เหลือ 4.21%

กล่าวคือ การลดลงของผลตอบแทนพันธบัตรอาจช่วยสร้างเหตุผลสนับสนุนการลดดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมลดลงและกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า Trump จะตั้งใจหรือไม่ ตลาดหุ้นก็ตกลงอย่างหนักในช่วงนี้

ตลาดหุ้น & Crypto ได้รับผลกระทบ

ในวันที่ 10 มีนาคม ดัชนี S&P 500 (SPY) ลดลง 2.66% และ Nasdaq100 ลดลงถึง 3.8% ตามข้อมูลจาก Google Finance และเมื่อพิจารณาในช่วงเดือนที่ผ่านมา ดัชนีทั้งสองลดลงถึง 7.32% และ 10.7% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ตลาด crypto เองได้รับผลกระทบหนักกว่า โดย Bitcoin (BTC) ลดลง 27.4% จากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 108,786 ดอลลาร์ และมูลค่าตลาด crypto โดยรวมลดลงกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม

Pompliano เชื่อว่าการเผชิญหน้าทางการเงินครั้งนี้ เปรียบเหมือนการแข่งขันจ้องตาว่า ‘ใครจะกระพริบตาก่อน’ ระหว่าง Trump และ Powell

แม้ Trump ยังไม่ได้ยืนยันว่าเขาใช้กลยุทธ์นี้อย่างจงใจ แต่ในบทสัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อวันที่ 9 มีนาคม เขาได้กล่าวเป็นนัยว่า “ไม่มีใครรวยได้ตอนที่ดอกเบี้ยสูง เพราะคนไม่สามารถกู้เงินได้”

Pompliano ยังชี้ว่า การลดดอกเบี้ยไม่เพียงช่วยยุทธศาสตร์การคลังของทำเนียบขาว แต่ยังสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคผ่านการลดต้นทุนของเงินทุนด้วย

ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล Trump และ Federal Reserve ในเรื่องนโยบายดอกเบี้ยยังคงดำเนินต่อไป และผลกระทบต่อตลาดหุ้นและ crypto ยังคงไม่แน่นอน

Fed จะยอมลดดอกเบี้ยหรือไม่?

แม้จะเผชิญแรงกดดันมากขึ้น แต่จากข้อมูลของ CME FedWatch Tool แสดงให้เห็นว่า มีโอกาส 96% ที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 19 มีนาคม

อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ประมาณ 50-50

Federal Reserve มักหลีกเลี่ยงการลดดอกเบี้ยในช่วงที่เงินเฟ้อยังสูง โดยให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพของราคา แต่หากตลาดยังคงถดถอยต่อเนื่อง ความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ “Trumpcession” (ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจาก Trump) อาจทำให้ Fed ต้องพิจารณาใหม่

ในอีกด้านหนึ่ง ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเผชิญการไหลออกของเงินลงทุน (outflows) โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนถอนเงินออกไปกว่า $876 ล้าน ซึ่งนับเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกันแล้ว

ถึงแม้ว่าอัตราการถอนเงินจะชะลอตัวลง แต่บรรยากาศ “ตลาดหุ้น” และ “ตลาดคริปโต” โดยรวมยังคงเป็นลบ โดยมูลค่าการถอนเงินรวมในเดือนที่ผ่านมาสูงถึง $4.75 พันล้าน ส่งผลให้ยอดการลงทุนสุทธิในปีนี้เหลือเพียง $2.6 พันล้าน และมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการ (AUM) ลดลงเหลือ $142 พันล้าน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2024