MicroStrategy รีแบรนด์เป็น Strategy – ยืนหนึ่งผู้นำกลยุทธ์ Bitcoin

MicroStrategy ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อครั้งสําคัญ โดยรีแบรนด์ตัวเองเป็น “Strategy” เพื่อย้ำถึงภาพลักษณ์ในฐานะบริษัทที่ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมชูพันธกิจใหม่ที่ชัดเจนขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่ 2 เทคโนโลยีสําคัญแห่งศตวรรษที่ 21 ได้แก่ BTC และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
การปรับเปลี่ยนครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของบริษัทในการขับเคลื่อนการเติบโตผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีศักยภาพสูง
Strategy: ชื่อใหม่ที่สะท้อนความเรียบง่ายและความมุ่งมั่นใน BTC
บริษัทได้เปิดตัวชื่อใหม่ “Strategy” พร้อมกับเว็บไซต์โฉมใหม่และการปรับโฉมภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยเลือกใช้สีส้มเป็นสีหลัก และเผยโฉมโลโก้ใหม่ที่โดดเด่นด้วยตัว “B” อันมีสไตล์เฉพาะ ซึ่งออกแบบมาเพื่อสะท้อนความสําคัญของกลยุทธ์ BTC ที่เป็นหัวใจสําคัญของบริษัทนั่นเอง
Michael Saylor ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ Strategy ให้ความเห็นว่าคําว่า Strategy ถือเป็นหนึ่งในคําที่ทรงพลังและสื่อถึงความหมายเชิงบวกมากที่สุดในภาษามนุษย์
การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้จึงเป็นการลดความซับซ้อนของแบรนด์ให้เหลือแก่นสําคัญที่สะท้อนพันธกิจของบริษัทนั่นเอง
ดังนั้น การรีแบรนด์ครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนชื่อ แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจของบริษัทที่จะเดินหน้าไปด้วยความเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพด้วย ซึ่งผลปรากฏว่ามีหลายบริษัททำเช่นเดียวกัน
การสร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคต ผ่าน Bitcoin และ AI
Phong Le ประธานและ CEO ของ Strategy กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า “Strategy มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมในสองเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลมากที่สุดในยุคนี้ ได้แก่ บิทคอยน์ และปัญญาประดิษฐ์ ชื่อใหม่นี้สะท้อนถึงความเป็นบริษัทระดับโลกที่มีวิสัยทัศน์ และคุณค่าที่เรามอบให้กับผู้ถือหุ้น ลูกค้า พันธมิตร และพนักงาน”
การเปลี่ยนแปลงของ MicroStrategy สู่ Strategy ถือเป็นก้าวสําคัญที่สะท้อนถึงความตั้งใจของบริษัทที่จะเป็นผู้นําในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน BTC และ AI ซึ่งเป็นสองเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลกในยุคปัจจุบัน ซึ่งถือว่าวงการคริปโตมาไกลมากทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับยุคสมัยที่คริปโตเคอร์เรนซีเคยถูกปิดกั้น
ผลประกอบการ Q4 โดดเด่น! การเข้าซื้อ BTC ทุบสถิติใหม่
จากรายงานของ cryptopotato.com การเปิดเผยผลประกอบการล่าสุดแสดงให้เห็นว่าบริษัทถือครอง Bitcoin ทั้งหมดจํานวน 471,107 BTC ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 46B ล้านดอลลาร์ หากคิดตามราคาตลาดในปัจจุบัน
Andrew Kang ซึ่งดํารงตําแหน่ง Chief Financial Officer ได้กล่าวว่า “ในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 บริษัทได้สร้างสถิติใหม่ด้วยการเข้าซื้อครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีการเพิ่มพอร์ตลงทุนเป็นจํานวน 218,887 BTC ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 20.5B ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาตั้งแต่สิ้นสุดไตรมาสที่ 3”
การดําเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมของบริษัทในตัวบิทคอยน์ ในฐานะสินทรัพย์สํารองที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในระยะยาว
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ Michael Saylor ได้ยืนยันว่าบริษัทถือครองสินทรัพย์ดังกล่าวจํานวน 471,107 BTC ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2025 โดย Strategy ได้ลงทุนใน Bitcoin รวมเป็นเงินกว่า 30.4B ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เริ่มต้นการซื้อครั้งแรก
โดยเฉลี่ยแล้ว บริษัทได้จ่ายเงินที่ราคาประมาณ 64,511 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC การลงทุนในระดับมหาศาลนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของบริษัทที่ต้องการจะยกระดับบทบาทของตนในฐานะผู้เล่นสําคัญในอุตสาหกรรมบิทคอยน์
นอกจากนี้ บริษัท Strategy ยังได้เปิดตัวเกณฑ์ชี้วัดใหม่หลายตัวเพื่อประเมินผลลัพธ์ในอนาคต เช่น BTC Gain ซึ่งคํานวณจากจํานวนบิทคอยน์ที่บริษัทถือครอง ณ ต้นงวด คูณด้วย BTC Yield ในช่วงเวลานั้น และ BTC $Gain ซึ่งแปลงค่าของ BTC Gain เป็นดอลลาร์ตามราคาตลาดในวันสิ้นสุดไตรมาส
โดยในปี 2024 บริษัทได้สร้าง BTC Gain ที่ 140,538 และมีเป้าหมายที่จะสร้าง BTC $Gain ให้สูงถึง 10B ล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 บริษัทระบุว่า “ตัวชี้วัด BTC Gain และ BTC $Gain นี้ถือเป็น KPI สําคัญที่บริษัทใช้ในการติดตามความสําเร็จของกลยุทธ์การลงทุนใน Bitcoin ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น”






