ECB เร่งเปิดตัว Digital Euro เพื่อเร่งแข่งขันกับเงินดิจิทัลชาติอื่น

ธนาคารกลางยุโรปเตือนว่าความล่าช้าในโครงการเงินยูโรดิจิทัลอาจทำให้ยุโรปตามหลังผู้นำระดับโลกด้าน CBDC อย่างจีน

ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank หรือ ECB) ได้เพิ่มความเร่งด่วนในการพัฒนาเงินยูโรดิจิทัล โดยเตือนว่าความล่าช้าอาจทำให้ยุโรปตามหลังคู่แข่งระดับโลกในการแข่งขันพัฒนา Central Bank Digital Currency (CBDC)

💶The European Central Bank @ecb is preparing to issue a digital euro.
How will the ECB ensure that no citizen is left behind?

Evelien Witlox, its project director, explained it to @Euronews.
Check the whole interview on our website.👇 pic.twitter.com/KRdzc6PHDw

— euronews (@euronews) November 21, 2024

ในการสัมภาษณ์กับ Euronews เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Evelien Witlox ผู้จัดการโครงการเงินยูโรดิจิทัลของ ECB ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ยุโรปต้องเร่งความพยายาม เนื่องจากประเทศต่าง ๆ เช่น จีนและสหราชอาณาจักรก้าวหน้าไปอย่างมากในการพัฒนา CBDC

ความท้าทายในการสร้าง Digital Euro ในขณะที่ CBDC ระดับโลกก้าวหน้ายุโรป

การผลักดันของยุโรปไปสู่การสร้าง Digital Euro ต้องเผชิญกับปัญหาด้านระบบการชำระเงินที่แตกแยกภายในยูโรโซน

🚨JUST IN: @ecb Calls for Urgent Action on Digital Euro as Legislative Delays Threaten Progress Amid Rising Global Competition, with Nigeria 🇳🇬, China 🇨🇳, The Bahamas 🇧🇸, and Jamaica 🇯🇲 leading the way in successfully launching retail CBDCs! 🌍💶 pic.twitter.com/xhi4In4b0S

— Coinwaft (@coinwaft) November 21, 2024

ปัจจุบัน 13 จาก 20 ประเทศในยูโรโซนยังพึ่งพาผู้ให้บริการชำระเงินระดับโลกอย่าง Visa และ Mastercard เนื่องจากขาดระบบบัตรชำระเงินในระดับชาติ

ความพึ่งพิงนี้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการสร้างระบบนิเวศของดิจิทัลยูโรที่เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อลดการพึ่งพาบริษัทที่ไม่ได้มาจากยุโรป

ECB ได้พยายามแก้ไขความท้าทายเหล่านี้ผ่านโครงการสำรวจ CBDC ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021

อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้ายังค่อนข้างช้า โดยมีความล่าช้าอย่างมากในการสร้างกรอบกฎหมายที่จำเป็น

เกือบ 17 เดือนหลังจากที่ European Commission เสนอกรอบการทำงานครั้งแรก ขณะนี้กรอบดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของ ECB แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์นี้

ในระดับโลก การแข่งขันเพื่อการนำ CBDC มาใช้เริ่มเข้มข้นขึ้น ขณะนี้มีประเทศ 134 ประเทศ ซึ่งคิดเป็น 98% ของเศรษฐกิจโลก กำลังสำรวจแนวทางเกี่ยวกับ CBDCs โดยในจำนวนนี้มี 66 ประเทศที่อยู่ในขั้นตอนการทดลองใช้หรือก้าวไปไกลกว่านั้นแล้ว

ประเทศอย่าง Bahamas, Jamaica และ Nigeria ประสบความสำเร็จในการเปิดตัว CBDC สำหรับการใช้งานภาคค้าปลีก ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ เช่น Australia, Indonesia และ Singapore กำลังดำเนินโครงการทดลองในขั้นระดับสูง

จีนเป็นผู้นำในวงการด้วยเงินหยวนดิจิทัล หรือ e-CNY ซึ่งมียอดธุรกรรมรวมถึง $986 พันล้าน ภายในเดือนมิถุนายน 2024

ซึ่งนับเป็นการเติบโตที่โดดเด่นถึงสี่เท่า เมื่อเทียบกับยอด $253 พันล้าน ที่รายงานในช่วงกลางปี 2023

e-CNY ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนแล้ว รวมถึงการศึกษา สาธารณสุข และการท่องเที่ยว โดยแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สร้างความเปลี่ยนแปลงของ CBDCs ได้อย่างชัดเจน

Christine Lagarde ประธาน ECB ได้ส่งสัญญาณว่า Digital Euro อาจถูกนำมาใช้ก่อนที่วาระการดำรงตำแหน่งของเธอจะสิ้นสุดลงในปี 2027

Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ส่งสัญญาณว่า Digital Euro อาจพร้อมใช้งานสำหรับชาวยุโรปก่อนที่วาระการดำรงตำแหน่งของเธอจะสิ้นสุดในปี 2027

ECB President Christine Lagarde has hinted that a digital euro could be available to Europeans before her term ends in 2027.#digitaleuro #lagardehttps://t.co/XdBHI137OU

— Cryptonews.com (@cryptonews) June 11, 2024

อย่างไรก็ตาม การทำให้ไทม์ไลน์ที่ทะเยอทะยานนี้สำเร็จได้จะต้องอาศัยความร่วมมือที่ไม่เคยมีมาก่อนระหว่างสถาบันของสหภาพยุโรปและกระบวนการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น

Piero Cipollone เจ้าหน้าที่จาก ECB ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ digital euro ในการเสริมสร้างอธิปไตยทางการเงินและความยืดหยุ่นของยุโรป

ในระหว่างการพูดที่คณะกรรมการเศรษฐกิจและการเงิน (Economic and Monetary Affairs Committee) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Cipollone ได้เน้นย้ำว่า digital euro จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ยุโรปสามารถพัฒนาระบบการชำระเงินดิจิทัลของตัวเอง และลดการพึ่งพาระบบที่ไม่ใช่ของยุโรปได้

Witlox ได้สนับสนุนมุมมองนี้เช่นกัน โดยเตือนว่า ความเป็นผู้นำของยุโรปในด้านการพัฒนา CBDC อาจตกอยู่ในความเสี่ยงหากไม่มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด

“เราต้องทำให้มั่นใจว่า digital euro จะพร้อมใช้งานในเวลาที่เราจำเป็นต้องใช้จริง ๆ” เธอกล่าว สะท้อนถึงความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นของ ECB เกี่ยวกับความล่าช้าในกระบวนการทางกฎหมาย