Jefferies ระบุ “ความสามารถในการทำกำไรจากการขุด Bitcoin ฟื้นตัวกลับมาในเดือนมิถุนายน”

จากรายงาน Monday Research Report ของธนาคารเพื่อการลงทุน Jefferies เหล่านักขุด Bitcoin น่าจะคลายกังวลไปได้เล็กน้อยในเดือนมิถุนายน เนื่องจากราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 2% และ Hashrate โดยรวมของ Bitcoin ลดลง 5%

เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ช่วงเดือนพฤษภาคม ความสามารถในการทำกำไรของการขุด Bitcoin ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากแรงกดดันด้านราคา Bitcoin และการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม

อธิบายเรื่องความสามารถในการทำกำไรของการขุด Bitcoin

“เดือนมิถุนายนเป็นช่วงเวลาที่มีการฟื้นตัวเล็กน้อยจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการ Halving ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในช่วงเดือนพฤษภาคม” นักวิเคราะห์ Jonathan Petersen ระบุ

ณ วันที่ 6 กรกฎาคม แฮชเรต (Hashrate) โดยรวมของ Bitcoin อยู่ที่ 573 exahashes ต่อวินาที (EH/s) โดยที่ 1 exahash จะเท่ากับ 1 ล้านล้านแฮช ตามข้อมูลของ Blockchain.com

แฮชเรต (Hashrate) คืออัตราตัวเลขที่เป็นตัวแทนของการแข่งขันในการขุด โดยที่อัตราแฮชเรตโดยรวมที่สูงขึ้นจะหมายถึงความสามารถในการทำกำไรในการขุดรายบุคคลที่น้อยลง

ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรก็จะรวมไปถึง จำนวน Bitcoin ที่นักขุดสามารถขุดได้ และราคาตลาดของ BTC ณ ขณะนั้น

ปฏิสัมพันธ์ของปัจจัยเหล่านี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อความสามารถในการทำกำไรของการดำเนินงานในการขุด Bitcoin

เมื่อวันที่ 19 เมษายน เครือข่าย Bitcoin ได้เกิดเหตุการณ์ Halving ครั้งที่ 4 ซึ่งทำให้รางวัลขั้นต่ำในการขุด BTC ต่อบล็อกลดลงจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC

เมื่อรวมกับการลดลงของราคา เหตุการณ์นี้ทำให้ “Hashprice” ของ Bitcoin – ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความสามารถในการทำกำไรจากการขุด Bitcoin – ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 1 พฤษภาคม

Bitcoin price now around average cost to mine Bitcoin at the halving across all miners. This is a signal we are at the bottom. pic.twitter.com/akFOVTL6Q8

— MartyParty (@martypartymusic) July 7, 2024

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่ความสามารถในการทำกำไรลดลงส่งผลให้เหล่านักขุดที่ไม่มีประสิทธิภาพมากพอถอนตัวไป เหล่านักขุดที่มีประสิทธิภาพมากกว่าก็เข้ามาฉกฉวยโอกาสนี้ โดยการเพิ่มส่วนแบ่งของพวกเขาจากตลาดการขุด Bitcoin

ประสิทธิภาพของบริษัทขุด

Jefferies ยังรายงานด้วยว่า บริษัทขุด Bitcoin ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้ผลผลิตจากการขุด Bitcoin เพิ่มสูงขึ้นในเดือนมิถุนายน โดยคิดเป็นกว่า 20.8% ของส่วนแบ่งในเครือข่าย เมื่อเทียบกับ 19.1% ในเดือนพฤษภาคม

Marathon Digital (MARA) บริษัทขุดรายใหญ่ที่สุด ขุดได้ 590 BTC ในเดือนมิถุนายน ลดลง 4% จากเดือนพฤษภาคม

ในทางกลับกัน CleanSpark (CLSK) ขุดได้ 445 BTC เพิ่มขึ้น 7% จากเดือนก่อนหน้า

รายงานยังได้กล่าวถึงเรื่องแนวโน้มที่บริษัท Bitcoin ต่างๆ กระจายแหล่งรายได้ของตน โดยการลงทุนในระบบการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูง

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เป็นการใช้ประโยชน์จากความต้องการปัญญาประดิษฐ์และโครงสร้างการประมวลผลแบบคลาวด์ที่เพิ่มมากขึ้น

“ความสามารถในการทำกำไรจากการขุด Bitcoin ที่ลดลง ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่รุนแรงมากขึ้นหลังจากการ Halving ได้กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์นี้” Petersen อธิบาย