ETH ทรงดี! BlackRock หนุนเงินทุนไหลเข้า ETF กว่า $812M

Ethereum (ETH) กำลังได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักลงทุนสถาบัน โดยล่าสุด กองทุน Spot ETF ในสหรัฐฯ มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิกว่า 812 ล้านดอลลาร์ภายใน 14 วันติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบวกอย่างชัดเจนจากกลุ่ม TradFi อย่างไรก็ตาม ราคา ETH กลับยังไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญไปได้

บทความนี้จะมาเจาะลึกกันว่าแรงซื้อจากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่จะสามารถผลักดันราคา ETH ให้พุ่งทะยานได้หรือไม่

BlackRock นำทัพ! เงินทุนสถาบันไหลเข้า ETH ETF ทะลุ $812M

ข้อมูลจาก Bloomberg ชี้ชัดว่า Spot Ethereum ETF ในสหรัฐฯ กำลังมาแรงแซงหน้า Bitcoin โดยมีเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่องถึง 812 ล้านดอลลาร์ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่ายอดรวมของ Bitcoin ในช่วงเวลาเดียวกันถึงสองเท่า กองทุนอย่าง ETHA ของ BlackRock และ FETH ของ Fidelity กลายเป็นผู้นำตลาดและครองสัดส่วนปริมาณการซื้อขายรายวันที่สำคัญ

การไหลเข้าของเงินทุนจากโลกการเงินดั้งเดิม (TradFi) ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงยอดเงินที่พุ่งสูงถึง 240 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 11 มิถุนายนเพียงวันเดียว สะท้อนให้เห็นว่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์, ที่ปรึกษาการลงทุน (RIAs), และผู้จัดการสินทรัพย์ ต่างมองว่า Ethereum เป็นประตูสำคัญในการเข้าสู่ตลาดคริปโต

นอกจากนี้ รายงานจาก CoinShares ยังระบุว่าผลิตภัณฑ์การลงทุนที่อิงกับ ETH สามารถสร้างเม็ดเงินได้ถึง 296 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยอดสูงสุดนับตั้งแต่การเลือกตั้งในสหรัฐฯ ปี 2024 เมื่อกฎระเบียบมีความชัดเจนมากขึ้นและการเข้าถึง ETF ง่ายขึ้น Ethereum จึงมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากความเชื่อมั่นของสถาบันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับนักลงทุนที่เริ่มเห็นศักยภาพและสนใจใน Ethereum จากกระแสเงินทุนของสถาบัน การเรียนรู้ช่องทางการลงทุนก็เป็นก้าวแรกที่สำคัญ ซึ่งปัจจุบันมีคำแนะนำเกี่ยวกับ วิธีซื้อ Ethereum (ETH) อย่างละเอียด สำหรับผู้เริ่มต้น

วิเคราะห์กราฟ ETH: จับตาแนวต้านสำคัญ ลุ้นทะลุ $2,600

แม้ว่าจะมีข่าวดีจากฝั่งเงินทุนไหลเข้า แต่ในทางเทคนิค ราคา Ethereum ยังคงติดอยู่ภายใต้แนวต้านสำคัญ หลังจากที่ราคาสามารถดีดตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 2,439 ดอลลาร์ แต่ ETH ก็ยังไม่สามารถทะลุแนวต้าน Fibonacci retracement 23.6% ที่ระดับ 2,518 ดอลลาร์ และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (50-day EMA) ที่ประมาณ 2,614 ดอลลาร์ไปได้

ในขณะที่โมเมนตัมของอินดิเคเตอร์ MACD เริ่มฟื้นตัวเล็กน้อย แต่เส้นสัญญาณยังคงบ่งบอกถึงความไม่แน่นอน และเส้นแนวโน้มขาลง (Downtrend line) จากช่วงต้นเดือนมิถุนายนยังคงกดดันราคาอยู่

ระดับราคาที่นักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด:

• สัญญาณกระทิง (Bullish breakout): หากราคาสามารถปิดเหนือ 2,567 ดอลลาร์ พร้อมวอลุ่มการซื้อขายที่แข็งแกร่ง อาจเปิดทางให้ราคามุ่งสู่ 2,614 และ 2,647 ดอลลาร์ได้
• ความเสี่ยงขาลง (Downside risk): หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 2,480 ดอลลาร์ อาจทำให้ ETH กลับไปทดสอบแนวรับที่ 2,439 ดอลลาร์หรือต่ำกว่านั้น

เมื่อพิจารณาจากแนวรับแนวต้านในระยะสั้นแล้ว การมองภาพรวมในระยะยาวก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักลงทุนเพื่อวางแผนกลยุทธ์ ซึ่งมีบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ การวิเคราะห์แนวโน้มราคา Ethereum ปี 2025-2030 ที่น่าสนใจเพื่อประกอบการตัดสินใจ

Ethereum กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ แม้ว่าเงินทุนจาก ETF จะเป็นปัจจัยบวก แต่ราคายังคงถูกล็อกไว้ในกรอบแคบๆ จนกว่าจะสามารถทะลุแนวต้านสำคัญไปได้ นักลงทุนควรติดตามปริมาณการซื้อขายของ ETF และสัญญาณทางเทคนิคอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง

นอกจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคของ ETH โดยตรงแล้ว ปัจจัยภายนอกอย่างความเคลื่อนไหวของ Bitcoin ก็มีผลอย่างมากต่อทิศทางราคาเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า การที่ ETH จะฝ่าแนวต้านสำคัญ นั้นขึ้นอยู่กับทิศทางของ BTC ด้วย

โดยรวมแล้ว สถานการณ์ของ Ethereum ในขณะนี้อยู่ในจุดที่น่าสนใจอย่างยิ่ง การสนับสนุนจากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่เช่น BlackRock ผ่านการลงทุนใน Spot ETH ETF เป็นปัจจัยบวกมหาศาลที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาด

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคทางเทคนิคที่แนวต้าน $2,567 และ $2,614 ยังคงเป็นกำแพงสำคัญที่ต้องทะลุผ่านไปให้ได้ นักลงทุนควรติดตามทั้งกระแสเงินทุนและสัญญาณทางเทคนิคอย่างใกล้ชิด เพราะหาก ETH สามารถทะลุแนวต้านไปได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะเห็นการพุ่งขึ้นของราคาอย่างรุนแรงในอนาคตอันใกล้นี้