นับถอยหลัง! Ripple เตรียมเปิดตัว RLUSD Stablecoin
การเปิดเผยโฆษณา
เรามุ่งมั่นในการสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่กับผู้อ่านของเรา บางเนื้อหาในเว็บไซต์อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากความร่วมมือเหล่านี้เรียกได้ว่า Ripple บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังเหรียญ XRP กำลังกลับมาสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการคริปโตอีกครั้ง หลังจากการประกาศเปิดตัว Stablecoin คุณภาพระดับองค์กรอย่าง Ripple USD (RLUSD) ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ในด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การใช้งาน และความโปร่งใส ซึ่งจะเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ธันวาคม 2024
โดยภายในประกาศเปิดเผยว่า RLUSD จะเป็นสเตเบิลคอยน์ที่จะกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับความเชื่อถือและความน่าไว้วางใจในตลาด เนื่องจาก Ripple ได้ตัดสินใจพัฒนา RLUSD ภายใต้ใบอนุญาต limited purpose trust charter ของ NYDFS ที่มีความเข้มงวดสูง แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ทั้งนี้ปัจจุบันได้มีแพลตฟอร์มอย่าง Uphold, MoonPay, Archax และ CoinMENA เตรียมให้บริการ RLUSD ตั้งแต่แรกเริ่ม รวมถึงมีการคาดการณ์ว่าจะมีการลิสต์เพิ่มเติมในไม่ช้า การเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ ทั่วโลกครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วจากชุมชนผู้ใช้งาน
RLUSD จะมาตรฐานใหม่ของ Stablecoin ได้จริงหรือไม่?
เรียกได้ว่ากลยุทธ์ของ Ripple นั้นมุ่งเน้นไปที่การสร้างสเตเบิลคอยน์ ที่สามารถตอบสนองและเกินความคาดหวังของสถาบันการเงิน หน่วยงานกำกับดูแล และผู้ใช้งานทั่วไปได้ ซึ่ง RLUSD แต่ละโทเคนจะได้รับการค้ำประกันแบบเต็มจำนวน เพื่อให้มั่นใจถึงความเสถียรและสภาพคล่อง แม้ในสภาวะตลาดที่มีความผันผวน
ในขณะที่ Ripple ระบุว่าจะเผยแพร่การยืนยันจากบุคคลที่สามเกี่ยวกับทรัพย์สินสำรองของ RLUSD เป็นรายเดือน เพื่อให้มั่นใจถึงความโปร่งใสและสร้างความไว้วางใจ
จากมุมมองเชิงการใช้งาน RLUSD ถูกกำหนดให้มีบทบาทสำคัญในหลากหลายกรณีการใช้งาน โดยเฉพาะกับสถาบันต่าง ๆ ที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากสเตเบิลคอยน์ เพื่อการชำระเงินข้ามพรมแดนที่รวดเร็วทันที การบริหารสภาพคล่องที่ดีขึ้น และการผสานรวมที่ไร้รอยต่อกับโปรโตคอล DeFi
RLUSD ถูกกำหนดให้เป็นหัวใจสำคัญในการนำมาใช้เป็นหลักประกันสำหรับสินทรัพย์ในโลกจริงที่ถูกทำให้เป็นโทเคน เช่น สินค้าโภคภัณฑ์และหลักทรัพย์ บนบล็อกเชน
โดย Ripple ยังมีแผนที่จะนำ RLUSD เข้ามาใช้ในกระบวนการดำเนินงานภายใน Ripple Payments ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่ง ารผสานรวมในครั้งนี้จะขยายขอบเขตการใช้งานของ RLUSD ทำให้ภาคธุรกิจสามารถชำระเงินระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ทั้งประหยัดและรวดเร็ว
เรียกได้ว่า Ripple วิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างสะพานที่น่าเชื่อถือระหว่างเงิน Fiat และระบบนิเวศ blockchain เพื่อทำให้กระบวนการ on-ramp และ off-ramp สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยนผ่านระหว่างสองโลกนี้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูกันต่อไปว่าเหรียญ RLUSD จะสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ของสเตเบิลคอยน์ ได้จริงหรือไม่