ราคา Solana อาจร่วงหนักถึง 30 ดอลลาร์ในปี 2025 ท่ามกลางวิกฤติสภาพคล่อง

สถานการณ์ของ Solana (SOL) กำลังเผชิญความท้าทายอย่างหนัก หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดที่ระดับเกือบ 300 ดอลลาร์ในเดือนมกราคม ปัจจุบัน ราคา Solana ได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 124 ดอลลาร์ ลดลงกว่า 57% จากจุดสูงสุด ท่ามกลางแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งความกังวลทางเศรษฐกิจมหภาค การลดลงของกิจกรรมบนเครือข่ายและความสนใจจากนักลงทุนสถาบันที่ลดน้อยลง

หลายฝ่ายต่างวิเคราะห์ว่าราคา Solana อาจปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และในกรณีเลวร้ายที่สุดอาจดิ่งลงไปถึงระดับ 30 ดอลลาร์ในปี 2025 หากสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยเฉพาะหากเกิดภาวะ “Great Recession” ครั้งใหม่

สัญญาณเตือนทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานที่น่ากังวล

กราฟราคา Solana แสดงให้เห็นสัญญาณที่น่าเป็นห่วงอย่างชัดเจน โดยราคาได้ถูกปฏิเสธจากเส้นค่าเฉลี่ย 21 วัน (21DMA) หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา และยังเผชิญกับการปฏิเสธอย่างรุนแรงจากเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (200DMA) ในช่วงต้นเดือนมีนาคม สิ่งนี้บ่งชี้ว่าแรงขายยังคงมีอิทธิพลเหนือตลาด Solana อย่างมาก

นอกจากนี้ ความสนใจที่ลดลงจากนักลงทุนสถาบันในผลิตภัณฑ์ Futures ของ Solana บน CME ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มีแรงกระตุ้นในการผลักดันราคาให้ลดต่ำลงไปอีก

First day for Solana CME futures.

$12m notional volume 😭 pic.twitter.com/OTSfw90tJf

— adam (@abetrade) March 18, 2025

ค่าธรรมเนียมธุรกรรมบน Solana ซึ่งเป็นตัวชี้วัดกิจกรรมบน Chain ได้ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน สะท้อนถึงความต้องการใช้งาน Block Space ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตามข้อมูลจาก The Block

อีกทั้ง ปริมาณการซื้อขายบน DEX ของ Solana ได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2025 โดยปริมาณการซื้อขายรายวันลดลงเหลือเพียง 988 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าจุดสูงสุดถึง 97%

นอกจากนี้ Total Value Locked (TVL) ของ Solana อยู่ที่ 8.57 พันล้านดอลลาร์ และยังคงต่ำกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวของการไหลเข้าของเงินทุนสู่ระบบนิเวศของ Solana ขณะที่ตลาด Futures กำลังเผชิญกับการลดลงของ Open Interest (OI) โดยอยู่ที่ 4.04 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 24% จากเดือนก่อนหน้า

ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมหภาคและโอกาสที่ราคา Solana จะร่วง

สภาวะตลาดที่อ่อนแอของ Solana มีความสอดคล้องกับความกังวลทางเศรษฐกิจมหภาคที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความอยากเสี่ยงของนักลงทุนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังคงแข็งแกร่งในช่วงต้นปี 2025 แต่ความเสี่ยงต่อแนวโน้มในระยะกลางได้เพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากสงครามการค้าของทรัมป์และการตัดลดการใช้จ่ายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับ D.O.G.E

เจ้าหน้าที่ในคณะบริหารของทรัมป์และแม้แต่ประธานาธิบดีเองก็ได้เตือนว่าอาจมีช่วงการปรับตัวที่อาจเจ็บปวดสำหรับเศรษฐกิจและตลาด หากสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงมีเงินเฟ้อสูงซึ่งทำให้ความพยายามในการผ่อนคลายนโยบายของ Fed ซับซ้อนมากขึ้น และรัฐบาลดูเหมือนจะลังเลที่จะเพิ่มการกระตุ้นผ่านการใช้จ่ายของรัฐบาล อาจนำไปสู่การฟื้นคืนการพูดคุยเกี่ยวกับ “Great Recession” ครั้งใหม่

ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ Solana อาจลดลงไปจนถึงระดับของต้นปี 2023 ที่ 15-30 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการลดลงถึง 90% จากจุดสูงสุดในเดือนมกราคม ในโลกของ Crypto การลดลงเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด Altcoin Solana เองก็มีประวัติของการลดลงที่คล้ายกัน โดยลดลง 97% จากจุดสูงสุดในปี 2021 ที่มากกว่า 260 ดอลลาร์ ไปสู่จุดต่ำสุดในปี 2022 ที่ประมาณ 8 ดอลลาร์

แสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด: Solaxy จะช่วยฟื้นฟู Solana ในช่วงวิกฤติได้หรือไม่?

ในขณะที่ราคา Solana กำลังเผชิญกับแรงกดดันและอาจดิ่งลงไปต่ำกว่า 30 ดอลลาร์ในปี 2025 มีโปรเจกต์ที่น่าจับตามองอย่าง Solaxy (SOLX) ซึ่งกำลังพัฒนาโซลูชัน Layer 2 สำหรับ Solana เพื่อแก้ปัญหาความแออัดของเครือข่าย การทำธุรกรรมล้มเหลว และข้อจำกัดด้านการปรับขนาด ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการลดลงของกิจกรรมบนเครือข่ายและมูลค่าราคาในปัจจุบัน

Solaxy ใช้เทคโนโลยี Rollup ในการประมวลผลธุรกรรมนอกเชนหลัก โดยทำการรวมธุรกรรมหลายรายการเข้าด้วยกัน นำไปประมวลผลนอกเชน แล้วส่งกลับไปยังเชนหลัก ช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาที่ทำให้ค่าธรรมเนียมธุรกรรมบน Solana ลดลงไปอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน และปริมาณการซื้อขายบน DEX ของ Solana ลดลงอย่างรุนแรง

นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ท่ามกลางแนวโน้มขาลงของ Solana โปรเจกต์ Solaxy อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยพลิกฟื้นความเชื่อมั่นในระบบนิเวศ Solana ในอนาคต โดยเฉพาะหากสามารถแก้ไขปัญหาสภาพคล่องและประสิทธิภาพของการทำธุรกรรมได้ ซึ่งจะช่วยดึงดูดทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันให้กลับมาอีกครั้ง