Solana ปะทะ Ethereum – ศึกเดือดบล็อกเชน ใครจะครองบัลลังก์?

การแข่งขันระหว่าง Solana (SOL) และ Ethereum (ETH) ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงในโลก crypto และล่าสุด Sygnum Group ซึ่งเป็นกลุ่มธนาคารที่เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบอย่างละเอียดเพื่อหาผู้ชนะที่แท้จริงในสงครามบล็อกเชนนี้
แม้ว่าอีเธอเรียมจะยังคงเป็นผู้นำตลาดด้วยมูลค่าตลาดและระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง แต่โซลาน่าก็เริ่มท้าชนด้วยความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูงกว่า ค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า และนวัตกรรมใหม่ๆ แล้ว
วันนี้เราจะมาเจาะลึกบทวิเคราะห์ของ Sygnum Group กัน ซึ่งอาจจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของแต่ละแพลตฟอร์ม และสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น
Solana vs. Ethereum ศึกนี้ไม่มีใครยอมใคร!
ในรายงาน “Digital Nugget” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางทีมวิจัยของ Sygnum ยอมรับว่า Ethereum ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในแง่ของรายได้และการยอมรับจากสถาบันการเงินอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าบรรยากาศในตลาดได้หันเหไปทาง Solana อย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน SOL จะยังไม่สามารถแซง ETH ได้แบบเบ็ดเสร็จ แต่ในแง่ของ “การยึดพื้นที่ทางความคิด” SOL กลับอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นกว่า
รายงานยังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Ethereum ซึ่งช่วยให้ ETH มีประสิทธิภาพเหนือกว่า SOL อยู่ประมาณ 5–10% โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาความสามารถในการขยายตัวของเครือข่ายหลักและการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยชี้ให้เห็นว่า แม้ Ethereum จะยังคงสร้างรายได้สูงกว่าและมีตำแหน่งผู้นำที่แข็งแกร่ง ความเชื่อมั่นในตลาดก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ในรายงานยังแยกประเด็นเรื่องค่าธรรมเนียม รายได้ และมูลค่าของโทเค็นออกมาอย่างชัดเจน แม้ว่าโซลาน่าจะสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมได้มากในช่วงที่ผ่านมา แต่รายได้จากโปรโตคอลของโซลาน่าก็ยังคงน้อยกว่าอีเธอเรียมอย่างมาก (ยกเว้นช่วงที่มีการออกโทเค็นของครอบครัว Trump บนโซลาน่า)
Sygnum ระบุว่ารายได้ของอีเธอเรียมยังคงสูงกว่าโซลาน่าถึง 2 ถึง 2.5 เท่า แม้ว่าโซลาน่าจะมีปริมาณธุรกรรมจากผู้ใช้งานทั่วไปเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตาม
ปัจจัย Layer-2 และผลกระทบต่อมูลค่าโทเค็น

ประเด็นเกี่ยวกับ Layer-2 ของ Ethereum ซึ่งเคยถูกวิพากษ์ว่าแย่งกิจกรรมออกจากเครือข่ายหลัก ได้รับการวิเคราะห์อย่างละเอียดในรายงาน
โดย Sygnum ระบุว่า Rollup อาจจะทำให้ตลาดมองว่า Ether มีมูลค่าน้อยลง แต่ยังมีประเด็นที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นกับ Solana เช่นกัน นั่นคือ ค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่ถูกจ่ายให้กับตัว Validator และไม่ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโทเค็น SOL โดยตรง
นอกจากนี้ ยังมีความพยายามจากชุมชน SOL ที่ต้องการปรับโครงสร้างเงินเฟ้อของเครือข่ายให้คล้ายกับกลไกการเผาค่าธรรมเนียม (Fee Burn) ของ Ethereum แต่ข้อเสนอนี้กลับถูกปัดตกอย่างเด็ดขาด
ศักยภาพในอนาคต
หากพิจารณาจากมูลค่าตลาด SOL ซึ่งยังคงอยู่ที่ประมาณหนึ่งในสามของ ETH แต่สามารถสร้างรายได้คิดเป็นครึ่งหนึ่งของ ETH นั้น ทาง Sygnum ชี้ให้เห็นว่า SOL มีโอกาสในการเติบโตมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อบรรยากาศตลาดและเรื่องราวดูจะเอื้ออำนวยต่อ SOL อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ความมั่นคงของรายได้ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญ เพราะรายได้ส่วนใหญ่มาจากภาคส่วน Memecoin หรือ เหรียญมีม ซึ่งนักลงทุนจำนวนหนึ่งยังมองว่ามีความเสถียรน้อย
เทียบตัวเลขชัดๆ
Ethereum ยังคงเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่สถาบันการเงินที่มีการกำกับดูแล ซึ่ง Sygnum ระบุว่า Use Case อย่าง Tokenisation, Stablecoin และ DeFi บน Ethereum ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล หน่วยงานกำกับดูแล และสถาบันการเงินดั้งเดิม
โดย Ethereum มีส่วนแบ่งตลาดของสินทรัพย์ที่ถูก Tokenised อยู่ที่ 57% และอีก 20% อยู่บน Layer-2 อย่าง zkSync ตัวอย่างเช่น BlackRock BUIDL Fund ที่มีสินทรัพย์ถึง 93% บน Ethereum โดยให้เหตุผลว่าเครือข่ายมีความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และการกระจายอำนาจที่สูง
ในทางกลับกัน Solana มีส่วนแบ่งในตลาด Tokenisation ต่ำกว่า 3% และแม้ว่าจะเพิ่มส่วนแบ่ง Stablecoin ได้เป็นสองเท่าในปีนี้ แต่ก็อยู่เพียง 5% เท่านั้น ซึ่งยังห่างจาก Ethereum อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เครือข่ายโซลาน่าได้สร้างความก้าวหน้าใน DeFi โดยเพิ่มส่วนแบ่ง Total Value Locked (TVL) จาก 9.5% เป็น 11.5% ในขณะที่ Ethereum ลดลงจาก 63.5% เหลือ 55% ตั้งแต่ต้นปี
สรุปภาพรวมใหญ่
Sygnum ยอมรับว่าในแง่ของ Narrative นั้น SOL กำลังสร้างความได้เปรียบเหนือ ETH แม้ Ethereum Foundation จะปรับกลยุทธ์และพยายามสื่อสารคุณค่าใหม่ แต่ปัจจัยเหล่านี้ยังไม่เพียงพอสำหรับการเปลี่ยนแปลงในระดับสถาบันการเงิน ซึ่งยังคงให้ความสำคัญกับความมั่นคง ความปลอดภัย และประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของ Ether
Sygnum สรุปว่าผลกระทบของ Network Effect ในวงการคริปโตนั้นยากที่จะเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย
แถมประวัติศาสตร์ที่ผ่านๆ มายังแสดงให้เห็นว่า เครือข่ายที่ขึ้นชื่อว่าจะมาโค่น Ethereum หรือที่เรียกกันว่า “Ethereum Killers” นั้น หลายรายก็ต้องล้มหายไป แม้จะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ทางเทคโนโลยีก็ตาม
ในท้ายที่สุด รายงานชี้ว่า Ethereum ยังคงได้เปรียบในด้านปัจจัยพื้นฐาน แม้ Solana จะเด่นในแง่ของ Narrative ก็ตาม การแข่งขันระหว่างทั้งสองแพลตฟอร์มในระยะกลางจะขึ้นอยู่กับว่าใครจะสามารถครองใจสถาบันการเงินโลกได้ก่อน
ในตอนนี้ ตลาดยังคงจับตามองปริมาณธุรกรรมที่สูงขึ้นของโซลาน่า แม้ว่ารายได้จากโปรโตคอลจะยังตามหลังอีเธอเรียมอยู่มากก็ตาม
ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ ETH มีราคาซื้อขายอยู่ที่เหนือ $2,400 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 5.7% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่ SOL มีราคาอยู่ที่เหนือ $171 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.01%












