อินชอนเกาหลีใต้ยึดคริปโตจากผู้หลบเลี่ยงภาษี ได้มากถึง 375,000 ดอลลาร์
การเปิดเผยโฆษณา
เรามุ่งมั่นในการสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่กับผู้อ่านของเรา บางเนื้อหาในเว็บไซต์อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากความร่วมมือเหล่านี้ระบุว่า ได้มีการยึดสินทรัพย์คริปโตมูลค่า 375,000 ดอลลาร์ จากผู้ที่พยายาม “เลี่ยงภาษี” และแอบซ่อนรายได้ไว้ในกระเป๋าโทเค็น
ตามรายงานของสื่อ Newsis มีการรวบรวมคนเลี่ยงภาษีในเมืองนี้ได้มากถึง 298 คน
โดยสื่อได้ตั้งข้อสังเกตว่า นี่คือเมือง “ที่มีการยึดสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin (BTC) ”
ประชาชนมีทางเลือกสองทาง ระหว่างการชำระภาษีและค่าปรับที่เกี่ยวข้อง หรือยอมให้บัญชีคริปโตของพวกเขาหายไป
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปราม “ผู้หลบเลี่ยง” ภาษีการถือครองคริปโตในแต่ละภูมิภาค ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาษีทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น
สํานักงานภาษีแห่งชาติ (NTS) ได้เพิ่มเครื่องมือตรวจสอบเหรียญคริปโตใหม่ ๆ ให้กับองค์กรในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการทำงานของกรมศุลกากร
หน่วยบริการภาษีของเมืองอินชอน ยังมีการยึดทรัพย์สินอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงพันธบัตร, ตู้เซฟในธนาคาร และ “สินทรัพย์ทางการเงินที่ซ่อนอยู่ในสถาบันการเงินอื่น ๆ ”
โดยรวมแล้ว เมืองนี้สามารถรวบรวมเงินจากผู้หลบเลี่ยงภาษีที่อาศัยอยู่ในอินชอน ในปีงบประมาณ 2023 ได้มากกว่า 43.6 ล้านดอลลาร์
การปราบปรามการหลีกเลี่ยงภาษีคริปโตในเกาหลีใต้ยังคงดำเนินต่อไป
คิม ซัง กิล หัวหน้าฝ่ายวางแผนทางการเงินของเมืองอินชอน กล่าวว่า:
ในอนาคต เราวางแผนที่จะดำเนินการจัดเก็บภาษีต่อผู้หลบเลี่ยงภาษีที่ไร้ความรับผิดชอบและเป็นอันตรายให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เราจะเพิ่มเทคนิคการเรียกเก็บเงินใหม่ ๆ ต่อไป เพื่อสนับสนุนการเงินและดำเนินการด้านภาษีอย่างยุติธรรม
ตั้งแต่ปี 2021 อินชอนได้เปิดตัวทีมสืบสวน ที่เกี่ยวข้องกับการหลบเลี่ยงภาษีโดยเฉพาะถึงสองทีม
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มชุดเครื่องมือไฮเทคใหม่ เพื่อช่วยตรวจจับผู้หลบเลี่ยงภาษีด้วย
รวมไปถึงโซลูชันที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในบางส่วน เนื่องจากเมืองอินชอนพยายามจะสร้าง “ระบบเครือข่ายที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น”
ในเดือนกันยายน 2022 เจ้าหน้าที่ด้านภาษีของเกาหลีใต้ กล่าวว่า พวกเขาได้ยึดสินทรัพย์คริปโตที่มีมูลค่ารวมถึง 186 ล้านดอลลาร์
ตั้งแต่เริ่มการปราบปรามจนถึงเดือนธันวาคม 2022 หน่วยงานภาษีระบุว่า พวกเขาสามารถยึดเหรียญจากพลเมืองได้แล้วเกือบ 6,000 คน