แคนาดา-จีน ตอบโต้ US กรณีขึ้นภาษี – ทำวงการคริปโตนั่งไม่ติด

หลังสหรัฐยืนยันขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและจีน ทั้งสองประเทศนี้ก็ไม่นิ่งเฉยแคนาดามีการประกาศเรียกเก็บภาษี 25% กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่จีนเพิ่มอัตราภาษีสินค้านำเข้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารจากอเมริกาเป็น 10%-15%
สถานการณ์การค้าระดับโลกได้รับแรงกระแทกอีกครั้ง เมื่อจีนและแคนาดาตอบโต้การปรับภาษีรอบล่าสุดของสหรัฐฯ ผลักดันให้เศรษฐกิจใหญ่ของโลกเข้าใกล้ความเสี่ยงของสงครามการค้าเต็มรูปแบบมากขึ้น
ก่อนที่มาตรการตอบโต้นี้จะเกิดขึ้น ตลาดคริปโตก็เผชิญแรงกดดันอยู่แล้ว โดยราคาสินทรัพย์ดิจิทัลปรับลดลงถึง 12% ในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนประเมินความเสี่ยงใหม่ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น
แคนาดาเรียกเก็บภาษี 25% กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรี Justin Trudeau ของแคนาดาได้ประกาศมาตรการตอบโต้เมื่อค่ำวันจันทร์ โดยยืนยันว่าจะเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมเป็นต้นไป มาตรการนี้จะยังคงอยู่จนกว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกภาษีที่กำหนดกับสินค้าของแคนาดา
สิ่งที่น่าสนใจคือ ภาษีดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อสินค้าที่กำลังขนส่งอยู่ ทำให้การจัดส่งที่ดำเนินการไปแล้วจะไม่ได้รับผลกระทบในทันที
การตอบโต้ครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ประธานาธิบดี Donald Trump ของสหรัฐฯ เดินหน้ากำหนดภาษี 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก รวมถึงภาษีอีก 10% สำหรับสินค้ากลุ่มพลังงานของแคนาดา หลังจากที่มาตรการผ่อนผันชั่วคราวสิ้นสุดลง
Trudeau ยังส่งสัญญาณว่าอาจมีมาตรการเพิ่มเติม แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่าสินค้ากลุ่มใดจะถูกพิจารณาในรอบถัดไป
จีนขึ้นบัญชีดำบริษัทสหรัฐฯ 25 แห่ง ตอบโต้ “การขึ้นภาษี”
ในขณะเดียวกัน จีนก็ไม่น้อยหน้า มีการดำเนินมาตรการตอบโต้ด้วยสองแนวทาง โดยเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารจากสหรัฐฯ เป็น 10%-15%
พร้อมกันนี้ จีนยังขึ้นบัญชีดำบริษัทสัญชาติอเมริกันจำนวน 25 แห่ง เป็นการกำหนดข้อจำกัดด้านการส่งออกและการลงทุน โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
แม้ในอดีตมาตรการตอบโต้ของจีนจะมุ่งเป้าไปที่แบรนด์สินค้าชื่อดัง แต่ครั้งนี้จีนเลือกเลี่ยงการกระทบกับแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในตลาด และพุ่งเป้าไปที่บริษัทในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายอาวุธของสหรัฐฯ ให้ไต้หวันแทน
จังหวะเวลาของการเคลื่อนไหวครั้งนี้สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเกิดขึ้นในวันที่ภาษี 10% ของสหรัฐฯ สำหรับสินค้าจีนมีผลบังคับใช้ ทำให้อัตราภาษีรวมสูงถึง 20% ในสินค้าบางกลุ่ม
ฝ่ายทำเนียบขาวระบุว่าการเพิ่มภาษีครั้งนี้เป็นการโต้ตอบต่อสิ่งที่สหรัฐฯ มองว่าเป็นความล้มเหลวของจีนในการควบคุมการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ ซึ่งยิ่งทำให้การเจรจาการค้าที่มีความซับซ้อนอยู่แล้วยากขึ้นไปอีก
ตลาดคริปโตดิ่ง แม้มีข้อเสนอนโยบายอื่นจาก Trump
ตลาดคริปโตที่เคยพุ่งขึ้นชั่วคราวจากข้อเสนอในช่วงสุดสัปดาห์ของ Trump ที่ต้องการสร้าง “U.S. Strategic Crypto Reserve” กลับพลิกทิศทางในวันอังคารที่ 4 มีนาคม
โดยมูลค่าตลาดรวมลดลงถึง 12% แสดงให้เห็นว่านักลงทุนกำลังเผชิญสัญญาณที่ขัดแย้งกัน ระหว่างความคาดหวังเชิงบวกต่อการนำคริปโตมาใช้ในสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากความตึงเครียดทางการค้า
ในครั้งนี้ ต้องยอมรับว่า Bitcoin และ Ethereum ได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่เหรียญ altcoins ขนาดเล็กร่วงหนักกว่า เนื่องจากเทรดเดอร์พากันโยกเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากนี้ วาทกรรมการค้าเชิงรุกยังส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ดั้งเดิม โดยตลาดหุ้นเผชิญความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและไม่ได้รับการคุ้มครองจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์

ตลาดจับตาการตอบโต้จาก US หลังแคนาดาและจีนเคลื่อนไหว
หลังจากที่แคนาดาเริ่มบังคับใช้ภาษีอย่างเป็นทางการ และจีนดำเนินมาตรการตอบโต้ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ความสนใจทั้งหมดจึงพุ่งไปที่ท่าทีของสหรัฐฯ ว่าจะตอบสนองอย่างไร
โดยก่อนหน้านี้ Trump เคยส่งสัญญาณว่าอาจมีการขึ้นภาษีเพิ่มเติม หากประเทศคู่ค้าไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ
หากสถานการณ์เลวร้ายลง ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจกดดันสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่อไป รวมถึงคริปโตเองที่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เริ่มสะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคมากขึ้น






