ราคา ETH เตรียมพุ่งทะลุจุดสูงสุดเดิม หลัง Fed ส่งสัญญาณชะลอ QT
ราคา Ethereum (ETH) มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการประชุมของ Fed เมื่อวันพุธ และถึงแม้ว่าผลกำไรส่วนใหญ่จะหายไปในวันพฤหัสบดี แต่พัฒนาการใหม่ๆ นี้บ่งบอกถึงโอกาสที่จะมีการปรับตัวขึ้นในระยะใกล้
ราคา ETH พุ่งขึ้นจากระดับต่ำกว่า 1,900 ดอลลาร์ในวันพุธไปเกือบถึง 2,100 ดอลลาร์ และล่าสุดอยู่ที่ต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์
Fed ได้ชะลอการดำเนินการตามโปรแกรมการรัดเข็มขัดเชิงปริมาณ (QT) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนต่อตลาดว่ากำลังจะมีคลื่นสภาพคล่องใหม่ในอนาคตอันใกล้ หากยังไม่มาถึงในตอนนี้
สภาพคล่องในระบบการเงินเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเหรียญ Altcoins อย่าง Ethereum และการขาดสภาพคล่องตั้งแต่ปี 2022 จากนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed ได้ทำให้ตลาดอัลต์คอยน์เติบโตช้า
ในขณะที่ Bitcoin ได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวกองทุน ETF ปี 2024 ที่ประสบความสำเร็จและการยอมรับในฐานะ “ทองคำดิจิทัล” แต่เหรียญ Atlcoins ชั้นนำส่วนใหญ่กลับมีปัญหาในการตามทัน
การขาดสภาพคล่องในระบบการเงินสหรัฐฯ ทำให้ Alt Season ในช่วงต้นปี 2024 และหลังชัยชนะของ Trump ไม่คึกคักอย่างที่ควรจะเป็น
ที่จริงแล้ว ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจจะชะลอตัวและเงินเฟ้อที่อาจกลับมาสูงขึ้นได้ คือสิ่งที่กดดันตลาดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่การที่ QT กำลังจะสิ้นสุดและการเริ่มต้นของสภาพคล่องใหม่ น่าจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับตลาดได้
Ethereum จะปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้เร็วๆ นี้หรือไม่?
ราคา ETH จะไปทางไหนต่อ?
แม้ว่า Ethereum จะปรับตัวขึ้น 13% จากจุดต่ำสุดในเดือนนี้และหลุดจากแนวโน้มขาลงระยะสั้น แต่ยังไม่สามารถขึ้นไปเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 21 วัน (21DMA) ได้
ระดับนี้เป็นแนวต้านสำคัญตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นมา
นี่แสดงว่าความเสี่ยงด้านราคายังมีแนวโน้มลงในระยะสั้น นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด ก็ยังบ่งชี้ว่าความเสี่ยงยังมีแนวโน้มลดลง
แม้ว่า Fed จะชะลอ QT ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่การเพิ่มสภาพคล่องใหม่
แต่ยังมีหลายอย่างที่ต้องเกิดขึ้นก่อนที่สภาพคล่องใหม่จะมาถึง โดยปกติคลื่นสภาพคล่อง QE มักเกิดขึ้นหลังจากมีวิกฤตหรือความปั่นป่วนในตลาด
และนั่นอาจเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2025 – เศรษฐกิจสหรัฐฯ เสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยจากสงครามการค้าของ Trump และนโยบายประหยัดงบประมาณแบบ D.O.G.E รวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องหาเงินมาจ่ายหนี้มหาศาลถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์
สถานการณ์จำเป็นต้องแย่ลงอีกมากก่อนที่ Fed จะเริ่มพิมพ์เงินรอบใหม่
นั่นหมายความว่า Ethereum อาจจะลงไปอีกในปี 2025 ก่อนที่ QE จะช่วยให้ราคาพุ่งขึ้นในปี 2026
นี่เป็นการมองไกลมาก นักเทรดที่สนใจตลาดระยะสั้นควรติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และข่าวสงครามการค้าอย่างใกล้ชิด
นอกจากยังไม่สามารถขึ้นไปเหนือ 21DMA แล้ว Ethereum ยังไม่สามารถกลับไปสู่ระดับแนวรับระยะยาวที่กลายเป็นแนวต้านที่ 2,100 ดอลลาร์ได้
ความเสี่ยงยังคงมีแนวโน้มที่จะทดสอบจุดต่ำสุดกลางปี 2023 ที่ประมาณ 1,500 ดอลลาร์ ก่อนที่ QE และการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตจากการสนับสนุนด้านกฎระเบียบของรัฐบาล Trump จะช่วยให้ราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
วิธีทำกำไรเร็วกว่า – MIND of Pepe (MIND)
ในขณะที่ Ethereum มีแนวโน้มจะยังมีปัญหาในปีนี้ นักเทรดที่ต้องการกำไรเร็วๆ จะมองหาทางเลือกที่มีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด
โครงการที่กำลังได้รับความสนใจคือ MIND of Pepe (MIND) ซึ่งเป็นเหรียญมีมใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
เปิดตัวในเดือนมกราคม การพรีเซลระดมทุนไปได้แล้วกว่า 7.5 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุน
การถูกสร้างขึ้นบน Ethereum และด้วย AI Agent ที่สามารถพัฒนาตัวเองได้นี้จะทำการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด มีส่วนร่วมกับชุมชนคริปโตบน X และเปิดตัวโทเค็นโดยอัตโนมัติ ให้ผู้ถือ MIND ได้เข้าถึงก่อนใคร
ด้วยผลตอบแทนจากการ Staking ที่สูงถึง 301% และระบบปัญญารวมหมู่ที่ไม่เหมือนใคร จึงผสมผสานวัฒนธรรมมีมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ในช่วงที่โทเค็น AI กำลังเติบโต นวัตกรรมของ MIND of Pepe อาจทำให้มันกลายเป็นเหรียญคริปโตใหม่ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดแห่งปี
เรามุ่งมั่นในการให้ความโปร่งใสกับผู้อ่าน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น เพื่อความโปร่งใสสามารถอ่าน Affiliate Disclosure เพิ่มเติม
ข่าวเด่นห้ามพลาด
in numbers
