เกาหลีใต้คว่ำบาตรบุคคล-องค์กรเกาหลีเหนือ ประเด็นโจรกรรม Crypto

รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรบุคคลจำนวน 15 คนและองค์กร 1 แห่งจากเกาหลีเหนือ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมไซเบอร์ที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการโจรกรรม crypto หรือสกุลเงินดิจิทัล

บุคคลที่ถูกคว่ำบาตรเหล่านี้มีรายงานว่ามีความเชื่อมโยงกับ Bureau 313 ซึ่งเป็นองค์กรภายใต้แผนก Machine-Building Industry Department ของ Workers’ Party of Korea ที่ดูแลการผลิตอาวุธและโครงการขีปนาวุธ

ตามคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ แผนกดังกล่าวถูกคว่ำบาตรโดยสหประชาชาติมาตั้งแต่ปี 2016

ผู้เชี่ยวชาญชาวเกาหลีเหนือ มุ่งเป้าแทรกซึมบริษัท IT ระดับโลก

กระทรวงการต่างประเทศเผยว่าผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ชาวเกาหลีเหนือ มักถูกส่งไปทำงานในประเทศต่าง ๆ เช่น จีน รัสเซีย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพวกเขาใช้วิธีทำงานภายใต้ตัวตนปลอมเพื่อเข้าถึงสัญญาจ้างงานจากบริษัท IT ระดับโลก

บางคนในกลุ่มนี้มีส่วนพัวพันกับการขโมยข้อมูลและการโจมตีทางไซเบอร์ด้วย

หนึ่งในบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรคือ Kim Cheolmin ซึ่งถูกระบุว่าได้แทรกซึมเข้าไปในบริษัท IT ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และโอนเงินจำนวนมหาศาลกลับไปยังเปียงยาง (Pyongyang)

นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังคว่ำบาตรองค์กรเกาหลีเหนือที่รับผิดชอบการส่งผู้เชี่ยวชาญ IT ไปทำงานในต่างประเทศ และโอนเงินตราต่างประเทศในปริมาณมากเพื่อสนับสนุนระบอบการปกครองและกิจกรรมทางการทหาร

การโจมตี Crypto ที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือ

การดำเนินการนี้เกิดขึ้นหลังจากมีหลักฐานเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการมีส่วนเกี่ยวข้องของเกาหลีเหนือในกรณีการแฮ็กคริปโตครั้งสำคัญ ๆ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา FBI ได้รายงานว่า การโจรกรรมมูลค่า 308 ล้านดอลลาร์จาก DMM Bitcoin ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตในญี่ปุ่น มีต้นเหตุมาจากแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ โดยการโจมตีดังกล่าวทำให้แพลตฟอร์มต้องปิดตัวลง

Merry hack-mas

North Korean hacking group pull off $307M crypto heist from the Japan-based exchange DMM Bitcoin.

The TraderTraitor group stole bitcoins worth about 48.2 billion yen ($307 million) from crypto-asset exchange service provider DMM Bitcoin in May, the National… pic.twitter.com/HmGc4TorrW

— Stacy (@PaTrumpGirl) December 24, 2024

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตรในลักษณะเดียวกันกับบุคคลและองค์กรที่มีส่วนร่วมในการฟอกเงินคริปโตเพื่อเกาหลีเหนือ ผ่านบริษัทบังหน้าใน UAE

ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ Blockchain ชื่อ Chainalysis ระบุว่า ในปี 2024 แฮกเกอร์เกาหลีเหนือได้ขโมยคริปโตมูลค่ารวม 1.34 พันล้านดอลลาร์จากเหตุการณ์โจมตี 47 ครั้ง ซึ่งคิดเป็น 61% ของการโจรกรรมคริปโตทั่วโลกในปีนั้น

รายงานยังชี้ให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้นของแรงงาน IT ชาวเกาหลีเหนือ ซึ่งใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น การสร้างตัวตนปลอม การว่าจ้างผ่านตัวกลางหรือบุคคลที่สาม และการทำงานแบบรีโมต เพื่อแทรกซึมเข้าไปในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตและ Web3

นักลงทุนคริปโตในเกาหลีใต้มีจำนวนทะลุ 15 ล้านคน

จากรายงานล่าสุด นักลงทุนคริปโตในเกาหลีใต้มีจำนวนเกิน 15 ล้านคนในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ข้อมูลจากธนาคารแห่งเกาหลี (Bank of Korea) ระบุว่า มีชาวเกาหลีใต้จำนวน 15.59 ล้านคนที่ถือบัญชีกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต 5 อันดับแรกของประเทศภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน

ยอดเงินฝากในแพลตฟอร์มเหล่านี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า โดยเพิ่มจาก 4.7 ล้านล้านวอน (ประมาณ 3.2 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนตุลาคม เป็น 8.8 ล้านล้านวอน (ประมาณ 6.03 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนพฤศจิกายน

การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้สะท้อนให้เห็นถึงผลสำรวจล่าสุดที่ชี้ว่า คนหนุ่มสาวในประเทศส่วนใหญ่สูญเสียความเชื่อมั่นในระบบบำนาญแห่งชาติ โดยหลายคนมองว่าคริปโตและหุ้นเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

การสำรวจพบว่ากลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 20-39 ปี มากกว่า 75% “ไม่ไว้วางใจ” ระบบบำนาญของรัฐ

นอกจากนี้ มากกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามที่ระบุว่ากำลังวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณ ยอมรับว่าตัวเองกำลังลงทุนในหุ้นและคริปโตเป็นหลัก