100 วันแรกของ Trump กับตลาดคริปโต: ความผันผวนคือจุดเริ่มต้นหรือลางร้าย?

การกลับมาของ Donald Trump สู่ทำเนียบขาวในรอบ 100 วันแรกได้สร้างความปั่นป่วนและความไม่แน่นอนในตลาดคริปโต แม้ว่าจะมีสัญญาณเชิงบวกต่อ Bitcoin แต่ก็มีความผิดหวังเกิดขึ้น นักวิจารณ์หลายคนมองว่านโยบายของ Trump ยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันตลาดคริปโตให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เหรียญมีม $TRUMP และ $MELANIA ประสบปัญหาอย่างหนัก นอกจากนี้ การแต่งตั้งบุคคลที่สนับสนุนคริปโตเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญและการเปิดตัวนโยบายที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin Reserve ก็สร้างความสับสนและความผันผวนให้กับนักลงทุน ทำให้ยากต่อการคาดการณ์ทิศทางในอนาคตของตลาดคริปโต
เหรียญมีม $TRUMP และ $MELANIA ร่วงหนัก: สัญญาณเตือนสำหรับตลาดคริปโต?
ก่อนการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี Trump ได้มีการเปิดตัวเหรียญ $TRUMP อย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อให้เกิดกระแสความคลั่งไคล้ในตลาด แต่ก็ตามมาด้วยข้อโต้แย้งมากมาย นักวิจารณ์หลายคนมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดแย้งทางผลประโยชน์อย่างโจ่งแจ้ง และอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญมีม $TRUMP ร่วงลง 82% จากราคาสูงสุดตลอดกาลที่ 75.35 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำไว้เมื่อวันที่ 19 มกราคม ในขณะที่เหรียญ $MELANIA ประสบปัญหาหนักกว่า โดยร่วงลงเกือบ 97% การร่วงลงอย่างหนักของเหรียญเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงและความผันผวนในตลาดเหรียญมีมและตลาดคริปโตโดยรวม

หลังจาก Trump กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว มีการคาดการณ์ว่าเขาจะลงนามในคำสั่งพิเศษที่สนับสนุนคริปโตหลายฉบับในวันแรก รวมถึงการสร้าง Bitcoin Reserve เชิงยุทธศาสตร์ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง Bitcoin พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ 109,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 20 มกราคม แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับไปถึงระดับนั้นอีกเลย
นโยบาย Bitcoin Reserve ของ Trump: การยอมรับหรือการจำกัดการเติบโตของคริปโต?
Trump ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ในงาน Bitcoin 2024 โดยการอภัยโทษ Ross Ulbricht ผู้ก่อตั้งตลาดมืด Silk Road อย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข นอกจากนี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติหลายคนที่สนับสนุน Bitcoin ก็ได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาอย่างรวดเร็ว รวมถึง Scott Bessent รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งประกาศว่า “คริปโตคือเรื่องของเสรีภาพ และเศรษฐกิจคริปโตจะอยู่ต่อไป”
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของ Trump ที่จะสร้าง “U.S. crypto reserve” ซึ่งประกอบด้วย XRP, Solana และ Cardano ทำให้เกิดความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจาก Bitcoin และ Ether ไม่ได้รับการกล่าวถึงในตอนแรก แม้ว่าภายหลังจะมีการแก้ไขนโยบายให้ Bitcoin เป็นหัวใจสำคัญของ Reserve แต่ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแผนดังกล่าว

คำสั่งพิเศษของ Trump ระบุว่า จะไม่มีการซื้อ BTC ใหม่เพิ่มเติมสำหรับ Reserve นอกเหนือจากที่ยึดได้จากอาชญากร เว้นแต่จะสามารถทำได้ในลักษณะที่เป็นกลางต่องบประมาณ นโยบายนี้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่คาดหวังว่าสหรัฐฯ จะกลายเป็นผู้ซื้อ BTC รายใหญ่ และอาจส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin ในระยะยาว
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและผลกระทบต่อตลาดคริปโต: คริปโตจะรอดพ้นจากวิกฤตได้หรือไม่?
ท่าทีที่ผันผวนของ Trump ต่อประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Jerome Powell และการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้า ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน สถานการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและตลาดคริปโต โดย Bitcoin ร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงต้นเดือนเมษายน
แม้ว่าต่อมา Trump จะระงับการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากบางประเทศ แต่ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์ของสหรัฐฯ และหันไปลงทุนในทองคำมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างต่อเนื่องสร้างความกังวลและความเหนื่อยหน่ายให้กับนักลงทุน ทำให้ยากต่อการคาดการณ์ทิศทางในอนาคตของตลาดคริปโต
ความหวังที่ Bitcoin จะทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้เริ่มลดลง นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า Bitcoin จะไม่สามารถทะลุ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐ ได้ภายในสิ้นปี 2025 สถานการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายและความไม่แน่นอนที่ตลาดคริปโตต้องเผชิญภายใต้การบริหารของ Trump
Best Wallet: ศูนย์กลางคริปโตครบวงจรที่คุณไม่ควรพลาด
ในปี 2025, Best Wallet กลายเป็นหนึ่งใน Bitcoin Wallet ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย การออกแบบที่ใช้งานง่าย และระบบนิเวศที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่การซื้อขาย การจัดการสินทรัพย์ ไปจนถึงการมีส่วนร่วมกับ Web3.0
Best Wallet โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งานคริปโต ไม่ว่าจะเป็นการจัดการพอร์ตโฟลิโอ การซื้อขายผ่าน DEX (Best DEX) ที่ช่วยให้การซื้อขายคริปโตเป็นไปอย่างราบรื่น และฟีเจอร์ Upcoming Tokens ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงโทเค็นใหม่ ๆ ได้ก่อนใคร
นอกจากนี้ Best Wallet ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับหนึ่ง โดยมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่หลากหลาย เช่น การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) และการล็อกด้วยไบโอเมตริกซ์ รวมถึงการรองรับบล็อกเชนมากกว่า 60 เครือข่าย ทำให้ Best Wallet เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนคริปโตทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
ดาวน์โหลดแอพ Best Walletโดยสรุป
การบริหารประเทศของ Donald Trump ในช่วง 100 วันแรกได้สร้างความผันผวนและความไม่แน่นอนให้กับตลาดคริปโต แม้ว่าจะมีนโยบายที่สนับสนุน Bitcoin แต่การเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างต่อเนื่องและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้ยากต่อการคาดการณ์ทิศทางในอนาคตของตลาดคริปโต นักลงทุนควรระมัดระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป






