Ethereum ‘ตายสนิท’ ในฐานะการลงทุน? นักวิเคราะห์เผย เครือข่าย L2 แย่งมูลค่าทั้งหมดไปแล้ว

Ethereum (ETH) กำลังเผชิญวิกฤตศรัทธาครั้งใหญ่ หลังจากที่เคยเป็นความหวังของวงการคริปโต นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญเริ่มตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าในการลงทุน โดยเฉพาะเมื่อนักลงทุน VC ชั้นนำได้ออกมาประกาศว่า Ethereum กลายเป็นการลงทุนที่ “ตายสนิท” เสียแล้ว

Nic Carter พาร์ทเนอร์จาก Castle Island Ventures ได้ระบุชัดเจนว่า ปัญหาหลักของ Ethereum คือ “L2 ที่โลภมากที่ดูดซับมูลค่าจาก L1 และชุมชนที่ยอมรับการสร้างโทเค็นส่วนเกินมากเกินไป” เขาโพสต์ข้อความนี้บน X เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2025 พร้อมเสริมว่า “ETH ถูกฝังใต้ภูเขาโทเค็นของตัวเอง ตายด้วยมือของตัวเอง” ซึ่งเป็นการตอบกลับความเห็นของ Quinn Thompson ผู้ก่อตั้ง Lekker Capital ที่กล่าวว่า Ethereum “ตายสนิท” ในฐานะการลงทุน

The #1 cause of this is greedy eth L2s siphoning value from the L1 and the social consensus that excess token creation was A-OK. Eth was buried in an avalanche of its own tokens. Died by its own hand.

— nic carter (@nic__carter) March 28, 2025

ETH/BTC ทำจุดต่ำสุดในรอบ 5 ปี: สัญญาณอันตรายที่นักลงทุนควรรู้

Thompson อธิบายสถานการณ์ Ethereum ไว้อย่างชัดเจนว่า “เครือข่ายมูลค่า 225 พันล้านดอลลาร์ กำลังเผชิญการลดลงของธุรกรรม ผู้ใช้งาน และรายได้ค่าธรรมเนียม ไม่มีเหตุผลให้ลงทุนอีกต่อไป ในฐานะเครือข่ายที่มีประโยชน์? ใช่ แต่ในฐานะการลงทุน? เป็นไปไม่ได้เลย” เขาโพสต์ความเห็นนี้บน X เมื่อวันที่ 28 มีนาคม

Make no mistake, $ETH as an investment is completely dead. A $225 billion market cap network that is seeing declines in transaction activity, user growth and fees/revenues. There is no investment case here. As a network with utility? Yes. As an investment? Absolutely not. pic.twitter.com/XjZNjPjy2s

— Quinn Thompson (@qthomp) March 28, 2025

ข้อมูลจาก TradingView ยืนยันสถานการณ์วิกฤตนี้ อัตราส่วน ETH/BTC ซึ่งแสดงความแข็งแกร่งของ Ether เทียบกับ Bitcoin ร่วงลงมาอยู่ที่ 0.02260 จุดต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี ล่าสุด Ether มีราคาซื้อขายที่ 1,805 ดอลลาร์ ลดลง 9% ใน 1 สัปดาห์ ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap

Cointelegraph Magazine รายงานเมื่อกันยายน 2024 ว่า รายได้ค่าธรรมเนียมของ Ethereum “ล่มสลาย” ลงถึง 99% ในช่วง 6 เดือน เพราะ “L2 ที่เอาเปรียบ” ดึงผู้ใช้งาน ธุรกรรม และรายได้ทั้งหมดไป โดยไม่มีการตอบแทนกลับสู่เครือข่ายหลักเลย

Based Rollups: ความหวังใหม่เพื่อกอบกู้มูลค่า Ethereum?

แม้สถานการณ์จะดูเลวร้าย แต่ก็มีความพยายามหาทางออก Adam Cochran พาร์ทเนอร์จาก Cinneamhain Ventures เสนอว่า Based Rollups อาจเป็นทางแก้ปัญหา Layer-2 ที่ดึงสภาพคล่องและรายได้จากเครือข่ายหลัก

Cochran เชื่อว่า Based Rollups จะ “กระทบโดยตรงต่อการสร้างรายได้ของ Ethereum ด้วยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแรงจูงใจอย่างถึงรากฐาน”

So a based rollup is a type of L2.

It still saves the data in a compressed format on the L1.

But instead of its own sequencer, it relies on L1 validators to process the transactions.

They still use rollup bundling, systems called “prconfirmation commits” and other features, to…

— Adam Cochran (adamscochran.eth) (@adamscochran) September 10, 2024

ช่วงปลายปีที่แล้ว มีความหวังว่า ETH จะพุ่งไปถึง 10,000 ดอลลาร์ในปี 2025 โดยเฉพาะหลังจากแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ Bitcoin ทะลุ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก แต่หลังจากนั้น ราคาก็ดิ่งลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับตลาดคริปโตโดยรวมที่ชะลอตัว

Standard Chartered เพิ่มมุมมองด้านลบผ่านจดหมายถึงลูกค้าเมื่อ 17 มีนาคม โดยปรับลดคาดการณ์ราคา ETH สิ้นปี 2025 จาก 10,000 ดอลลาร์เหลือเพียง 4,000 ดอลลาร์ ลดลงถึง 60%

ในทางตรงข้าม เทรดเดอร์คริปโตหลายราย รวมถึง Doctor Profit และ Merlijn The Trader ยังคง “เชื่อมั่นอย่างที่สุด” และมองว่า Ether อาจเป็น “โอกาสที่ดีที่สุดในตลาด” ในขณะนี้

ชุมชน Ethereum ยังเชื่อมั่น: “นี่คือสัญญาณจุดต่ำสุด”

ชุมชนผู้สนับสนุนมองว่าวิกฤตนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญนำไปสู่การฟื้นตัว “นี่คือสัญญาณจุดต่ำสุด สื่อกระแสหลักมักจับจังหวะผิดเสมอ” ผู้ใช้งานคนหนึ่งบน X กล่าว พร้อมเสริมว่า Layer-2 ของ Ethereum ยังคงเป็นผู้นำในกิจกรรมเชน ขณะที่สินทรัพย์ในโลกจริง (RWA) บนเครือข่ายนี้กำลังเติบโต “แบบก้าวกระโดด”

This is a bottom signal. Mainstream media almost always get the timing wrong.

When I look at BUIDL's chain usage, I see one layer 1 and all other chains competing with Ethereum layer 2s.

And RWA growth on Ethereum is looking exponential: pic.twitter.com/UdOWktYLQW

— Nomad (@JourneyMacro) March 29, 2025

ผู้ใช้งานอีกรายหนึ่งแสดงความเห็นต่อบทความของ Bloomberg ที่ช่วยฟื้นความเชื่อมั่น “ผมเริ่มรู้สึกหมดหวัง แต่บทความนี้ทำให้กลับมามั่นใจอีกครั้ง” เขากล่าว

Was starting to feel bearish but this post has me all bulled up again

— MountainGoat (@bloodspongeXBT) March 29, 2025

การตอบสนองเหล่านี้แสดงถึงพลังของชุมชนที่มักเปล่งประกายในช่วงวิกฤตและนวัตกรรม ต่างจาก Bitcoin ที่ได้รับแรงหนุนทางการเมือง Ethereum เน้นการเติบโตผ่านความสามารถในการขยายตัวและการนำไปใช้งานจริง

Pectra อัปเกรด: ความหวังสุดท้ายในการพลิกฟื้น Ethereum?

Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้วางแนวทางสำหรับระบบนิเวศ L2 โดยเรียกร้องให้สนับสนุนการพัฒนาโอเพนซอร์สเพื่อความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เขาย้ำว่าอนาคตของบล็อกเชนชั้นนำนี้ขึ้นอยู่กับ “คุณค่าระยะยาว” และ “ประโยชน์ในโลกจริง” ไม่ใช่การเก็งกำไรระยะสั้นหรืออำนาจทางการเมือง

ความหวังสำคัญของ Ethereum อยู่ที่การอัปเกรด Pectra ที่กำลังจะมาถึง แม้ความล่าช้าจะสร้างความไม่พอใจในชุมชน แต่การอัปเกรดนี้จะมอบความปลอดภัยที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพธุรกรรมสูงขึ้น และเครื่องมือที่เป็นมิตรกับนักพัฒนา เครือข่ายนี้เคยผ่านความท้าทายมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นการอัปเกรด Pectra อาจเป็นตัวพลิกเกมครั้งสำคัญ

ในขณะที่ การเก็งกำไรในเหรียญมีมยอดนิยมใหม่ได้ย้ายไปยังเชนที่เร็วกว่าอย่าง Solana แต่สำหรับแอปพลิเคชั่นมูลค่าสูง Ethereum ยังคงเป็นหัวใจหลัก ตั้งแต่ decentralized exchanges (DEXs) ไปจนถึงผลิตภัณฑ์การเงินระดับสถาบัน คำถามสำคัญคือ การมุ่งเน้นการใช้งานจริงของ Ethereum จะรักษาตำแหน่งเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนและแข่งขันกับความเป็นผู้นำทางการเมืองและการเงินของ Bitcoin ได้หรือไม่

แม้จะมีความเชื่อมั่นจากชุมชน ราคา ETH ยังลดลง 2% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยราคา ETH ซื้อขายที่ 1,805 ดอลลาร์ ณ เวลาที่เขียนบทความนี้

การกระจายความเสี่ยงในยุค Layer-2: Best Wallet เป็นทางออกหรือไม่?

ในช่วงที่นักลงทุน Ethereum กำลังตั้งคำถามถึงผลกระทบของ Layer-2 ที่ดูดซับมูลค่า หลายคนเริ่มมองหาวิธีการป้องกันความเสี่ยงและทางเลือกใหม่ๆ Best Wallet กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เพียงเพราะรองรับมากกว่า 60 บล็อกเชน แต่ยังเป็นเพราะความสามารถในการจัดการสินทรัพย์ข้ามเครือข่ายได้อย่างปลอดภัย

หนึ่งในแง่มุมที่น่าสนใจคือการที่ผู้ถือโทเค็น $BEST สามารถเข้าถึงโปรเจกต์เหรียญคริปโตใหม่ๆ ได้ล่วงหน้าก่อนใคร คล้ายกับวิธีที่ชุมชนกำลังคาดหวังจากการอัปเกรด Pectra ในอนาคต โดยพรีเซลของ $BEST ที่ระดมทุนได้ 11 ล้านดอลลาร์แสดงว่ายังมีความเชื่อมั่นในโทเค็นยูทิลิตี้แม้ในช่วงตลาดผันผวน

หากมองในภาพรวม ไม่ว่า Ethereum จะฟื้นตัวจากสถานการณ์ปัจจุบันได้หรือไม่ การมีเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนปรับตัวข้ามระบบนิเวศต่างๆ อย่าง Best Wallet อาจเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่า meme coins และการเทรดเก็งกำไรกำลังย้ายไปยังเชนที่เร็วกว่าอย่าง Solana ขณะที่แอปพลิเคชันมูลค่าสูงยังคงอยู่บนเครือข่ายดังนี้ต่อไป

ดาวน์โหลดแอพ Best Wallet