การลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed อาจส่งผลให้รายได้จาก Stablecoins ลดลงกว่า 625 ล้านดอลลาร์!

มีการคาดการณ์ว่า การตัดสินใจล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของ Stablecoins แบบรวมศูนย์ 5 อันดับแรก

ตามรายงานของ CCData ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 27 กันยายน Stablecoins เหล่านี้ซึ่งถือครองตั๋วเงินคลังสหรัฐรวมกันเกือบ 125 พันล้านดอลลาร์ อาจจะสูญเสียรายได้ดอกเบี้ยประมาณ 625 ล้านดอลลาร์สำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยทุก 50 เบสิสพอยต์ (bps)

รายงานเผยว่าตั๋วเงินคลังคิดเป็น 80.2% ของเงินสำรองที่ถือโดย Stablecoins รายใหญ่

ดังนั้น การลดอัตราดอกเบี้ยจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของพวกเขา

ตลาดคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ย 75bps ภายในสิ้นปี 2024

ข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group บ่งบอกว่า ตลาดคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยรวม 75 bps ภายในสิ้นปี 2024 รวมถึงการลด 50 bps ในเดือนพฤศจิกายนและการลดเพิ่มอีก 25 bps ในเดือนธันวาคม

หากคำทำนายเหล่านี้เป็นจริง Stablecoins อาจต้องเผชิญกับการสูญเสียรายได้เพิ่มเติม 937.5 ล้านดอลลาร์ ทำให้การสูญเสียรวมที่อาจจะเกิดขึ้นจากนโยบายผ่อนคลายของ Fed อยู่ที่ 1,562 ล้านดอลลาร์

ในบรรดา Stablecoins ที่ได้รับผลกระทบ USDT ของ Tether ถือครองเงินสำรองที่มีหลักประกันเป็นตั๋วเงินคลังมากที่สุด โดยมีมูลค่า 93,200 ล้านดอลลาร์ในตั๋วเงินคลังและข้อตกลงการซื้อคืน

Tether รายงานกำไรสุทธิ 5,200 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 โดยส่วนใหญ่มาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

USD Coin (USDC) ของ Circle ตามมาด้วยการถือครองพันธบัตรรัฐบาล 28,700 ล้านดอลลาร์ผ่าน Circle Reserve Fund

Stablecoins อื่นๆ เช่น First Digital USD (FDUSD), PayPal USD (PYUSD) และ TrueUSD (TUSD) ถือครองสถานะในพันธบัตรรัฐบาลที่เล็กกว่า คือ 1,830 ล้านดอลลาร์, 634 ล้านดอลลาร์ และ 502 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ

การลดลงของอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ไว้มีแนวโน้มที่จะสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อกำไรของพวกเขาเช่นกัน

แม้จะมีอุปสรรคทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้ แต่ตลาดสเตเบิลคอยน์ก็แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น

ในเดือนกันยายน มูลค่าตลาดรวมของ Stablecoins เพิ่มขึ้น 1.50% แตะระดับ 172,000 ล้านดอลลาร์ ทำสถิติการเติบโต 12 เดือนติดต่อกัน ตามข้อมูลของ CCData

อย่างไรก็ตาม มูลค่าตลาดโดยรวมยังคงต่ำกว่าระดับก่อนเดือนพฤษภาคม 2022 ก่อนเหตุการณ์ Terra Luna depegging (หลุดจากการตรึงมูลค่าจากสินทรัพย์ที่รองรับไว้หรืออัลกอริธึมที่กำหนดไว้)

ปริมาณการซื้อขายบนกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลง 39.4% เหลือ 683,000 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 23 กันยายน

USDT ยังคงครองตลาด Stablecoins โดยมีส่วนแบ่งการซื้อขาย 77.2% บนกระดานเทรดแบบรวมศูนย์

FDUSD เป็น Stablecoins ที่มีการซื้อขายมากเป็นอันดับ 2 โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 11.6% ตามด้วย USDC ที่ 10.9%

ธนาคารขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นจะทดลองโอน Stablecoins ข้ามพรมแดน

ตามที่รายงาน ธนาคารขนาดใหญ่ 3 แห่งของญี่ปุ่นกำลังเปิดตัวโครงการนำร่องที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งการชำระเงินระหว่างประเทศโดยใช้ Stablecoins

โครงการนี้มีชื่อว่า “Project Pax” จะเกี่ยวข้องกับ Stablecoins ที่ออกโดย Progmat ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ได้รับการสนับสนุนจาก SBI Holdings และ Japan Exchange Group

ธนาคารที่เกี่ยวข้องได้แก่ Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG), Sumitomo Mitsui Banking Corporation (SMBC) และ Mizuho

การทดลองซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทบล็อกเชนอย่าง Datachain และ TOKI จะสำรวจการใช้เทคโนโลยีข้ามเชนเพื่อการทำธุรกรรมที่เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple เปิดเผยว่าบริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนการเปิดตัว Stablecoin ในญี่ปุ่นเร็วๆ นี้