FBI ระบุ ยอดสูญเสียจาก ‘การฉ้อโกงคริปโต’ พุ่ง 5.6 พันล้านดอลลาร์ ในเพียงปีเดียว

รายงานล่าสุดจากศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (IC3) ของสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) เผยให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของ ‘การฉ้อโกงคริปโต’ โดยประมาณการความเสียหายที่สูงถึง 5.6 พันล้านดอลลาร์
ในรายงาน FBI ระบุว่า IC3 ได้รับเรื่องร้องเรียนกว่า 69,000 รายการเกี่ยวกับอาชญากรรมทางการเงินที่เชื่อมโยงกับคริปโตเช่น Bitcoin, Ethereum และ Tether
แม้ว่าเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคริปโตจะคิดเป็นเพียง 10% ของรายงานการฉ้อโกงทางการเงินทั้งหมด แต่มูลค่าความเสียหายกลับคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของความเสียหายรวมทั้งหมด
หน่วยงานรายงานว่า ความเสียหายจากแผนฉ้อโกงการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจถึง 53% โดยมีความเสียหายรวมพุ่งจาก 2.57 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 เป็น 3.96 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023
ก่อนหน้านี้ FBI ก็เคยได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับมัลแวร์ตัวใหม่ที่กลุ่มแฮกเกอร์ใช้ในการขโมยคีย์คริปโต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ‘การฉ้อโกงคริปโต’ เช่นเดียวกัน
FBI ระบุว่า ‘ผู้สูงอายุ’ ประสบความสูญเสียทางการเงินมากที่สุด
เหยื่อของแผนฉ้อโกงเหล่านี้ตกอยู่ในภาวะเดือดร้อนทางการเงินอย่างหนัก บางคนถึงขั้นเป็นหนี้ก้อนโตในความพยายามที่จะฟื้นตัวจากความสูญเสียเหล่านี้
รายงานระบุว่า คนอายุ 30 ถึง 49 ปีแจ้งเรื่องร้องเรียนการฉ้อโกงในการลงทุนคริปโตมากที่สุด โดยมีรายงานประมาณ 5,200 ฉบับในกลุ่มอายุ 30-39 และ 40-49 ปี
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สูงอายุ – คนที่อายุมากกว่า 60 ปี – กลับเป็นผู้ที่สูญเสียเงินมากที่สุด โดยมีรายงานความเสียหายรวมมากกว่า 1.24 พันล้านดอลลาร์

การแสวงประโยชน์จาก Crypto แผ่ขยายไปเกือบทุกประเภทการฉ้อโกงที่ IC3 ได้ทำการตรวจสอบ โดยรูปแบบที่พบมากที่สุดก็คือการหลอกลวงให้เกิดการลงทุน คิดเป็นประมาณ 71% ของความเสียหายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคริปโต
การฉ้อโกงผ่านคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมักจะเป็นการหลอกให้บริการด้านเทคนิคและการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ คิดเป็นประมาณ 10% ของความเสียหายเหล่านี้
ลักษณะการกระจายอำนาจของคริปโต ร่วมกับความเร็วและการไม่สามารถย้อนกลับของธุรกรรมได้ ตลอดจนความสามารถในการโยกย้ายเงินไปได้ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ทำให้คริปโตกลายเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรรมเหล่านี้
กลโกงต่างๆ รวมไปถึง การขุดเหมืองสภาพคล่อง และเกม P2E ปลอมๆ
ในบรรดาแผนฉ้อโกงต่างๆ ทั้งหมด “การหลอกขุดเหมืองสภาพคล่อง” กำลังแพร่หลายมากขึ้น
การขุดเหมืองสภาพคล่องแบบถูกกฎหมาย คือการที่นักลงทุนนำคริปโตมาวางในพูลสภาพคล่องเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม แลกกับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
พวกสแกมเมอร์ฉวยโอกาสจากแนวคิดนี้ โดยจะเล็งเป้าไปที่ผู้ถือคริปโตยอดนิยมอย่าง Tether และ Ethereum
พวกเขามักจะสร้างความสัมพันธ์กับเหยื่อเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ชักจูงให้เชื่อมกระเป๋าคริปโตกับแพลตฟอร์มขุดเหมืองสภาพคล่องปลอม โดยสัญญาว่าจะได้ผลตอบแทนอย่างงาม 1-3% ต่อวัน เมื่อเชื่อมกระเป๋าแล้ว พวกสแกมเมอร์ก็จะดูดเงินของเหยื่อโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวหรือไม่ได้ยินยอม
อีกเทรนด์หนึ่งที่กำลังมาแรงคือ “แอปเกม Play-to-Earn ปลอม” ที่พวกอาชญากรล่อเหยื่อด้วยการโฆษณาเกมที่ให้รางวัลเป็นคริปโต
ในการหลอกลวงแบบนี้ พวกอาชญากรจะสร้างความสัมพันธ์กับเป้าหมายก่อน แล้วแนะนำเกมที่สามารถหาคริปโตได้จากกิจกรรมในเกม เช่น ปลูกพืชในฟาร์มเสมือนจริง
ผู้เล่นจะถูกสั่งให้สร้างกระเป๋าคริปโตและเติมเงิน ระหว่างเล่น เหยื่อจะเห็นรางวัลในเกมเพิ่มขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้พวกเขาเติมเงินเพิ่ม
แต่พอหยุดเติมเงิน พวกหลอกลวงจะใช้โปรแกรมอันตรายที่ฝังอยู่ในเกมขโมย Crypto ไป เหยื่อมักถูกบอกว่าสามารถเอาเงินคืนได้โดยจ่ายภาษีหรือค่าธรรมเนียมเพิ่ม แต่ก็ไม่มีทางได้เงินคืนอีกเลย







