ผู้เชี่ยวชาญเผย รัฐในสหรัฐฯ เตรียมประกาศใช้ Bitcoin เพื่อใช้เป็นทรัพย์สินสำรอง

การประกาศครั้งสำคัญจาก Dennis Porter ซีอีโอของ Satoshi Action Fund (SAF) ในงาน Bitcoin Event ที่จัดโดย Michael Saylor เมื่อเร็วๆ นี้ ได้สร้างกระแสในวงการคริปโต โดยเขาเปิดเผยว่ารัฐหนึ่งในสหรัฐฯ อาจเริ่มต้นซื้อ Bitcoin (BTC) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ส่งผลต่อวงการการเงินทั่วโลก
การเตรียมพร้อมของรัฐในสหรัฐฯ กับ Bitcoin
Porter ได้อธิบายว่า SAF มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายเกี่ยวกับ Bitcoin โดยในช่วงปีที่ผ่านมา องค์กรได้แนะนำร่างกฎหมายที่เน้นการสนับสนุนการใช้ Bitcoin ใน 20 รัฐ และมีการผ่านกฎหมายในรัฐสำคัญ เช่น โอกลาโฮมา ลุยเซียนา และมอนทานา ร่างกฎหมายเหล่านี้ให้ความสำคัญกับสิทธิในการถือครอง Bitcoin การขุดคริปโต และธุรกรรมแบบเพียร์ทูเพียร์
รัฐหนึ่งที่ Porter ไม่ได้เปิดเผยชื่อ กำลังเตรียมพร้อมที่จะใช้ Bitcoin เป็นทรัพย์สินสำรองหลังจากผ่านการประเมินจากคณะกรรมการเฉพาะกิจ ซึ่งการเริ่มต้นสะสม Bitcoin ของรัฐดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในปีนี้ และอาจเป็นต้นแบบให้รัฐอื่นๆ เดินรอยตาม
การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย: Bitcoin กับการลงทุนระดับรัฐ
หากรัฐในสหรัฐฯ เริ่มต้นซื้อ Bitcoin อย่างจริงจัง อาจเป็นการส่งสัญญาณว่า Bitcoin กำลังเปลี่ยนสถานะจากสินทรัพย์เก็งกำไรเป็นทรัพย์สินสำรองที่ได้รับการยอมรับในระดับรัฐและรัฐบาล ข้อมูลจาก Forbes ยังชี้ให้เห็นว่าในปี 2025 รัฐบาลบางแห่งในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin เพื่อความมั่นคงทางการเงิน
ตัวอย่างเช่น บริษัท Tether ที่เพิ่งซื้อ Bitcoin มูลค่าถึง 700 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้พอร์ตสินทรัพย์คริปโตของบริษัทมีมูลค่ารวม 82,983 BTC สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นขององค์กรขนาดใหญ่ต่อ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์สำคัญ
ราคา Bitcoin: แนวโน้มและอุปสรรค
ในด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค Bitcoin ปัจจุบันซื้อขายอยู่ใกล้ตำแหน่งแนวต้านสำคัญที่ 98,000 ดอลลาร์ ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ อาจมีโอกาสที่จะทะลุ 100,022 ดอลลาร์ หากการสะสม Bitcoin ของรัฐถูกบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม นักลงทุนอาจเห็นความต้องการสินทรัพย์นี้เพิ่มขึ้นจนส่งผลต่อราคาในตลาด

อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน Bitcoin ยังคงมีความท้าทาย เช่น ความผันผวนของราคาและความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ ซึ่งนักลงทุนควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด





