XT.com ระงับถอนเงิน หลังถูกสงสัยว่าโดนแฮ็ก สูญเสีย $1.7M
Crypto Disclaimer (คำเตือน)
แพลตฟอร์มได้อ้างว่าสาเหตุการหยุดให้บริการเกิดจาก “การอัปเกรดกระเป๋าและการบำรุงรักษา”
XT.com ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีที่ตั้งอยู่ใน Seychelles ได้ระงับการถอน หลังมีรายงานถึงเหตุการณ์สงสัยว่าถูกแฮ็กและเสียหายมูลค่าประมาณ $1.7 ล้าน
ในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน แพลตฟอร์มได้อ้างในตอนแรกว่าการหยุดให้บริการเกิดจาก “การอัปเกรดกระเป๋าและการบำรุงรักษา”
“เนื่องจากการอัปเกรดกระเป๋าเงินและการบำรุงรักษา XT ได้ระงับการถอนเหรียญทั้งหมด ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นระหว่างการระงับครั้งนี้” ทางแพลตฟอร์มได้โพสต์ข้อความนี้ไว้
PeckShield ชี้ XT.com สูญเงินไป $1.7 ล้าน
อย่างไรก็ตาม ในโพสต์บน X บริษัทด้านความปลอดภัยบล็อกเชนอย่าง PeckShield กล่าวว่า XT.com อาจสูญเสียเงินคริปโตมูลค่า $1.7 ล้านจากการถูกแฮ็ก
PeckShield ได้ระบุกระเป๋า Ethereum ที่เชื่อมโยงกับแฮ็กเกอร์ที่ถูกกล่าวหา โดยรายงานว่ามีการแปลงเงินที่ถูกขโมยไปเป็น 461.58 Ether (ETH) และปัจจุบันสินทรัพย์ยังคงอยู่ในกระเป๋านี้
ไม่นานหลังจากนั้น XT.com ก็ออกมายอมรับว่ามี “การโอนสินทรัพย์ในกระเป๋าเงินของแพลตฟอร์มที่ผิดปกติจริง” แต่ยืนยันกับผู้ใช้งานว่าสินทรัพย์ของพวกเขายังคงปลอดภัย
แพลตฟอร์มดังกล่าวเคลมว่ามีนโยบายสำรองทรัพย์ในอัตรา 1.5 เท่าเพื่อปกป้องสินทรัพย์ของผู้ใช้งาน
XT.com เริ่มต้นเปิดตัวเมื่อปี 2018 และเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 1,000 สกุล
ข้อมูลจาก CoinGecko รายงานว่า XT.com มีเงินสำรองอยู่ที่ $47.7 ล้าน และมีปริมาณการซื้อขายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึง $3.3 พันล้าน
การแฮกในครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ล่าสุดในชุดของการโจมตีที่พุ่งเป้าไปที่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนหรือ exchange อย่างก่อนหน้านี้ที่ BingX และ Indodax ก็สูญเสียเงินไป $43 ล้าน และ $22 ล้าน ตามลำดับ ในเดือนกันยายน
อัยการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัย 5 รายในแผนการแฮ็กคริปโตมูลค่า $11M
การแฮ็กล่าสุดนี้เกิดขึ้นในขณะที่การโจมตีแบบฟิชชิ่งและการหลอกลวงที่เกี่ยวกับคริปโตยังคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ใช้งาน โดยส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างมาก
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อัยการของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหากับบุคคล 5 รายที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการแฮ็กขั้นสูง ซึ่งถูกกล่าวหาว่าขโมยคริปโตและข้อมูลที่มีความอ่อนไหวรวมมูลค่ามากถึง 11 ล้านดอลลาร์จากบุคคลและบริษัทต่างๆ ในหลายประเทศ
จากข้อมูลในเอกสารของศาล มีการกล่าวหาว่าแฮกเกอร์กลุ่มนี้ได้โจมตีเป้าหมายอย่างน้อย 29 คน โดยหนึ่งในเหยื่อถูกขโมยสกุลเงินดิจิทัลมูลค่ากว่า $6.3 ล้าน หลังจากที่อีเมลและดิจิทัลวอลเล็ตของพวกเขาถูกแฮกไป
อัยการระบุว่ากลุ่มนี้ยังได้มุ่งเป้าไปที่บริษัทจำนวน 45 แห่งในสหรัฐฯ แคนาดา อินเดีย และสหราชอาณาจักร
และหนึ่งในเป้าหมายของพวกเขาก็คือ cryptocurrency exchange หรือกระดานเทรดคริปโตในสหรัฐฯ ที่พนักงานถูกหลอกด้วยข้อความปลอมเพื่อให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับระบบ
ข้อความ phishing เหล่านี้ได้เตือนพนักงานว่าบัญชีของพวกเขาจะถูกปิดใช้งานหากไม่ดำเนินการตามลิงก์ที่แนบมาไว้ในข้อความ
ตามรายงาน Department of Homeland Security (DHS) ได้ยุติเหตุการณ์หลอกลวงที่เกี่ยวกับคริปโตไปหลายร้อยกรณี และสามารถกู้คืนคริปโตที่ถูกขโมยกลับมาได้เป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2021
เจ้าหน้าที่สืบสวนของ DHS ได้สกัดกั้นการโจมตี ransomware จำนวน 537 กรณี ก่อนที่จะสร้างความเสียหายในวงกว้าง
ความพยายามที่นำโดยศูนย์อาชญากรรมไซเบอร์ของ Homeland Security Investigations (HSI) ได้พิสูจน์แล้วว่าการปกป้องหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของภัยคุกคามไซเบอร์เหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งและไม่สามารถเพิกเฉยได้
ข่าวเด่นห้ามพลาด
in numbers
