UN เผย: Telegram เป็นแหล่งรวมแก๊งอาชญากรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รายงานฉบับใหม่ใหม่ของ UN ระบุว่า แพลตฟอร์มส่งข้อความแบบเข้ารหัส Telegram คือสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กรอาชญากรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางปัญหาทางกฎหมายของ Pavel Durov ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม
UN ระบุ Telegram มีปัญหาเรื่ององค์กรอาชญากรรม
ในรายงานวันที่ 7 ตุลาคม UN ระบุว่า แพลตฟอร์มนี้ที่ไม่มีการควบคุมที่มากเพียงพอ เช่น ผู้ให้บริการสินทรัพย์เสมือน (VASPs) “ถูกใช้งานโดยกลุ่มอาชญากรรมใหญ่ๆ เพื่อโยกย้าย ฟอกเงิน และนำเงินหลายพันล้านที่ได้จากการก่ออาชญากรรมเข้าสู่ระบบการเงินโดยไม่ต้องรับผิดชอบ”
ตามข้อมูลของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เจ้าพ่อการเงินทำเงินได้ระหว่าง 1.8-3.7 หมื่นล้านดอลลาร์จากการหลอกลวงเหยื่อในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2023 เพียงปีเดียว
ขณะเดียวกัน ดัชนีการยอมรับคริปโตทั่วโลกปี 2024 ของ Chainalysis แสดงให้เห็นว่าเอเชียกลาง เอเชียใต้ และโอเชียเนียมี 7 ประเทศจาก 20 อันดับแรกที่ช่วยขับเคลื่อนการยอมรับคริปโตทั่วโลก
Masood Karimipour ตัวแทนภูมิภาคของ UNODC ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกกล่าวว่า “กลุ่มอาชญากรรมกำลังรวมตัวกันและใช้ประโยชน์จากจุดอ่อน และสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงเร็วเกินกว่าที่รัฐบาลจะรับมือได้ทัน สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องตระหนักถึงความรุนแรง ขนาด และการเข้าถึงของภัยคุกคามระดับโลกนี้ และให้ความสำคัญกับทางออกที่แก้ไขระบบนิเวศอาชญากรรมที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วในภูมิภาค”
Pavel Durov ต้องติดคุก?
รายงานนี้เป็นการตอบโต้ล่าสุดที่ Durov ได้รับ หลังจากถูกจับกุมนอกกรุงปารีสเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถควบคุมเนื้อหาที่ผิดกฎหมายบน Telegram ได้
แม้ว่า Durov จะปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า แอปส่งข้อความนี้เป็น “สวรรค์ของความวุ่นวาย” แต่เขายอมรับในแถลงการณ์วันที่ 5 กันยายนว่า บริษัทยังมีช่องว่างให้ปรับปรุง
เขากล่าวว่า “การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้ใช้งาน Telegram กว่า 950 ล้านคน ทำให้เกิดปัญหาที่ทำให้เหล่าอาชญากรหันมาใช้แพลตฟอร์มของเราในทางที่ผิดได้ง่ายขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่ผมตั้งเป้าหมายเป็นการส่วนตัวว่าจะปรับปรุงเรื่องนี้ให้ดีขึ้น เราได้เริ่มกระบวนการต่างๆ ภายในแล้ว และผมจะแบ่งปันรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้าของเราในเร็วๆ นี้”
การจับกุม Durov ได้ทำให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องเสรีภาพในการพูดและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เป็นธรรม โดย Elon Musk ซีอีโอของ X และนักลงทุนคริปโตที่อยู่ในวงการมาช้านานได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวเขา
ตอนนี้ Durov ได้รับการประกันตัวแล้ว ผู้ก่อตั้งแอป Telegram อาจจะต้องเผชิญโทษจำคุกสูงสุด 10 ปีและปรับ 500,000 ยูโร (548,000 ดอลลาร์)






