Meta ตั้งเป้าที่จะใช้ Generative AI ในการพัฒนาเกมเมต้าเวิร์ส
Meta พยายามที่จะปฏิวัติวงการเกมในโลกเสมือนจริง (Metaverse) โดยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แบบ Generative AI มาใช้งาน
ประกาศรับสมัครงานล่าสุดของ Meta เผยให้เห็นถึงความตั้งใจของบริษัทที่จะสำรวจและสร้างต้นแบบของ “เกมเพลย์แบบใหม่อย่างสิ้นเชิง” ใน Metaverse ผ่านการผสมผสานเทคโนโลยี Gen-AI เข้ากับเกมแบบ VR, AR และ XR
บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการสร้างเกมที่ไม่สามารถคาดเดาได้ มีความเป็นส่วนตัว และสามารถพัฒนาตัวเองได้ในแต่ละครั้งที่เล่น สร้างประสบการณ์ที่ในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้
“นี่เป็นพื้นที่ใหม่ แต่มีศักยภาพในการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในปัจจุบัน”
ค่าจ้าง 347,000 ดอลลาร์
ผู้สมัครที่ผ่านเข้าทำงานจะได้เข้าร่วมกับแผนก Reality Labs ของ Meta ซึ่งโฟกัสในการพัฒนา Metaverse แต่ก็จะทำงานร่วมกับผู้บริหารของบริษัทด้วย
ตำแหน่งนี้เสนอเงินค่าจ้างประจำปีที่ประมาณ 347,000 ดอลลาร์ พร้อมโบนัส หุ้น และสวัสดิการอื่นๆ
แม้ว่าโฟกัสหลักจะอยู่ที่ Horizon ซึ่งเป็นระบบสร้างเกมแบบบูรณาการภายใน Metaverse ของ Meta แต่ตำแหน่งนี้ก็อาจจะขยายขอบเขตไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกเหนือจาก Meta เช่น มือถือ หรือ PC ได้
หนึ่งในหน้าที่หลักของตำแหน่งนี้จะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเครื่องมือที่สามารถเร่งการสร้างเนื้อหาบนแพลตฟอร์มของ Meta
Meta รับรู้ได้ถึงพัฒนาการอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี Gen-AI โดยเฉพาะในบริบทของการสร้างคอนเทนท์ และมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยการลงทุนอย่างมหาศาลในด้านนี้
ความมุ่งมั่นของ Meta ที่มีต่อเทคโนโลยี Generative AI ในเกมเมต้าเวิร์สเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บริษัทจัดสรรเงินเป็นจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับแผนก Metaverse ของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม แผนกนี้มีผลขาดทุนถึง 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีนี้
เป็นที่น่าสังเกตว่า ธุรกิจต่างๆ กำลังนำเทคโนโลยีเมต้าเวิร์สมาใช้งานสำหรับการประชุมเสมือนจริง การฝึกอบรม และการมีส่วนร่วมกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น
บริษัทต่างๆ ก็กำลังสำรวจเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (VR) สำหรับการทำงานระยะไกลและการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นหลังการระบาดครั้งใหญ่ของโรค Covid-19
บริษัทอย่าง Meta, Microsoft, Tencent และ Nvidia ก็กำลังลงทุนอย่างหนักในเรื่องเมต้าเวิร์สเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแพลตฟอร์มของตนและสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้งาน
ตัวอย่างเช่น Meta ซึ่งได้ลงทุน 50 ล้านดอลลาร์ในด้านการวิจัยและพัฒนาในระดับโลกสำหรับเมต้าเวิร์ส และ Epic Games ระดมทุนได้ 1 พันล้านดอลลาร์ รวมถึง การลงทุนมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์จาก Sony
ความพยายามด้าน AI ของ Meta ในบราซิลเจออุปสรรค
ในขณะเดียวกัน Meta ได้พบกับอุปสรรคในความพยายามด้าน AI ในบราซิล
หน่วยงานกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลแห่งชาติของประเทศบราซิลได้ตัดสินว่า Meta ถูกห้ามไม่ให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานชาวบราซิลเพื่อฝึกฝนโมเดล AI ของบริษัท
หน่วยงานคุ้มครองข้อมูลแห่งชาติได้สั่งให้ระงับนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ของ Meta ในทันที ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้รูปภาพ เสียง วิดีโอ และโพสต์ต่างๆ เพื่อฝึกฝน AI
การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอาจจะส่งผลให้ Meta ถูกปรับเป็นรายวัน วันละ 50,000 เรอัลบราซิล (ประมาณ 8,800 ดอลลาร์)
สำหรับการตอบกลับต่อคำตัดสินดังกล่าว Meta กล่าวว่า การตัดสินใจนี้จะทำให้การนำประโยชน์ของ AI มาสู่ประชากรชาวบราซิลล่าช้าออกไป
บราซิลเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Facebook ของ Meta โดยมีผู้ใช้งานอยู่มากกว่า 102 ล้านคน อ้างอิงจากข้อมูลของหน่วยงานกำกับดูแล






